หลวงปู่ใส กันตสีโล – “พระครูวิสุทธิสีลานุยุต” หรือ หลวงปู่ใส กันตสีโล อดีตเจ้าคณะตำบลเมืองเตา และอดีตเจ้าอาวาสวัดทุ่งเมืองเตา ต.เมืองเตา อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม เป็นพระปฏิบัติดี นอกจากท่านจะเชี่ยวชาญวิปัสสนากัมมัฏฐาน ยังมีพุทธาคมที่เข้มขลัง อยู่ในศรัทธาของญาติโยมนับแต่อดีต จวบจนปัจจุบัน
ถึงแม้ท่านจะละสังขารไปนานแล้วก็ตามเห็นได้จากเมื่อถึงครบรอบวันมรณภาพ วัดทุ่งเมืองเตา พร้อมญาติโยมทั้งใกล้และไกล ร่วมทำบุญอุทิศส่วนกุศลน้อมรำลึกถึงคุณความดีของท่านทุกปี
มีนามเดิม ใส ภาโสภะ เกิดเมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2466 บ้านเลขที่ 26 หมู่ที่ 1 ต.เมืองเตา อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม เป็นบุตรของนายหีดและนางใบ ภาโสภะ ครอบครัวประกอบอาชีพทำไร่ทำนา
อุปนิสัยช่วงวัยเด็กเป็นคนมีจิตใจ โน้มเอียงเข้าหาพระธรรม ยามว่างจากการช่วยงานครอบครัว มักจะไปช่วยงานที่วัดเป็นประจำ
อายุครบ 20 ปี พ.ศ.2487 เข้าพิธีอุปสมบท ที่อุโบสถวัดบ้านเมืองเตา โดยมีพระครู จันทสีตลคุณ วัดทองนพคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์, เจ้าอธิการพวง กันตธัมโม วัดรัตนวัน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูบุญมามานิตย์ วัดรัตนมานิตย์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์
จำพรรษาศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมอยู่ที่วัดทุ่งเมืองเตามาโดยตลอด ด้วยความที่เป็นพระปฏิบัติจึงได้รับความไว้วางใจจาก คณะสงฆ์ให้ขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดทุ่งเมืองเตา ในปี พ.ศ.2496 นอกจากจะรับผิดชอบงานปกครอง ยังนิยมชมชอบการวิปัสสนา จึง เดินทางไปเรียนวิปัสสนากัมมัฎฐานที่วัดมหาธาตุฯ กรุงเทพฯ จนเชี่ยวชาญรวมทั้งได้ศึกษาวิทยาคมจากพระเกจิอาจารย์ในพื้นที่หลายท่าน
นอกจากนี้ ช่วงปีใดที่ว่างจากภาระงานปกครองในวัด จะออกปลีกวิเวกธุดงควัตรแสวงหาโมกขธรรมไปจำพรรษาอยู่ตามป่าเขา รวมทั้งวัดหลายแห่งทั้งในประเทศ อาทิ วัดในเขต อ.เชียงแสน จ.เชียงรายและข้ามไปปฏิบัติธรรมในประเทศเมียนมา เคยจำพรรษาวัด ในเขต จ.หนองคาย รวมทั้งข้ามไปปฏิบัติธรรมที่ป่าเขาในประเทศ สปป.ลาว จำพรรษาที่วัดนิคม อ.พิมาย จ.นครราชสีมา และ จำพรรษาที่วัดวิเวกอาสม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เป็นต้น
ต่อมาเดินทางกลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดทุ่งเมืองเตา ร่วมมือกับญาติโยมพัฒนาวัดทุ่งเมืองเตา อาทิ อุโบสถ กำแพงแก้ว หอระฆัง ฯลฯ
Advertisement
อีกทั้งยังเป็นพระที่มีผลงานเผยแผ่พระธรรมคำสอนอย่างต่อเนื่องเทศนาสั่งสอนอบรมให้พุทธศาสนิกชนยึดหลักศีล 5 ในการดำเนินชีวิต มีความกตัญญูต่อบิดา มารดา ครู อาจารย์ และผู้มีพระคุณ จะทำให้ชีวิตพานพบแต่ความสุข
ด้วยวัตรปฏิบัติที่ดีงามเสมอต้นเสมอปลายเปี่ยมด้วยเมตตาธรรม ทำให้ท่านมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ในแต่ละวันจึงมีพุทธศาสนิกชนในและนอกพื้นที่เข้ามากราบนมัสการรับฟังธรรม รวมทั้งประพรมน้ำพระพุทธมนต์ที่เข้มขลังจากหลวงปู่อย่างไม่ขาดสาย
สำหรับปัจจัยที่ได้หาเก็บงำไว้เป็นสมบัติส่วนตัว นำออกมาใช้พัฒนาวัดให้มีความเจริญรุ่งเรืองดังปรากฏเห็นอยู่ในปัจจุบัน
ลำดับงานปกครองและสมณศักดิ์ พ.ศ.2518 เป็นเจ้าคณะตำบลเมืองเตา และเป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2527 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูวิสุทธิสีลานุยุต
หลังจากตรากตรำรับใช้พระพุทธศาสนามาอย่างยาวนาน ช่วงบั้นปลายของชีวิตอาพาธบ่อยครั้ง ด้วยโรคเบาหวาน ญาติโยมนำไปรักษาที่โรงพยาบาลหลายแห่ง แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น
สุดท้ายมรณภาพด้วยอาการสงบ ในปี พ.ศ.2536 สิริอายุ 71 ปี พรรษา 50
เชิด ขันตี ณ พล
