แข้งอายุน้อย-มากสุดแห่งยูโร2020 – ศึกฟุตบอลยูโรถือเป็นอีกเวทีสำหรับแจ้งเกิดแข้งดาวรุ่ง รวมถึงยังอาจเป็นโอกาสฉายแสงครั้งสุดท้ายของนักเตะวัยดึกที่ใกล้ แขวนสตั๊ด นี่คือการจัดอันดับของผู้เล่นอายุมากสุดและน้อยสุดประจำยูโร 2020
อายุมากสุด
อันดับ 1 มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก – เนเธอร์แลนด์
(38 ปี, เกิด 22 กันยายน 1982)
เริ่มติดธงมาตั้งแต่ปี 2004 นับถึงตอนนี้ มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก ก็เป็นขุนพลทีมชาติเนเธอร์แลนด์มานานถึง 17 ปีแล้ว
อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่แล้วสเตเคเลนเบิร์กมักจะเป็นตัวสำรองเสียมากกว่า ถึงตอนนี้เพิ่งได้เล่นในนามทีมชาติไปเพียง 58 นัด และไม่ได้ลงเฝ้าเสาให้ทัพ “กังหันสีส้ม” มาตั้งแต่ปี 2016 เลยทีเดียว ซึ่งในยูโร 2020 หนนี้ เจ้าตัวก็น่าจะเป็นเพียงตัวสำรองเช่นเดิม
อันดับ 2 เคร็ก กอร์ดอน – สกอตแลนด์
(38 ปี, เกิด 31 ธันวาคม 1982)
เริ่มติดทีมชาติมาตั้งแต่ปี 2004 และเคยเป็นมือ 1 อย่างมั่นคงอยู่นานพอสมควร แต่ก็มีช่วงเวลาที่เผชิญอาการบาดเจ็บยาวจนห่างจากทีมชาติ ถึงตอนนี้ลงเล่นให้สกอตแลนด์ไปแล้ว 57 นัด และนี่ยังเป็นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ทีมชาติหนแรกในชีวิตเจ้าตัวด้วย
ในยูโร 2020 กอร์ดอนยังพอมีโอกาสลุ้นแย่งมือ 1 แต่ต้องยอมรับว่าภาษีค่อนข้างด้อยกว่า เดวิด มาร์แชลล์ ซึ่งเฝ้าเสาเกือบทุกนัดในรอบคัดเลือกที่ผ่านมา
อันดับ 3 เปเป – โปรตุเกส
(38 ปี, เกิด 26 กุมภาพันธ์ 1983)
ติดทีมชาติมาตั้งแต่ปี 2007 และเป็นตัวหลักของโปรตุเกสมายาวนานจนถึงปัจจุบัน แม้ช่วงหลังจะพลาดไปหลายเกมพอสมควร เนื่องจากอาการบาดเจ็บเล่นงาน
เปเปติดทีมชาติไปแล้วถึง 114 นัด สัมผัสทัวร์นาเมนต์สำคัญมาตลอด รวมถึงเป็นกำลังสำคัญนำโปรตุเกสผงาดแชมป์ยูโร 2016 ส่วนยูโรหนนี้หากไม่มีอะไรผิดพลาด คาดว่าเจ้าตัวก็น่าจะได้เป็นแกนหลักของทีมเช่นเดิม
อันดับ 4 โกรัน ปานเดฟ – นอร์ทมาซิโดเนีย
(37 ปี, เกิด 27 กรกฎาคม 1983)
ติดทีมชาติมาตั้งแต่ปี 2001 และอยู่คงกระพันมานาน จนช่วยให้นอร์ทมาซิโดเนียเข้าสู่รอบสุดท้ายยูโรหนนี้ เป็นทัวร์นาเมนต์ใหญ่หนแรกในประวัติศาสตร์ของชาติด้วย
ปานเดฟติดธงมาแล้ว 119 นัด ยิงไป 37 ประตู แน่นอนว่ายูโร 2020 เจ้าตัวจะยังเป็นที่พึ่งของทีมเหมือนเช่นเดิม
อันดับ 5 ยูริ ชีร์คอฟ – รัสเซีย
(37 ปี, เกิด 20 สิงหาคม 1983)
ติดทีมชาติมาตั้งแต่ปี 2005 ซึ่งด้วยวัยขนาดนี้ บวกกับตำแหน่งที่เล่นอย่างแบ๊กซ้าย ต้องบอกว่าเหลือเชื่อที่เจ้าตัวยังมีบทบาทกับทีมชาติมาถึงปัจจุบัน ผ่านทัวร์นาเมนต์ใหญ่อย่างฟุตบอลโลก 2014, 2018 และยูโร 2008, 2012 ส่วนยูโรหนนี้ก็มีโอกาสสูงที่จะได้ลงตัวจริง
อายุน้อยสุด
อันดับ 1 แคชเพอร์ คอสลอฟสกี – โปแลนด์
(17 ปี, เกิด 16 ตุลาคม 2003)
ทำผลงานโดดเด่นในทีมชาติชุดเยาวชน และเพิ่งเริ่มติดทีมชาติชุดใหญ่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้เอง ตอนนี้ได้ลงไป 2 นัด แต่เป็นตัวสำรองทั้งหมด ซึ่งในยูโรหนนี้เจ้าตัวคงมีลุ้นแค่ได้ลงไปสัมผัสเกมบ้าง
อันดับ 2 จูด เบลลิงแฮม – อังกฤษ
(17 ปี, เกิด 29 มิถุนายน 2003)
แม้จะอายุเท่านี้ แต่เบลลิงแฮมก็เป็นตัวหลักของโบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ ในบุนเดส ลีกา เยอรมนี ไปเรียบร้อยแล้ว ติดธงอังกฤษชุดใหญ่มาแล้ว 3 นัด ยูโรหนนี้เจ้าตัวก็พอมีโอกาสแย่งตำแหน่งตัวจริง แต่ต้องลุ้นกันเหนื่อยหน่อย
อันดับ 3 จามาล มูเซียลา – เยอรมนี
(18 ปี, เกิด 26 กุมภาพันธ์ 2003)
ฤดูกาลล่าสุดมีบทบาทกับบาเยิร์นมิวนิก แห่งบุนเดสลีกา เยอรมนี อยู่พอสมควร ก่อนจะตัดสินใจเลือกเล่นทีมชาติเยอรมนี และติดธงไปแล้ว 2 นัด สำหรับยูโรหนนี้อาจต้องนั่งสำรองไปก่อน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสได้ลงเล่นเลย
อันดับ 4 เปดรี กอนซาเลซ – สเปน
(18 ปี, เกิด 25 พฤศจิกายน 2002)
ด้วยอายุเพียงเท่านี้แต่ได้ลงสนามให้บาร์เซโลนาแห่งลา ลีกา แบบ ต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงความไม่ธรรมดาของเปดรี กระทั่งได้รับโอกาสติดทีมชาติชุดใหญ่ในปีนี้ ลงเล่นไปแล้ว 4 นัด ยูโรหนนี้เรียกว่ามีโอกาสแย่งตำแหน่งตัวจริงได้
อันดับ 5 จอร์จี ซูดาคอฟ และอิลยา ซาบาร์นี – ยูเครน
(18 ปี, วันเกิด 1 กันยายน 2002)
ทั้งคู่อยู่ทีมชาติเดียวกัน แถมดันเกิดวันเดียวกันอีก แต่สถานะยังค่อนข้างต่างกันอยู่ ซูดาคอฟเป็นกองกลางที่ยังเป็นเพียงตัวสำรองทีมชาติ ยูโรหนนี้อาจจะไม่ได้ลงเล่นเลยด้วยซ้ำ ขณะที่ซาบาร์นีเป็นปราการหลังซึ่งถูกผลักดันให้ขึ้นมายึดตัวจริงไปแล้ว
