ชาวนา กับ ทิศทาง การปฏิวัติ (99) – หากสำรวจผ่านหนังสือ “สรรนิพนธ์ เหมาเจ๋อตง เล่ม 1 ตอนต้น” อันเป็นการรวบรวมบทนิพนธ์อย่างที่เรียกว่า “สมัยสงครามปฏิวัติภายในประเทศ ครั้งที่ 1”

ก็จะเข้าใจกระบวนการเคลื่อนไหวของเหมา

ก็จะเข้าใจการเข้าไปเกี่ยวข้องและสัมพันธ์ของเหมา ทั้งในทาง “ความคิด” ทั้งในทาง “การเมือง” และทั้งในทาง “การจัดตั้ง” อย่างสมบูรณ์ ครบถ้วน

เริ่มจาก “การวิเคราะห์ชนชั้นต่างๆ ในสังคมจีน” เมื่อเดือนมีนาคม 1926

ตามมาด้วย “รายงานสำรวจการเคลื่อนไหวชาวนาในมณฑลหูหนาน” เมื่อเดือนมีนาคม 1927 ประสานกับความเป็นจริงที่เหมาต้องเผชิญก็จะประจักษ์

ประจักษ์ว่าความสนใจของเหมาหันไปสู่ประเด็น “ชาวนา”

ประจักษ์ว่าการต่อสู้ไม่ว่าจะภายในพรรคก๊กมินตั๋ง ไม่ว่าจะภายในพรรคคอมมิวนิสต์จีน ไม่ว่าระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์จีนกับสากลคอมมิวนิสต์

เริ่มมีปัญหา “ชาวนา” เข้ามาเป็น “ศูนย์กลาง” แห่งการถกเถียงหาทางออก

ช่วงที่น่าสนใจเป็นอย่างมากของเหมาย่อมเป็นช่วงที่เขาวางมือจากงานของพรรคก๊กมินตั๋ง จากงานของพรรคคอมมิวนิสต์อย่างเกือบจะสิ้นเชิง

เดินทางจากกวางต่งกลับไปยังฉางซา มณฑลหูหนาน

แหล่งข้อมูลต่างๆ ในห้วงเวลานี้มองด้วยมุมอันแตกต่างกัน บ้างก็ว่าเพราะเหมาถูกลงโทษพักงาน ออกจากตำแหน่ง บ้างก็ว่าเพราะเจ็บไข้ได้ป่วย

การเดินทางไปยังมณฑลหูหนานนี่แหละคือรากฐานใหญ่ของเหมา

เพราะเหมามิได้หยุดลงในฉางซาเท่านั้น หากแต่ได้หวนกลับไปยังเสาซาน บ้านเกิด ดำเนินการเคลื่อนไหวอยู่ในท่ามกลางชาวนา

ในที่สุดก็ปรากฏผ่าน “รายงานสำรวจการเคลื่อนไหวชาวนาในมณฑลหูหนาน”

“นิพนธ์เรื่องนี้เขียนขึ้นเพื่อตอบเสียงตำหนิติเตียนทั้งในพรรคและนอกพรรคเวลานั้นที่มีต่อการต่อสู้ปฏิวัติของชาวนา เหมาได้เดินทางไปสำรวจหูหนานเป็นเวลา 32 วัน”

เป็นการตอบคำถาม “แย่เต็มที” หรือ “ดีเหลือเกิน”

เป็นเรื่องที่มวลชนชาวนาอันไพศาลลุกขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่ทางประวัติศาสตร์ของตนให้ลุล่วงไป เป็นเรื่องที่กำลังประชาธิปไตยในชนบทลุกขึ้นมาคว่ำอิทธิพลศักดินาในชนบท

พวกเจ้าถิ่น ผู้ดีเลวร้ายและชนชั้นเจ้าที่ดินที่ไม่แยแสต่อกฎหมายบ้านเมือง

ซึ่งต่างก็มีลักษณะศักดินาแบบพ่อบ้านอันเป็นรากฐานการเมืองของระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์นับเป็นเวลาหลายพันปี

เป็นฐานกำแพงของจักรพรรดินิยม ขุนศึกและข้าราชการฉ้อราษฎร์บังหลวง

การคว่ำอิทธิพลศักดินานี้เป็นเป้าหมายอันแท้จริงของการปฏิวัติประชาราษฎร์ ท่านซุนยัตเซ็นได้อุทิศตนเพื่อการปฏิวัติประชาราษฎร์มาเป็นเวลา 40 ปี

งานที่ท่านจะทำแต่ยังทำไม่ได้นั้น ชาวนาทำได้แล้วในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน

นี่เป็นคุณงามความดีที่น่าอัศจรรย์ซึ่งไม่เคยทำสำเร็จมาก่อนเลยในระยะเวลา 40 ปี หรือกระทั่งหลายพันปีที่แล้วมา มันช่างดีเสียจริง

ไม่มีอะไร “แย่” เลยสักนิด

การเติบใหญ่ของขบวนการชาวนาได้สร้างความมั่นใจเป็นอย่างสูงให้กับเหมา และตระหนักว่าการเข้าไปเคลื่อนไหวในท่ามกลางชาวนาเท่านั้นคือแนวทางที่ถูกต้อง

เป็นลักษณะพิเศษอันดำรงอยู่ในสังคมจีน

แม้จะมีความมั่นใจในทางความคิด และในทางทฤษฎี แต่เหมาก็ต้องประสบกับกระแสคัดค้านต่อต้านอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยังขัดกับความเข้าใจเดิมต่อการปฏิวัติ

เพราะเห็นว่าการปฏิวัติต้องอาศัยกำลังของกรรมกร

สถานการณ์การล้อมปราบไม่ว่าจะเกิดขึ้นในเดือนเมษายน 1927 สถานการณ์การลุกขึ้นสู้แม้จะได้ชัยชนะเฉพาะส่วน แต่ก็เป็นชัยชนะอันสั้นๆ และถูกบดขยี้ล้อมปราบ

เส้นทางของพรรคคอมมิวนิสต์จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน