นายกรัฐมนตรีแถลงผ่านการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ทั่วประเทศ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 16 มิถุนายน 2564 ตั้งเป้าหมายว่า ต้องเปิดประเทศภายในระยะเวลา 120 วัน
เป้าหมายคือเปิดเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ให้เดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว และไม่มีเงื่อนไขข้อห้ามที่สร้างความยุ่งยากลำบาก
รวมถึงคนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศ หากฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ก็จะสามารถเดินทางกลับ เข้าประเทศของตัวเองได้ โดยไม่ต้องกักตัว เช่นเดียวกันกับนักท่องเที่ยว
กำหนดเริ่มนับถอยหลังในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 โดยมีจังหวัดภูเก็ตเป็นพื้นที่นำร่อง
เป็นที่ทราบกันดีว่า ในช่วงการระบาดของเชื้อ โควิด-19 ตั้งแต่เมื่อต้นปี 2563 ประเทศประสบกับวิกฤตอย่างหนัก โดยเฉพาะความชะงักงันด้านเศรษฐกิจ
การท่องเที่ยวซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญมากในการสร้างรายได้ในอันดับต้นๆ หดหายไปอย่างคาด ไม่ถึง และกระทบต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ถึงธุรกิจการบิน การบริการ โรงแรม สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
การระบาดระลอกแรก รัฐบาลใช้มาตรการ เข้มงวดถึงขนาดประกาศเคอร์ฟิวห้ามบุคคล ออกนอกเคหสถานในเวลาที่กำหนด ปิดสถานบริการ ครั้งที่สอง ใช้มาตรการกำหนดพื้นที่ควบคุม เช่นเดียวกับระยะที่ 3 ที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้
แต่ก็ยังไม่สามารถควบคุมได้ มีผู้ติดเชื้อ ป่วยใหม่วันละไม่ต่ำกว่า 2 พันคน และยอดเสียชีวิตก็ใกล้จะทะลุถึง 2 พันรายแล้ว
ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็มีปัญหาเรื่องการบริหารจัดหาและกระจายวัคซีนที่ไม่เพียงพอ ตั้งแต่วันเริ่มฉีดวาระแห่งชาติในวันที่ 7 มิถุนายนเป็นต้นมา และก่อนหน้านี้ในกลุ่มแพทย์และบุคลากรด้านสาธารณสุข
นายกรัฐมนตรีประกาศเป้าหมายว่าภายใน สิ้นปีนี้จะต้องฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนให้ได้ อย่างน้อย 50 ล้านคน แต่ขณะนี้ฉีดได้เพียง 10 เปอร์เซ็นต์หรือ 5 ล้านคนเท่านั้น ทั้งเข็มแรกและเข็มสอง
ระยะเวลา 120 วันที่จะเปิดประเทศ ซึ่งอยู่ในช่วงเดือนตุลาคม หลายฝ่ายมีความกังวลว่าจะสามารถ ดำเนินการได้อย่างไร ในเมื่อแผนการฉีดวัคซีนก็สะดุด และภาคบริการก็ยังเปิดไม่ได้
ถ้าประเทศไร้ความปลอดภัย ประชาชน ยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อ แถมจำนวนป่วยและตายก็ไม่ลดลง นักท่องเที่ยวที่ไหน จะกล้าเดินทางเข้ามา
