‘อ้อม’แง้มทริกผู้จัด – “แค้นรักสลับชะตา” เป็นละครเรื่องที่ 2 ที่ทำป้อนช่อง 3 ในฐานะผู้จัด สำหรับนักแสดงมากฝีมือ ‘อ้อม’ พิยดา จุฑารัตนกุลโดยคว้า 4 นักแสดงนำ อาเล็ก ธีรเดช, กระทิงขุนณรงค์, น้ำตาล พิจักขณา และ บัว นลินทิพย์ ชูโรง 
วันนี้โอกาสดี ได้พูดคุยกับสาวอ้อมถึงการทำงาน รวมถึงการเลี้ยงดูลูกสาวสุดที่รัก ‘น้องนาวา’
“แค้นรักสลับชะตา” ยากง่ายหรือ แตกต่างจากเรื่องแรกที่ทำกับช่อง 3 ยังไง?
อ้อม – “จริงๆ ไม่ว่าจะทำงานชิ้นไหนเราเต็มที่ทุกเรื่อง อย่างความยากของมันเราจะเปลี่ยนให้เป็นความสนุก งานที่ออกมาสู่สายตาคนดูก็จะสนุกด้วย ส่วนความง่ายจริงๆก็ไม่ง่าย คือพอเรารู้ว่ากระบวนการในการทำงานทำยังไง เราก็จะพยายามพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างเรื่องนี้เราพล็อตเรื่องขึ้นมา เป็นอีกมิติหนึ่งของละคร เป็นดราม่า โรแมนติก ไซไฟ และแอ๊กชั่น พยายามทำให้ครบรสเท่าที่เราจะสนุกกับมัน” 
ทำไมลงตัวที่ 4 คนนี้ อาเล็ก กระทิง น้ำตาล และบัว?
อ้อม – “พอทำคาแร็กเตอร์เราก็คิดแล้วว่าพระเอกนางเอกแบบ 4 คนนี้จะเป็นยังไง จากนั้นก็เข้าไปคุยกับช่องว่านักแสดงคนไหนพอมีคิวบ้าง แต่เราก็จะดูคาแร็กเตอร์ด้วยว่าแต่ละคนเหมาะกับบทมั้ย ช่วยกันวาง จนออกมาเป็น 4 คนนี้ ถือว่าลงตัว”
ตอนนี้อยู่ในบทบาทการเป็นผู้จัด ที่ค่อนข้างชัดเจน แล้วการเป็นนักแสดงของตัวเอง วางเอาไว้ยังไงบ้าง?
อ้อม – “แสดงสิ ตอนนี้มีของทางช่องจีเอ็มเอ็ม 25 แล้วก็ช่อง 3 ด้วย ยังไงก็มี เพราะมันคัน อยากเล่น (หัวเราะ) พอทำไปปุ๊บรู้สึกอยากเล่นละครจัง พอมีเรื่องอะไรที่น่าสนุกเราก็รับเล่น” 
แล้วจะมีเรื่องที่เป็นผู้จัด เองและเล่นเองด้วยไหม?
อ้อม – “เรื่องหน้าดีมั้ย เอาแซ่บๆ ก่อนหน้านี้ที่ไม่ได้เล่นเรื่องตัวเองเพราะต้องจัดการอะไรหลายอย่าง แล้วก็เริ่มทำใจได้ ก่อนหน้านี้ทำใจไม่ได้ เมื่อก่อนเป็นนักแสดงพอฝนตกก็ดีจังได้หยุดพัก พอเป็นผู้จัด ฝนตกปุ๊บ ตายแล้วถ้าถ่ายไม่เสร็จจะยังไง เงินอันนี้ต้องไปทบอันนั้น แต่พอผ่านการทำงานมาสักพักเริ่มแมเนจได้ เลยมีความรู้สึกว่าก็ดีเหมือนกันถ้าเราเล่นละครเราเอง เพราะเราทำนักแสดงหล่อสวย เลยมีแพลนจะเล่นเองในเรื่องตัวเอง จะจัดไฟตัวเองอย่างสวย (หัวเราะ)”
ถามถึงบทบาทการเป็นคุณแม่ในช่วงสถานการณ์โควิดไม่หมดไปสักที?
อ้อม – “โควิดวิบวับ ตอนนี้ก็จะไปๆ กลับๆ หัวหิน เพราะลูกไปอยู่หัวหินถาวรในช่วงเรียนออนไลน์ โชคดีมีบ้านอยู่ที่นั่น เลยเอาไปแปะไว้ตรงนั้น พอเขาเรียนเสร็จตอนเย็นก็ยังได้ไปเล่นน้ำทะเล” 
น้องนาวาบ่นเรื่องเรียนออนไลน์บ้างไหม?
อ้อม – “จริงๆ มีความดีในความไม่ดี เรียนออนไลน์ตอนแรก ปวดหัวมากว่าลูกต้องรับผิดชอบเยอะ แต่โชคดีที่ความรับผิดชอบเขาภายในหนึ่งเดือนมันก้าวกระโดด เขาทำเองได้หมด เขาจะคุยกับครู ปรินต์งานเอง และส่งงานทางคอมฯ เสร็จสรรพ เขามีความตั้งใจและรับผิดชอบมากขึ้น แต่ถามว่าอยากให้ลูกเป็นอย่างนี้มั้ย ก็ไม่ได้อยากให้ต้องขนาดนี้ อยากให้ค่อยๆ มีพัฒนาการไปตามวัย ถ้าเปิดโรงเรียนเขาจะได้ไปเล่นกับเพื่อน ไปเจอสังคม ซึ่งตรงนี้หายไป อยากให้ลูกพัฒนาทั้งอีคิวและไอคิวควบคู่กัน” 
ตัวเราเครียดไหม?
อ้อม – “เครียดและอึดอัด แต่ในความอึดอัดนี้ไม่ใช่แค่เราคนเดียว มันอึดอัดทั้งโลกชีวิตมนุษย์มีทั้งเรื่องดีและไม่ดี เราจะอยู่ยังไงให้มีความสุขในทุกๆ สถานการณ์ เราก็เป็นรอยยิ้มและกำลังใจให้ทั้งตัวเองและคนอื่น ดีกว่า ทุกคนมีปัญหาที่ต่างกันออกไป ก็ช่วยเหลือแบ่งปันกันเท่าที่จะช่วยได้ค่ะ” 
ในวัยนี้ของน้องนาวา ห่วงเรื่องอะไรมากที่สุด?
อ้อม – “เรื่องกินค่ะ (หัวเราะ) อ้วนมาก กลายเป็นเด็กชอบกิน แม่ทำกับข้าวเยอะมากตอนแรกเขาไม่กินเลย จนเราพยายามให้กิน กลายเป็นตอนนี้กินทุกอย่าง น้ำหนักจะ 40 แล้ว 9 ขวบเอง”
เด็กบางคนในวัยนี้จะเริ่มรักสวยรักงาม ห่วงเรื่องรูปร่าง แต่น้องนาวาไม่แคร์จุดนี้เลยใช่ไหม?
อ้อม – “ยังไม่แคร์ เราเลี้ยงให้ไปตามวัย ไม่ได้ให้ดูอะไรเยอะแยะในสื่อโซเชี่ยล เขาอาจจะมีรักสวย รักงาม อยากทำสีผม แต่ถ้าแต่งตัวโป๊นี่ไม่ได้เลย ไม่ชอบ แต่เราก็บอกว่ารอดูก่อนนะจ๊ะ อายุ 15 อย่ามาเอวลอยให้ฉันเห็น เธอว่าฉันใส่เอวลอย “เนี่ย..แม่ นาวาคิดว่าอันนี้ไม่เหมาะสมนะแม่” แขนกุดสายเดี่ยวไม่ให้ใส่ อยู่บ้านยังไม่ให้ใส่เลยบอกไม่ควร นี่นึกในใจว่าโตขึ้นอย่าให้เห็นนะ (หัวเราะ)” 
แล้วน้องนาวามีแววเรื่องการแสดงบ้างไหม?
อ้อม – “ตอนนี้เขายังเด็ก ความใฝ่ฝัน ของเด็กยุคนี้ก็จะอยากเป็นลิซ่า เป็นเจนนี่ แบล็กพิงก์ สลับกันอยู่สองคนนี้ ร้องเพลง ทั้งวัน จริงๆ เขาอยากเรียนร้องเพลงเรียนเต้นแต่ตอนนี้ยังทำอะไรไม่ได้ เทควันโดก็ยังเรียนไม่ได้ เปียโนก็ปิดหมด เราเลยให้เขาไปอยู่หัวหิน คิดว่าส่วนหนึ่งที่เขาอ้วนขึ้น เพราะไม่ได้ออกกำลังกาย พื้นฐานเขาเป็นเด็กที่ชอบทำกิจกรรม” จิรณัฏฐ์ จงประสพมงคล
