ของจริงเริ่มแล้ว – รอบน็อกเอาต์ เริ่มต้นที่ 16 ทีมสุดท้ายคืนวันเสาร์ที่ 26 มิ.ย.จนถึงคืนวันอังคารที่ 29 มิ.ย. นัดเดียวรู้เรื่อง แพ้ตกรอบ ชนะไปต่อ
ทวนโปรแกรมอีกครั้งนะครับ ผมขอแยกเป็น “สายบน” และ “สายล่าง” ครับ
สายบน 1.อิตาลี-ออสเตรีย (26 มิ.ย.) 2. เบลเยียม-โปรตุเกส (27 มิ.ย.), 3.ฝรั่งเศส-สวิตเซอร์แลนด์ และ4.โครเอเชีย-สเปน (28 มิ.ย.) สี่คู่นะครับสายบน
ส่วนสายล่าง 5.เวลส์-เดนมาร์ก (26 มิ.ย.), 6. เนเธอร์แลนด์-สาธารณรัฐเช็ก (27 มิ.ย.) 7.อังกฤษ-เยอรมัน, 8.สวีเดน-ยูเครน (29 มิ.ย.)
ผมไม่เขียนเป็นวันที่ผมขอเขียนรวบรัดแยก “สายบน” และ “สายล่าง” เพื่อให้เห็นเกมต่อไปของทุกคู่ จะพบว่าสายบน “ทีมเต็ง” มารวมตัวกันยกแผงเลยครับ ทีมฟอร์มเด่นรอบแรก อิตาลี, เบลเยียม, โปรตุเกส, ฝรั่งเศส และสเปน ผู้ชนะคู่ 1-2 และผู้ชนะคู่ 3-4 ต้องตัดกันเองสุดท้ายเหลือหนึ่งเดียวเข้าชิงชนะเลิศ
ส่วนสายล่าง ถูกมองว่าเส้นทาง “เบากว่า” ผู้ชนะคู่ 5-6 และ 7-8 ตัดกัน โดยมีบิ๊กแมตช์รอบนี้คือ อังกฤษ-เยอรมัน ที่เหลือ เนเธอร์แลนด์, เช็ก, สวีเดน, เดนมาร์ก อะไรเหล่านี้คือทีมที่ไม่ต่างกันมากและถ้า เช็ก, เดนมาร์ก จะเข้ารอบต่อไปไม่แปลก และสายล่างเหลือหนึ่งเดียวไปชิงกับสายบน
ส่วนตัวของผมรวบรัดตัดตอนฟันธงว่า รอบรองชนะเลิศ “สายบน” เป็นเบลเยียม-ฝรั่งเศสครับ ส่วน “สายล่าง” เป็นเยอรมัน-เนเธอร์แลนด์ ดูชื่อคือบิ๊กแมตช์ทั้งหมด ส่วนฟอร์มนั้นอีกเรื่องครับ เพราะฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ ถ้าดีต้องดีให้ตลอด ซึ่งมันเกิดขึ้นไม่บ่อยกับทีมที่เล่นได้ท็อปฟอร์มรอบแรกอย่างสเปนปี 2008 ที่กรุยทางจนคว้าแชมป์อย่างสุดยอดยุคนั้น
ปี 2016 โปรตุเกสได้สามคะแนนรอบแรก เข้ารอบแบบเส้นยาแดงผ่าแปด สุดท้ายคว้าแชมป์ จากเกมรับสวนกลับที่แน่นอน จนถึงขั้นล้มฝรั่งเศสเจ้าภาพ เที่ยวนี้ อิตาลี เล่นดีรอบแรก แต่ผมดูว่ายังมีจุดที่น่าเป็นห่วงเหมือนกันกับคู่เซ็นเตอร์ที่ “อายุมาก” และยังไม่เจอบททดสอบจากตัวรุกระดับทวีป
ผมอาจจะคิดผิดก็ได้นะครับ มันคือทัศนะส่วนตัว ซึ่งผมเชื่อว่าทีมที่เริ่มจับจังหวะตั้งแต่รอบน็อกเอาต์ หรือรอบ “ของจริง” ได้ก่อน ทีมนั้นมีโอกาสจะลุ้นแชมป์ในวันที่ 11 ก.ค. นั่นเองครับ
