‘โบว์’ทุ่มแสดง‘เวราอาฆาต’ – สาวมากความสามารถ ‘โบว์’ แวนด้า สหวงษ์ ประเดิมร่วมงานกับช่อง 8 ครั้งแรก ด้วยละคร “เวราอาฆาต” ผลงานการแสดงเรื่องที่ 2 หลังเคยชิมลางงานแสดงกับซีรีส์ “Club Friday The Series 11 รักที่ไม่ได้ออกอากาศ”

โดยวันนี้ ‘แม่โบว์ แวนด้า’ คุณแม่คนสวยคนเก่งของ ‘น้องมะลิ’ มาเปิดใจพูดคุยถึงงานการแสดง รวมถึงชีวิตส่วนตัว

ละคร “เวราอาฆาต” เป็นการแสดงละครเรื่องที่เท่าไหร่?

โบว์ – “เป็นการแสดงเรื่องที่สอง แต่เป็นละครเรื่องแรก และเป็นการร่วมงานกับช่อง 8 ครั้งแรก ตอนแรกที่คุณเอ๊ะ อิศริยา ผู้จัดติดต่อมา ดีใจมาก เพราะก่อนหน้านี้เล่นเป็นซีรีส์ แต่ในความดีใจก็จะมีว่า อีกแล้วเหรอ เป็นคนดีเพียบพร้อม สุดท้ายสูญเสียคนที่เรารักมากๆ เลยโทร.ไปว่า โบว์ดีใจมากที่ได้เล่นละคร แต่โบว์ไม่อยากรับบทแบบนี้อีก ไม่อยากให้สภาวะทางอารมณ์และจิตใจกลับไปตรงนั้นอีกเพราะมูฟออนมาแล้ว คุณเอ๊ะก็บอกใจเย็นๆ ดูบทให้ดีก่อน เพราะตัวละครมีอะไรหลากหลายครบรสมาก เขาก็ส่งบทมาให้อีกรอบ เราก็เฮ้ยมีอย่างนี้ด้วย มีบทที่เราต้องแสดงอารมณ์โกรธแค้นจะฆ่าคน น่าลอง เลยตัดสินใจรับค่ะ”

คาแร็กเตอร์ในเรื่อง เหมือนหรือต่างจากเราเยอะไหม?

โบว์ – “ เรื่องนี้รับบท เอม เป็นคนเรียบร้อย ใจดี คิดบวก ชอบช่วยคนอื่น เมตตา ขี้สงสาร ซึ่งถ้าเทียบกับโบว์จริงๆ โบว์เป็นคนไม่เรียบร้อย กระโดกกระเดก แมนๆ ลุยๆ ถ้าใครเห็นมะลิจะรู้ว่าได้มาจากใคร”








Advertisement

ทำการบ้านยังไง?

โบว์ – “พยายามอ่านบทตั้งแต่ต้นจนจบ วันแรกจับทางไม่ถูก โชคดีเข้าซีนกับพี่เคลลี่ (ธนะพัฒน์) พี่แคท (แคทรียา อิงลิช) บ่อย เขาก็คอยบอก พอเล่นไปสักพักเอมก็จะอยู่กับเราแล้ว แต่วันแรกที่เข้าฉากงงมาก ที่ยากก็ตรงที่พี่เคลลี่ต้องชอบเรา แอบมองเรา แล้วโบว์ต้องเล่นเป็นผู้หญิงวัยใส เขิน ปรากฏงง เล่นไม่ได้ เพราะเราไม่มีการเขินเข้ามาในชีวิต 5-6 ปีแล้ว ไม่มีผู้ชายมาจีบ 5 ปีเต็ม ก็ต้องค่อยๆ จูนตัวเอง นอกจากนี้ก็มีบทร้องไห้ ไม่ยากที่น้ำตาจะไหล แต่ที่ยากคือก่อนหน้าน้ำตาจะไหล เราจะแสดงสีหน้า การแสดงออกยังไงให้เขาเห็นว่าเราทุกข์ทรมานจริงๆ พอร้องไห้บ่อยๆ มีวันหนึ่งต้องร้องไห้ทั้งวัน เราก็อารมณ์ไปแล้ว หดหู่”

สวิตช์ตัวเองยังไงที่อารมณ์ค้าง?

โบว์ – “เล่นแค่นี้ยังรู้สึกเลยว่าไม่อยากไปทำงานในออฟฟิศแล้วไปเหวี่ยงใส่ลูกน้อง แต่โบว์โชคดีที่เวลากลับบ้าน สิ่งเดียวที่ทำให้เห็นเหมือนเปิดไฟให้สว่างก็คือมะลิกับออโต้ ก้าวเข้าบ้านไปเขาถามเราว่า แม่เหนื่อยมั้ย คำว่าเหนื่อยมั้ยก็เป็นการเปิดสวิตช์ให้โบว์เลย จบเลยบางทีเขาก็ทำให้เราหัวเราะ”

เป็นอันว่าถูกใจบทนี้แล้ว?

โบว์ – “ใช่ เป็นผีก็มี มีดำน้ำ ลงไปจุ๊บกับพี่เคลลี่ใต้น้ำ วันที่ดำน้ำกลัวมากที่สุด ไม่ได้บอกใคร เพระด้วยเราอายุเยอะแล้ว เวลาดำน้ำถ้าได้ว่ายก็อาจจะผ่อนคลาย แต่เราต้องตกลงไป แล้วโดนดึงอยู่ข้างล่าง จะพ่นหายใจก็ไม่ได้ กลัวแต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดี พอถ่ายเสร็จโล่งเลย เรื่องนี้โบว์มาแค่ 9 ตอน แต่ 9 ตอนนี้เต็มเหนี่ยวเหมือนกัน”

ระหว่างที่ถ่ายละคร กลับบ้านไป เล่าอะไรให้มะลิฟังบ้าง?

โบว์ – “เมื่อก่อนเวลาเขาไปโรงเรียน เราจะถามเขาว่าเป็นยังไงบ้างลูก แต่พอเราเล่นละครกลับมา จะเป็นเขาที่ถาม เป็นยังไงบ้างแม่ (หัวเราะ) ไหนเล่ามาซิ หลังๆ เขาเริ่มโต ก็เล่า เป็นอย่างนี้ๆ แล้ววันนี้มีกอดกับใครหรือเปล่า เราก็บอกไม่มี ทีมงานส่งทีเซอร์มาให้ดู เป็นฉากใต้น้ำพอดี เขามาเจอฉากกำลังจุ๊บเข้าพอดี โกรธมาก เราก็บอกมันเป็นการแสดงคือการทำงาน เขาก็บอกว่าแล้วบอกเขาไม่ได้เหรอว่าไม่ต้องจูบ คือเรื่องนี้ไม่ได้บอกเขาไง ก็เป็นสีสัน อยู่บ้านก็จะมีเรื่องเล่ากัน”

บทบาทก่อนหน้านี้เป็นภรรยาพระเอก (ปอ ทฤษฎี) ตอนนี้เป็นนักแสดงเองแล้ว?

โบว์ – “ทุกครั้งที่เล่นนะจะนึกถึงเขา อ๋อ มันเหนื่อยแบบนี้นี่เอง (หัวเราะ) เมื่อก่อนคิดว่านักแสดงสบายจะตาย แต่พอได้ใช้ชีวิตอยู่กับเขาก็พอเริ่มรู้ว่าเออๆ ไม่เป็นเวลานะ แต่พอมาเล่นเอง ก็ไม่คิดว่าจะหนักขนาดนี้ ทุกวันนี้ก็ยังนึกถึงเขา ว่าเราต้องทำได้ เราต้องเล่นให้ได้”

เข้าสู่เส้นทางบันเทิงเต็มตัว อนาคตต่อไปจะยังไงต่อ?

โบว์ – “ในเรื่องวงการบันเทิงถ้ามีโอกาสอยู่ก็จะลองไปเรื่อยๆ ค่ะ สิ่งหนึ่งที่เราดำรงอยู่ทุกวันนี้คือมีงานประจำของเรา เรามีธุรกิจ โฟกัสธุรกิจเครื่องสำอางของเราที่ต้องทำกินต่อไป ซึ่งปีนี้เข้าสู่ปีที่ 5 แล้ว มีกันแดด เซรั่ม แป้ง คลีนซิ่ง และเซรั่ม”

เห็นมีแชมพู ที่น้องมะลิรีวิว?

โบว์ – “เวลาโบว์ไลฟ์ขายเขาชอบมาแซวโบว์ขายเก่ง เขาอยากขายบ้าง โบว์ก็ถามน้องอยากขายอะไร หนูก็ต้องขายแชมพูเพราะพ่อบอกหนูหัวหอม เราก็ทำให้เขา เรียกเขามาดูทุกขั้นตอน เรามีขวดแล้ว มีแพ็กเกจแล้วนะ แต่น้องต้องรีวิวขายเอง เขาก็ดีใจ ได้ผลตอบรับดี แล้วเขาก็จะถามว่าแม่แล้วเงินไปไหน (หัวเราะ) โบว์ก็จะบอกไม่ต้องห่วง แม่ลงทุนให้กำไรเดี๋ยวเข้าบัญชีมะลิ แต่ทุนแม่ขอคืน เขาก็โอเค”

ทำหลายอย่าง จัดสรรเวลายังไง?

โบว์ – “โบว์ไม่ใช่คนเก่ง แต่รู้ข้อด้อยของเราคือตรงไหน ก็ดึงสิ่งที่ถนัด ดึงส่วนที่ชอบ ทำแล้วมีความสุข ที่สำคัญต้องทุ่มเท ความซื่อสัตย์เป็นอันดับหนึ่งในการทำธุรกิจ กำไรก็ไม่ค้าเกินควร ส่วนเรื่องจัดสรรโบว์ก็พยายามทำให้เต็มที่ ตื่นเช้ามาจัดการกับมะลิก่อน เรียนออนไลน์ โชคดีมีป้าปูมาอยู่ด้วย ป้าปูจะอยู่กับมะลิ เราก็เข้าออฟฟิศ โชคดีผลิตภัณฑ์ของโบว์ไปได้เรื่อยๆ ถึงแม้โควิดมาก็ไม่สะดุด ล่าสุดเปิดขาย ครัวซองต์อีก เป็นการรวมตัวกับเพื่อนที่เรียนเชฟมา เขาอยากสอนให้เรา ก็เปิดรับออร์เดอร์ คือเราทำอะไรได้ก็ทำ ละครมาจะดูจะแบ่งเวลา”

ปิดเทอม ออโต้ ลูกชายก็มาอยู่ ด้วยกัน?

โบว์ – “ใช่ค่ะ รายนั้นจะเป็นหนุ่มแล้ว เริ่มมีอารมณ์ส่วนตัว แต่เขาเป็นเด็กไม่ดื้อ อยากได้อะไรจะบอกตรงๆ ปิดเทอมมะลิกับออโต้จะได้อยู่ด้วยกันเยอะขึ้น มีกิจกรรมเต้นด้วยกัน อะไรที่เป็นความสุขของเขา โบว์พร้อมซัพพอร์ตทุกอย่าง ตอนนี้ออโต้เริ่มจะเข้าวงการเพลง รออยู่ว่าจะได้มั้ย มีไปออดิชั่น ก็ให้เขาไปคนเดียว ทำอะไรเอง”

ภูมิใจลูกไหม เขามีคนติดตามเยอะแล้ว?

โบว์ – “ดีใจที่เขาได้ใช้ชีวิตแล้วมีความสุขมากกว่า คำว่าภูมิใจของโบว์ คือภูมิใจทุกวันอยู่แล้วที่เขาเป็น มีล้มบ้าง งอแงบ้าง ดื้อบ้าง แต่ทุกวันที่เขาได้ใช้ชีวิตที่เขาชอบ ไม่นั่งเครียดนั่งซึม โบว์ดีใจมากกว่ากับการที่เขาใช้ชีวิตที่เขาเป็น”

ถามเรื่องหัวใจบ้าง 5 ปีที่ผ่านมาไม่มีใครมาจีบเลยเหรอ?

โบว์ – “ไม่มีค่ะ ก็มีดีเอ็มเข้ามาส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ แต่คนไทยไม่มีเลย”

ถ้ามีแฟน จะเป็นปัญหาไหม?

โบว์ – “อยู่ที่เรามากกว่า จริงๆ ความคิดโบว์นะ ผู้ชายเขาคงอยากได้ของออกจากศูนย์ สดใหม่ ไม่มีใครอยากได้ของมีตำหนิหรือของมือสอง ทุกคนอยากได้สั่งของมาแกะกล่องแล้วยังซีลอยู่ โบว์เลยคิดว่าเราอยู่คนเดียวดีกว่า และอีกเหตุผลหนึ่ง โบว์คิดว่ามะลิยังเด็กอยู่ ไม่อยากที่ว่าเวลาเราชอบใครสักคน จะมีความรู้สึกที่ต้องแบ่งให้เขา แล้วเวลาเราโกรธกัน มีอารมณ์หงุดหงิดทะเลาะกับเขา มันจะกระทบความรู้สึกในการเลี้ยงลูก ทุกวันนี้โบว์ยิ้มโบว์หัวเราะกับลูกทุกวัน ไม่มีอะไรต้องกังวล แต่เมื่อไหร่ที่โบว์ต้องไปคบใคร อารมณ์เราจะแปรปรวนไปครึ่งหนึ่ง ไม่อยากเอาอารมณ์นี้ไปเลี้ยงลูกเรา เพราะฉะนั้นเลยคิดว่าไม่มีดีกว่า ส่วนถ้ามะลิโตแล้ว และไม่แก่พอที่จะมีคนอื่นก็ไม่ว่าอะไร เพราะถ้ามีขนาดนั้นก็คงเป็นเพื่อนคิดกันมากกว่าค่ะ”

พลเทพ สารภิรมย์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน