อาเล็กสมใจ-ลิ้มรสบทเลวได้พัฒนาฝีมือแสดง-ทุ่มสุดตัว – ท้าทายฝีมือการแสดงของพระเอกตี๋ ‘อาเล็ก’ ธีรเดช เมธาวรายุทธ เป็นอย่างมาก สำหรับละคร “แค้นรักสลับชะตา” ทางช่อง 3 ที่เจ้าตัวต้องถ่ายทอดบทบาทสองคาแร็กเตอร์ ‘วัท’ ดาราขี้ยา กับ ‘เตช’ หนุ่มนักบินแสนอบอุ่น

โดยเฉพาะบท ‘วัท’ ที่เลวสุดขั้ว มาฟังหนุ่มอาเล็กเล่ากัน

เป็นอย่างไรบ้าง กับละคร “แค้นรักสลับชะตา”?

อาเล็ก – “ดีครับ ตื่นเต้นดี ผมหายไปจากละครปีหนึ่งเต็มๆ ในฐานะนักแสดงที่เล่นละครมา 10 ปี ยังไม่เคยได้รับบทที่ชั่วขนาดนี้ มาก่อน หลายคนจะเข้าใจผิดว่าเป็นตัวร้าย ไม่ถึงขนาดเป็นตัวร้าย แต่จะมีการสลับร่าง คือตอนแรกมาชั่วมากจริงๆ แล้วเล็กไม่เคยได้รับบทแบบนี้มาก่อน สนุกมากกับการแสดงในพาร์ตที่ยังไม่สลับร่าง พูดตามตรง เราเป็นคนดูซีรีส์เกาหลี ฝรั่งมาเยอะ รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่แพ้ ไม่ได้อวยนะ คือด้วยโปรดักชั่น ด้วยบทที่แปลกใหม่ รู้สึกสนุกมากๆน่าติดตามมากๆ คนอาจจะเบื่อที่เห็นเล็กเล่นเป็นพระเอก เป็นผู้ชายอบอุ่น บทดีๆ มาเยอะแล้ว ก็จะได้เห็นเล็กอีกมุมที่ไม่เคยแสดงที่ไหนมาก่อน”

บทบาทเป็นยังไง?

อาเล็ก – “เล็กรับบท วัท ดารานายแบบที่ขายยาติดยาติดผู้หญิง ชีวิตเหลวแหลก เล็กต้องไปศึกษาท่าทางอาการของคนเสพยาว่าเป็น ยังไง แล้วต้องแสดงออกมา คือเล็กไม่เคยเห็นละครเรื่องไหนที่คนจะมาเล่นยาให้คนดูเห็น แต่ด้วยยุคสมัยเปลี่ยนไป คนดูเริ่มเข้าใจว่าเป็นการแสดง เลยมีแบบนี้ออกมาให้คนดูได้ดู ซึ่งเล็กแฮปปี้นะ ไม่ใช่ว่าแฮปปี้ในการที่ไปเรียนรู้อะไรเหล่านั้นนะ แต่แฮปปี้กับความก้าวหน้าของวงการบันเทิงของวงการละครไทย ที่เรามาถึงจุดนี้แล้ว”

“เรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้ชายสองคน คือ เล็กและกระทิง (ขุนณรงค์) ที่ชีวิตต่างกันสุดขั้ว เล็กรับบทวัท ดาราขี้ยาชีวิตตกต่ำ กระทิง รับบทเตช เป็นนักบิน ครอบครัวอบอุ่น บ้านรวย แฟนดี ชีวิตดี สุภาพ อ่อนโยน แล้วต้องมาสลับร่างสลับวิญญาณกัน แล้วแต่ละคนก็จะไปอยู่ในสังคมที่ไม่เคยอยู่มาก่อน คนนึงจากชีวิตสูงสุดลงมาอยู่ต่ำสุด กับคนหนึ่งชีวิตต่ำสุดขึ้นไปอยู่สูงสุดจะเป็นยังไง คือทั้งผมและกระทิงต้องแสดง 2 คาแร็กเตอร์ ก่อนสลับร่างและหลังสลับร่าง”

ส่วนตัวชอบคาแร็กเตอร์ไหน?

อาเล็ก – “ความชอบ ชอบตัวนักบินอยู่แล้ว เพราะเขาเป็นคนดี เป็นตัวอย่างของสังคม แต่ในเรื่องการแสดง เล็กชอบตัววัทที่เป็น ดารามากกว่า เพราะในเรื่องของการแสดง ในฐานะคนเล่นละคร ที่เป็นนักแสดงไทย ไม่ค่อยจะมีบทแบบนี้หลุดออกมาให้คุณผู้ชม ได้เห็นบ่อยสักเท่าไหร่ เรียกว่าเป็นพัฒนาการก้าวของวงการละคร ไทย จะเป็นแบบเราดูซีรีส์เกาหลี ดูซีรีส์ฝรั่งแล้วอยากเล่นบทแบบนี้บ้างอ่ะเป็นฟีลนั้น พอวันนึงเราได้เล่นจริงๆ เลยแฮปปี้กับการรับบทแบบนี้”

ในเรื่องนี้อะไรที่ท้าทายตัวเราที่สุด?

อาเล็ก – “อย่างที่บอกเป็นคาแร็กเตอร์ที่ไม่เคยได้รับมาก่อน เราจะเล่นยังไงให้คนดูเห็นชัดว่าไอ้นี่ไม่ใช่คนเลวธรรมดา คือทุกวันนี้ ละครไทยเราต้องแข่งกับต่างชาติ ไม่เหมือนเมื่อก่อน ที่ช่องนี้แข่งกับช่องนี้ เพราะคนไทยจะไม่ดูละครไทยกันอยู่แล้ว แต่เราต้องเล่นยังไงให้มี มิติ เล่นยังไงให้ดูเป็นคนจริงๆ มันคือความท้าทายอันดับแรก ส่วนอันดับสอง การที่เราต้องรับเป็นสองคาแร็กเตอร์ เป็นคนชั่วก่อนแล้วก็มีวิญญาณของคนดีเข้ามาอยู่ในร่าง”

ละครเรื่องนี้มีครบรส?

อาเล็ก – “โดนพี่อ้อม พิยดา ผู้จัดหลอกมา บอกว่าฟีลละครจะเป็นโรแมนติกดราม่า สลับร่างกันนิดหน่อย แต่พอมาเล่นจริงๆ พาร์ตที่บอกว่าโรแมนติกดราม่า จะเป็นของกระทิงกับบัว (นลินทิพย์) แต่ พาร์ตของเล็กกับน้ำตาล (พิจักขณา) บู๊ห้ำหั่นมาก”

แล้วเลิฟซีนล่ะ?

อาเล็ก – “เลิฟซีนก็มีทั้งสองคู่เลย แต่จะคนละแนว จะมีหลาย รูปแบบมาก มีทั้งก่อนสลับร่าง แล้วก็หลังสลับร่าง มันก็จะคนละฟีลจะแตกต่างกันไป ความกุ๊กกิ๊ก ความเซ็กซี่ ก็แล้วแต่ว่าร่างไหน คู่ไหน”

มีนักแสดงหลายคน ที่ร่วมงานกัน ครั้งแรก?

อาเล็ก – “กระทิง พี่อ้อมก็ไม่เคยร่วมงานมาก่อน บัวเคยเล่นละครเรื่องเดียวกันแต่ ไม่เคยเจอกันในเรื่อง คือเคยร่วมงานกับน้ำตาลแค่คนเดียว รวมถึงนักแสดง ท่านอื่นๆ อีกหลายคนที่ไม่เคย ร่วมงานกันมาก่อน มีพี่ชาย ชาตโยดม ที่เคยร่วมงานด้วยหลายครั้งแต่กับทีมงานคือใหม่หมด เลยยิ่งทำให้รู้สึกเหมือนได้เข้าวงการใหม่ ได้เล่นอะไรที่ไม่เคยเล่น ได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำ การปรับตัวก็ไม่ยากครับ เล็กเป็นคนที่อยู่ตรงไหนก็ได้ ไม่ยึดติดกับความเป็นพระเอก เราวางตัวเป็นนักแสดงจริงๆ ที่ผ่านมาได้รับบทพระเอกเพราะเราโชคดี พี่อ้อมบอกว่าเขาให้ทีมพีอาร์ของช่อง 3 ดูละครเรื่องนี้ แล้วทุกคนช็อกกับบทที่เล็กเล่นออกมา ทุกคนพูดว่าอาเล็กเล่นบท แบบนี้ได้ยังไง ไปสุดขนาดนี้ได้ยังไง”

แอบเอานิสัยจริงออกมาใช้หรือเปล่า?

อาเล็ก – “อาจจะเป็นส่วนลึกๆ ของหัวใจ ลึกๆ ดำๆข้างในจิตใจที่เราพยายามปกปิดมันไว้หรือเปล่า (หัวเราะ) คือเด็กผู้ชายทุกคน มีความซ่าอยู่ในตัว ทุกคนมีความดาร์ก อยู่ในจิตใจ แต่เราจะเอามัน ออกมาหรือเปล่า ซึ่งตัวละครวัท เขาเอาออกมา คือถ้าพูดหยาบๆ ก็คือช่างแ-่ง ทุกอย่างกูต้องเอาตัวรอดให้ได้ในโลกใบนี้คือไม่มีทางไป จะบอกว่าจริงๆ มันไม่มีใครตั้งใจเลว มันมีเหตุผลที่เขาต้องทำ ก็เลยทำให้เรามอง คนอื่นแล้วเราเข้าใจในการกระทำของคนอื่นมากขึ้น ถ้าเป็นเราเมื่อก่อนเราอาจจะมองแค่ผิวเผินว่าทำแบบนี้ได้ไง มันผิดนะ แต่ทุกวันนี้เราจะมองไปถึงเหตุผลคืออะไร ทำไมถึงทำแบบนั้น มันทำให้เราทำความเข้าใจ ทำให้เล็กเองได้ นอกจากเรามองตัวละครลึกลงไปแล้ว มันทำให้เรามองคนอื่นอย่างเข้าใจมากขึ้นด้วย ก็เป็นข้อดีของการได้รับบทนี้ แปลกใหม่สำหรับเรา”

ที่ผ่านมาไปซุ่มฟิตหุ่น เพราะต้องมาเล่นละครเรื่องนี้ด้วย หรือเปล่า?

อาเล็ก – “เล็กเป็นคนที่ลดความอ้วนมาตลอดชีวิตอยู่แล้วครับ พอช่วงไหนที่ละครมีซีนต้องถอดเสื้อ เราก็ต้องคุมอาหารหรือเข้าฟิตเนสไวหน่อย คือมันเศร้าเหมือนกันนะ จะกินอะไรก็กินไม่ได้ กินวันนี้พรุ่งนี้ก็ รีบเอาออกแล้ว มันเศร้าตรงที่การกินคือความสุขของเรา มันคือแพสชั่นอันดับต้นๆ ของเล็กเลย เล็กอิจฉามากเลยคนที่ทำรายการอาหารที่เขากินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน นี่กินข้าวขาหมูหรือข้าวมันไก่ก็รู้สึกหน้าบวมขึ้นมา”

กินไปด้วยออกกำลังกายไปด้วยก็โอเคไง?

อาเล็ก – “มันเหนื่อยนะครับ บางทีทำงานเหนื่อยแล้วเราอยากกินอะไรอร่อยๆ เราแฮปปี้เสร็จแล้วต้องมาเหนื่อยกับการเอาออกอีก เหนื่อยทั้งทำงานทั้งออกกำลังกาย มันเหนื่อยจริงๆ อันนี้เหมือนรายการปรับทุกข์ (หัวเราะ)”

แต่หลังถอดเสื้อโชว์ซิกซ์แพ็ก ก็เรียกเรตติ้งได้อยู่นา?

อาเล็ก – “คือเล็กพูดตรงๆ เลย ไม่อยากให้คนมองว่ามีซิกซ์แพ็กคือหุ่นดีเลย ทำไมมีซิกซ์แพ็กต้องดูดีด้วย อะไรคือมาตรฐาน ทำไมคนสมัยก่อน คือเคยได้ยินมา คนอินเดียยิ่งอ้วนดูดี ทำไมเราไม่เป็นแบบนั้นบ้าง เล็กเชื่อว่ามีหลายคนที่คิดแบบเล็ก”

เข้าใจ แต่ด้วยความที่เราเป็นดารา ก็ต้องออกกำลังกายดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่ตลอดเวลา?

อาเล็ก – “ใช่ แต่พูดถึงข้อดีมันก็เยอะมาก มีสุขภาพดี มีบุคลิกที่ดี มันก็ดีหลายๆ อย่าง แต่เราก็แค่แบบอ้วนง่ายไปหน่อย ที่อยากจะบ่นก็แค่นี้แหละ (หัวเราะ)”

ช่วงนี้โควิด เราไปทำงานอีเวนต์ ถ่ายละครอะไรต่างๆ ไม่ได้เลย?

อาเล็ก – “ไม่ได้เลย งานประจำถูกเบรก ไม่ได้เบรกแบบเวิร์กฟรอมโฮม คือเบรกแบบไปไม่ได้เลย เราก็หาอย่างอื่นทำก่อน โชคดีที่ก่อนหน้าจะมีโควิดรอบนี้ เล็กได้เปิดร้านชากับเพื่อนสองคน คนหนึ่งคือ เฟย ภัทร ใน ช่วงนี้เหมือนเราต้องปรับตัว เพิ่งเปิดไปวันที่ 20 เมษายน แล้ววันที่ 1 พฤษภาคม ห้ามนั่งกินในร้าน เปิดได้ 10 วันโดนเลย แล้วมาเปิด 14 พฤษภาคม แต่ตอนนั้นยังติดเชื้อสูงอยู่ เล็กกลัว ก็ยังไม่ให้คนมานั่งกิน เพิ่งมาให้ นั่งกินต้นมิถุนายน พอเปิดมาได้เกือบเดือน ไม่ให้นั่งกินอีก เลยมานั่งประชุมหาวิธีแก้ปัญหา เพื่อให้ร้านอยู่ต่อไปได้ ได้ฝึกอะไร ที่ไม่เคยได้ทำ ช่วงนี้เลยเป็นช่วงที่ได้ ประสบการณ์ได้ฝึกแก้ปัญหาอะไรต่างๆ ด้วย”

ล่าสุดเห็นไปทำความดีแจกหน้ากาก?

อาเล็ก – “ครับ ไปทำกับแฟนคลับ แฟนคลับเป็นคนชวน ต้องขอขอบคุณแฟนคลับด้วย ก็มีโปรเจ็กต์ดีๆ ที่ทำร่วมกับแฟนคลับเรื่อยๆ มันก็เป็นเรื่องที่ดี ซึ้งใจกับแฟนคลับเหมือนกัน เวลามีกลุ่มคนที่รักกันมาทำอะไรด้วยกัน มันมีความรู้สึกพิเศษ”

แล้วคนพิเศษล่ะ ตอนนี้ยังโสดสนิท อยู่ไหม?

อาเล็ก – “สนิทครับ สนิทมาก คือทั้งชีวิตเราเองมีแฟนมีคนคุยมาตลอด มีช่วงนี้แหละที่เรียกว่าเป็นระยะที่ไม่มีแฟนที่นานมากช่วงหนึ่ง ด้วยความที่โตแล้วด้วยมั้ง ประกอบกับเราเจอประสบการณ์ที่ดีมากๆ มา การจะเลือกใครสักคนเข้ามา หรือเอาใครสักคนเข้ามาเป็นคู่ชีวิต หรือเป็นแฟนเรา ปัจจัยมันเลยเยอะขึ้นอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ยังไม่มี ไม่ได้ไม่อยากมี ไม่ได้ปิด เปิดอยู่แล้ว แค่คิดเยอะขึ้น”

ถ้าจะมีใครสักคนอีกครั้งนึง คืออยากให้มันยาว?

อาเล็ก – “เราอาจจะไม่ได้มองว่าจะต้องยาวขนาดนั้น คือเราคบใครไม่ได้คิดว่าจะต้องเลิกอยากคบคนเดียว คบนานๆ มีชีวิตดีๆ ด้วยกันแต่อย่างที่บอก พอมันคิดเยอะขึ้นแล้วคือ มันเป็นเรื่องของมนุษย์ ความรู้สึกมันยากนะ เวลามีคนที่เข้ามาคือมันยากขึ้น”

อชริญา บุญชู

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน