ภูมิภาค - ตรวจสอบได้ปางช้างไม่ได้ทารุณ

ตรวจสอบได้ปางช้างไม่ได้ทารุณ – ราชบุรี – จากกรณีที่สังคมโซเชี่ยลนำเสนอภาพข่าวเกี่ยวกับช้างเผือกฟาร์มดำเนินสะดวก ต.ขุนพิทักษ์ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ทารุณกรรมช้างด้วยการล่ามโซ่ ที่คอ และข้อเท้าให้อยู่ติดกับเสา ทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นต่างสงสารและวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำที่ดูโหดร้าย ด้านนายถาวร ปานแก้ว ผู้จัดการปางช้าง เผยว่า ปางช้างแห่งนี้เปิดดำเนินกิจการมาแล้ว 8 ปี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหากมาเที่ยวตลาดน้ำดำเนินสะดวกแล้วจะต้องแวะมาชม เดิมมีช้างจำนวน 40 เชือก กระทั่งมีการแพร่ระบาดโรค โควิด-19 ส่งผลกระทบให้รายได้ลดลงไปกว่าร้อยละ 90 ทำให้ต้องลดจำนวนคนงานลง ตัดสินใจขายช้างออกไปแบบขาดทุน เพื่อนำเงินใช้พยุงกิจการ

ล่าสุดการประกาศขายช้างจำนวน 10 เชือก ขายไปได้ 7 เชือก เหลืออีก 3 เชือกคือ พลายสีดอทองพูล อายุ 15 ปี พลายบุญมี อายุ 15 ปี และพลายคำแก้ว อายุ 45 ปี เป็นช้างที่ปรากฏในภาพข่าว ในขณะที่ควาญที่เคยดูแล ขอลาออก ทำให้ไม่มีผู้ดูแลหลักต้องใช้ควาญอาสามาทำหน้าที่แทน ภาพที่ปรากฏออกมานั้น เป็นวันที่มีชาวบ้าน แจ้งให้ทางปางช้างไปขนต้นกล้วยทั้งแปลงมาเลี้ยงช้าง จึงระดมควาญช้างและคนงานไปช่วยกัน เหลือแค่เพียงตนเองและลูกเมียคนงาน จึงให้ควาญช้างใช้โซ่ล่ามคอช้างไว้กับเสา เพื่อความปลอดภัยของคนงานและนักท่องเที่ยว หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น หลังจากที่มีข่าวปางช้างทารุณสัตว์ แล้วมีคนที่ไม่เข้าใจโทร.มาต่อว่าด่าทอ

ยอมรับว่าเสียใจรับผิดและขออภัย อยากให้เข้าใจว่าทางปางช้างมีความจำเป็น สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้า ในส่วนของประชาชนที่เห็นใจได้ส่งผลไม้ผ่านขนส่งเอกชน รวมไปถึงชาวบ้านในละแวกพื้นที่ก็นำอาหาร ต้นกล้วย หน่อสับปะรด และใบมะพร้าวมาให้ แม้จะเป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ก็ช่วยให้ทุกคนมีกำลังใจ ท่านใดยังมีความสงสัย และต้องการเห็นสภาพชีวิต ตลอดจนความเป็นอยู่ของช้าง ทางปางช้างก็พร้อมให้ตรวจสอบ

“ประกาศว่าจะเปิดประเทศ ในฐานะที่ทำงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยว รู้สึกดีใจ และมีความหวังขึ้นมาทันที ถึงแม้ว่าสิ่งที่ประกาศมานั้นจะเป็นไปได้หรือไม่ เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคยังคงรุนแรงอย่างต่อเนื่อง แต่ทุกคนในปางช้างต่างช่วยกันปรับปรุงสถานที่ให้มีความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะกลับมาอีกครั้ง อย่างใจจดใจจ่อ”