‘แอน อรดี’หมอลำสุดฮอต – ระหว่างพักเบรกจากงานแสดงคณะหมอลำ สาวน้อยเพชรบ้านแพง เพราะติดสถาน การณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 นางเอกสาวหมอลำสุดฮอต ‘แอน อรดี’ เลยหยิบเพลง “น้ำตาหล่นบนเถียงนา” ของศิลปินรุ่นพี่ ‘จินตหรา พูนลาภ’ มาคัฟเวอร์ให้แฟนๆ หายคิดถึง พอปล่อยออกมาปุ๊บ ยอดวิวพุ่งขึ้นรัวๆ วันนี้เลยชวนหมอลำสาวสุดเซ็กซี่มาคุยกัน

ผลงานการคัฟเวอร์เพลงกระแสดีมาก?

แอน – “ช่วงโควิดก็คิดว่าจะทำยังไงไม่ให้แฟนคลับแฟนเพลงลืม ทำให้เขาหายคิดถึง ไปเจอรุ่นพี่สมัยเรียนมัธยมที่เขารู้จักทีมงานทำดนตรีอยู่แล้วก็เลยมาปรึกษากันว่ามาลองคัฟเวอร์ดีไหม เป็นเพลงหมอลำ น้ำตาหล่นบนเถียงนา เพลงของพี่จินตหรา พูนลาภ เป็นเพลงที่หลายคนรู้จักมานานมากและเคยขอให้เราร้องให้ฟังหน่อย เราก็เลยทำเป็นเวอร์ชั่นในสไตล์ของเรา ปล่อยไปหนึ่งวัน เกินคาดได้แสนกว่าวิวแล้วค่ะ”

“อีกเพลงก่อนหน้านี้เป็นเพลงช้าของ พี่ภู ศรีวิไล เพลงเบอร์เก่ายังเฝ้ารอ ปล่อยไปไม่ถึงสัปดาห์ 1 ล้านวิวจะสองล้านแล้วค่ะ เกินคาดมากๆ เราทำแค่ให้คนหายคิดถึงเรา แฟนๆ ก็จะมาเมนต์กัน ไม่คิดว่าแอนจะมาร้องแนวนี้ได้ เพราะหลายคนรู้จักแอนในแบบของหมอลำ ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าก่อนเข้าวงการหมอลำเราร้องเพลงลูกทุ่งมาก่อน”

จะมีซิงเกิลใหม่ของตัวเองอีกเมื่อไหร่?

แอน – “ตอนนี้น่าจะยังไม่มีค่ะ เนื่องด้วยอาจารย์โปรดิวเซอร์ก็อยู่อุดรฯ บอสสาวน้อยเพชรบ้านแพงอยู่มหาสารคาม ซึ่งตัวแอนอยู่ขอนแก่น คือก่อนหน้านี้เราจะเจอกันเดือนละครั้งสองครั้งจะเป็นการไลฟ์สดในกลุ่มปิด แล้วพอกำลังจะวางแผนว่าจะทำเพลงยังไง ต่อ กลายเป็นปิดพื้นที่ไม่ให้เดินทางทำให้ไม่ค่อยสะดวกที่จะทำเพลง เราก็โอเคไม่เป็นไร ฟังคัฟเวอร์ก่อนแล้วกัน เพราะอยู่ในช่วง โควิดด้วย”

ซิงเกิลล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว เพลงแว้บแว้บ กระแสเป็นยังไงบ้าง?

แอน – “ตอนนี้ 7 ล้านวิวค่ะ แว้บแว้บ ปล่อยมาวันแรกก็ติดอยู่ในเพลงมาแรงสูงสุดเลย ช่วงนั้นมันเป็นช่วงหน้างาน แต่ว่าส่วนมากตามหน้าเวที ตามรถแห่ หมอลำซิ่ง หรือในผับร้านอาหารก็จะนำเพลงของเราไปร้อง กระแสก็ดีเกินคาดเหมือนกันค่ะ เป็นแนวสนุกสนานใครได้ยินก็ต้องลุกขึ้นมาฟ้อนมาเต้น”

ถ้าสถานการณ์กลับมาปกติ เพลงต่อไปจะเป็นแนวไหน?

แอน – “เคยคุยกับทางอาจารย์โปรดิวเซอร์ และบอสโจไว้ว่าน่าจะเป็นเพลงช้าที่เป็นแนวถนัดของแอนเลยก็จะเป็นแนวลูกทุ่งอีสานนี่แหละค่ะ แต่ก็จะผสมผสานมีความอินดี้ให้เข้ากับยุคสมัย ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการเขียนเพลงอยู่”

กลับมาร่วมงานกับ เต๋า ภูศิลป์ อีกครั้ง?

แอน – “ห่างหายไปประมาณ 4-5 ปีค่ะ เจอกันครั้งสุดท้ายเล่นภาพยนตร์ ผู้บ่าวไทบ้าน อีสานอินดี้ ตอนแจกข้าวหาแม่ใหญ่แดง เป็นการเจอกันครั้งแรกของแอนกับเต๋า จริงๆ เขาติดต่อมาตลอดอยากให้แอนมาร่วมแสดง เอ็มวีในหลายเพลง แต่ติดที่ว่าแอนมีงานแสดงหมอลำทุกวัน”

“จนมาเพลงล่าสุด บ่ไปกรุงเทพได้บ่ แอนก็แอบได้ยินมาว่าเป็นเพลงที่เขาเขียนมาจากตัวละครของแอนกับเต๋าในภาพยนตร์เรื่องนั้น แล้วติดต่อให้แอนไปร่วม เราก็ยินดีมากๆ เพราะว่าแอนว่างพอดี จริงๆ ถ่ายทำที่ขอนแก่นไม่ไกล ต้องขอบคุณคุณเต๋า ภูศิลป์ และขอบคุณแกรมมี่ โกลด์ ขอบคุณอ.จินนี่ ภูไท ด้วยที่ให้โอกาสค่ะ การตอบรับก็ดีเหมือนเดิม ทุกคนก็จำได้ บางคนรู้จักเราจากภาพยนตร์เรื่องผู้บ่าวไทบ้านก็มี”

กลายเป็นนางเอกหมอลำเนื้อหอมที่ใครๆ ก็อยากร่วมงานด้วย?

แอน – “ดีใจค่ะ กว่าจะมาถึงวันนี้ คือความฝันเคยคิดไว้ว่าอยากจะเป็นแค่คนๆ หนึ่งที่ร้องเพลงออกมาแล้วคนรู้จัก คนร้องเพลงตามเราได้ แต่ตอนนี้สิ่งที่เราได้มันมากกว่านั้น ได้จากความพยายามความอดทนของเรารวมไปถึงพรสวรรค์บวกกับพรแสวงที่เรามี มันก็ทำให้เราพิสูจน์ตัวเองว่าเราสามารถมีวันนี้ได้จริงๆ ดีใจมากๆ ที่ทุกคนรักและเมตตาคอยอยู่ข้างๆ มาตลอดจนถึงวันนี้มีโอกาสดีๆ เข้ามาแต่ก็ยังเหมือนเดิมนะคะ ส่วนมากหลังๆ มาเราก็จะคอยแนะนำน้องๆ ที่กำลังอยากเป็นเหมือนเรา ก็จะเล่าให้เขาฟังว่าเราผ่านอะไรมาบ้าง”

แฟชั่นหมอลำยุคใหม่สไตล์แอน อรดี เป็นยังไง?

แอน – “ตอนแรกแอนมีความรู้สึกว่าทำไมจะต้องแต่งหน้าเข้มขนาดนั้น แอนไม่ได้ว่าใคร เราก็เห็นแม่ๆ พี่ๆ คนที่เป็นนางเอก หนูก็จะนั่งมองว่าทำไมเขาแต่งหน้าแบบนั้น ทำไมต้องทาปากแดงขนาดนั้น ต้องทำผมแบบนั้น ซึ่งตอนนั้นที่แอนได้มาอยู่กับศิลปินภูไท ช่วงนั้นมีไอจีแล้วช่วงที่เราเรียนก็ดูหนังสือแฟชั่นดารามาตลอด อย่างบางทีมงกุฎทำไมต้องใส่ใหญ่ขนาดนั้น เราทำเป็นอันเล็กๆ ก็ได้ อันพอดีเหมือนมงกุฎนางงามเราลองมาดัดแปลงดู”

“เราก็เริ่มมาจากตัวเองก่อน ช่วงที่แอนทำแรกๆ ไม่มีใครยอมรับ พอเราทำแล้วถ่ายรูปลงเฟซ คนกดไลก์มากขึ้น คนตามมาดูเราหน้าเวทีเยอะ ขึ้นมาขอถ่ายรูปหน้าเวทีเยอะขึ้น ทำให้เราประสบความสำเร็จ ก็พิสูจน์ตัวเองมาเรื่อยๆ จนทุกวันนี้แม่ๆ ช่างแต่งหน้าเข้าใจ น้องๆ รุ่นใหม่ที่เข้ามาก็จะมาแนวเราแล้วเพราะมันจะรู้สึกว่าเข้าถึงได้ง่ายขึ้น”

โควิดทำให้ไม่ได้แสดงหมอลำมาหลายเดือน ส่งผล กระทบยังไงบ้าง?

แอน – “ส่งผลกระทบโดยตรงค่ะ เพราะว่าหมอลำก็คืออาชีพของแอน เป็นอาชีพที่แอนทำมาปีนี้เข้าปีที่ 13 แล้วค่ะ ยังไม่ทันได้ตั้งตัวอะไรมากมาย ก่อนหน้าที่จะโดนยกเลิกเราก็ต้องดูวันต่อวันเลยค่ะ เจ้าภาพโทร.มาว่าแสดงได้นะแต่บางทีไปถึงหน้างานอาจจะไม่ได้แสดงก็ได้ เราต้องสแตนด์บายตลอดเวลา ตอนนี้ไม่ได้แสดงจะเข้าสี่เดือนแล้วค่ะ”

“ด้วยความที่ว่าเป็นอาชีพของเรา รายได้โดยตรงทางเดียวเลยก็คือหมอลำ รายได้หายไปเลย ก็ใช้เงินเก็บที่เราเก็บสะสมไว้ ยังโชคดีที่ผ่านมาเราไปทำงานอย่างเดียวไม่มีโอกาสได้ใช้ตังค์จนมาถึงตอนนี้ได้เอาออกมา ใช้แล้ว”

ถ้าอาชีพหมอลำยังไม่สามารถทำได้ วางแผนรับมือยังไงต่อไป?

แอน – “คิดอย่างเดียวเลยตอนนี้กลับไปทำนาค่ะ คนอีสานโชคดีที่ยังมีที่นา มีสวนมีไร่ มีอาชีพเกษตร กรรมรองรับ อย่างน้อยทุกสิ่งทุกอย่างที่ปู่ย่าตายายเราสร้างไว้ให้มันก็ยังเหลืออยู่ แอนก็คิดว่าอาจจะปรับเปลี่ยนที่นาทำเป็นสวนผักออร์แกนิก ตอนนี้เริ่มคิดมากขึ้นเพราะอาชีพหมอลำเราตรงนี้ไม่แน่นอนแล้ว”

ช่วงที่ท้อ ให้กำลังใจตัวเองยังไง?

แอน – “ถ้าเราท้อนอกจากจะโทร.หาแม่กับพ่อแล้ว ก็จะมีเปิดยูทูบดูผลงานตัวเองเก่าๆ มันก็ทำให้เรามองเห็นหลายอย่างว่า เราก็เก่งนะ บางทีเราต้องให้กำลังใจตัวเอง มันต้องเกิดจากตัวเองก่อน คลิปนี้คนดูตั้งเยอะเลยทำไมจะต้องท้อด้วย แต่มาช่วงหลังแอนมีหลานตัวเล็กก็จะโทร.หาหลานก็จะหายเหนื่อยแล้ว”

วีรนุช จันทำ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน