เพื่อไทยหวั่นล็อกดาวน์ยาวศก.ยิ่งพัง – เมื่อวันที่ 2 ส.ค. นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย(พท.) ให้สัมภาษณ์ว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ประกาศล็อกดาวน์จาก 13 จังหวัด เพิ่มเป็น 29 จังหวัด แสดงถึงความล้มเหลวที่ไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้
ปัญหาที่น่าห่วงคือพล.อ.ประยุทธ์พยายามซื้อเวลา เหมือนต้องการหลอกประชาชน ทั้งๆ ที่ทราบความจริง ดีว่าการล็อกดาวน์จะต้องทำอีกเป็นเวลานานหลายเดือน ที่บอกจะเปิดประเทศใน 120 วัน ซึ่งตรงกับวันที่ 14 ต.ค. ถึงวันนั้นอย่าว่าแต่เปิดประเทศเลย เปิดล็อกดาวน์ก็ยังไม่น่าจะได้ ทำให้เศรษฐกิจปีนี้น่าจะติดลบต่ออีกปีแน่นอน
รับวัคซีน – พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีรับมอบวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 415,040 โดส จากรัฐบาลสหราชอาณาจักร โดยมีนายเอวาน โจนส์ อุปทูตรักษาราชการแทนเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย เป็นผู้แทนร่วมพิธี ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 2 ส.ค.
ปัจจุบันรายได้ของประเทศที่ยังหาได้คือการส่งออก ซึ่ง 2 เดือนที่ผ่านมา ขยายตัวได้มากกว่า 40% แต่ต้องมาประสบปัญหาการติดเชื้อของคนงานในโรงงาน เพราะมีคนงานที่ได้ฉีดวัคซีนเพียง 10% ดังนั้นพล.อ.ประยุทธ์ต้องหาวัคซีนมาเร่งฉีดให้คนงานในภาคอุตสาหกรรม พร้อมทั้งคัดกรองผู้ติดเชื้อ และเร่งทำร.พ.สนามเพื่อแยกคนติดเชื้อภายในพื้นที่ของโรงงาน แต่ยังคงสามารถดำเนินการผลิตต่อไปได้ เพื่อไม่ให้กระทบกับการผลิตและการส่งออก เพื่อประคองเศรษฐกิจของไทยในภาวะวิกฤตนี้
ที่ประเทศไทยต้องอยู่ในสภาวะเช่นนี้ ทั้งการติดเชื้อของประชาชนที่เพิ่มสูงขึ้นมาก คนตายก็เพิ่มขึ้นทุกวัน เศรษฐกิจก็ทรุดโทรม เกิดขึ้นจากความล้มเหลวในการบริหารจัดการ พล.อ.ประยุทธ์จึงต้องออกไปได้แล้ว ยิ่งอยู่นานคนจะยิ่งทนกันไม่ไหว จะออกมาขับไล่กันมากขึ้น จึงควรต้องออกไปก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายกว่านี้
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาลต้องทำงานแข่งกับเวลา ลำพังการยกระดับล็อกดาวน์เข้มข้นขึ้นไปเรื่อยๆ หรือขยายจังหวัดสีแดงเข้มออกไปมากเพียงใด ถ้าการฉีดวัคซีนยังล่าช้า จะไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ได้
