‘ซิตี้ แฮตช์แบ๊ก อี : เอชอีวี’ – แม้การเปิดตัวรถยนต์รุ่นล่าสุดในตระกูล ‘เดอะซิตี้ ซีรีส์’ กับ ‘ฮอนด้า ซิตี้ แฮตช์แบ๊ก อี:เอชอีวี’ จะอยู่บนวิถีนิว นอร์มัล คือทำกันบนระบบออนไลน์ ไม่ได้พบเจอตัวเป็นๆ

ถึงกระนั้นก็ดูจะได้รับความสนใจจากแฟนพันธุ์แท้อยู่ไม่น้อย

ทีมงานฮอนด้า ออโตโมบิล จึงได้รีบจัดทดสอบในทันที

เริ่มสตาร์ตกันที่ร้านกาแฟชื่อดังย่านสนามบินสุวรรณภูมิ แต่ละคนเลือกเส้นทางขับขี่กันได้ตามใจ เพียงแค่ขอให้ขับกลับมาคืนรถภายในกำหนด มีเวลาคนละประมาณ 3-4 ช.ม.

รูปร่างหน้าตาของเจ้า ซิตี้ แฮตช์แบ๊ก อี:เอชอีวี บอกเลยว่าไม่ต่างจากรุ่นเทอร์โบ แต่หัวใจสำคัญอยู่ที่ระบบ ขับเคลื่อน Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) ที่เป็น Full Hybrid หรือไฮบริดเต็มรูปแบบ ให้ทั้งพละกำลัง ความเงียบ และความประหยัด

‘ข่าวสด ยานยนต์’ ทดสอบพร้อมกับ “น้องต้า” วุฒิณี ทับทอง ผู้ช่วยหัวหน้าข่าว โต๊ะรถยนต์ สำนักประชาชาติธุรกิจ

แม้ระยะทางไม่ได้มากมายนัก แต่ด้วยเพราะต้องการเป็นทั้ง ผู้ขับขี่และผู้โดยสารเบาะหลัง ได้เท่านี้ก็เอาไว้ก่อน มีโอกาสแล้วค่อยขอยืมมาทดสอบกันยาวๆ

อาสาเป็นผู้ทดสอบก่อนขาไป เลือกหันหัวเข้าเมืองจุดหมายปลายทางอยู่ที่ถ.ข้าวสาร ย่านบางลำพู แบบหมายมั่นว่าจะได้เจอกับถนนที่มีรถคับคั่งอยู่บ้าง

ขึ้นทางด่วนบูรพาวิถี ใส่ความเร็วเต็มๆ ไม่ผิดหวังตั้งแต่ตีนต้นที่จี๊ดจ๊าดสะใจ เข็มไมล์ไต่ขึ้นไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะในย่าน 120-160 ก.ม./ชั่วโมง ไม่ต้องรอให้เสียเวลา

จากนั้นยังคงไปได้ทะลุถึงปริ่ม 180 ก.ม./ชั่วโมง เพียงแต่ดูเหมือนมาช้าลง นิดหนึ่ง แต่ก็เอาเถอะตัวเล็กแค่นั้นทำได้ขนาดนี้เรียกว่าไม่ธรรมดาแล้ว

เป็นผลมาจากการทำงานประสานกันระหว่างเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้า ขับช้าวิ่งในเมืองเร่งๆ หยุดๆ ใช้ไฟฟ้าเป็นหลัก โดยเครื่องยนต์จะปั่นไปเก็บไว้ที่แบตเตอรี่

ครั้นเมื่อทำความเร็วสูงเครื่องยนต์จะรับหน้าที่ขับเคลื่อนเป็นหลัก และเมื่อต้องเรียกกำลังมาใช้ด่วนๆ เช่นเร่งแซง ทั้ง 2 ระบบจะเข้ามาทำงานร่วมกัน

บนย่านความเร็วสูง ช่วงล่างหนึบแน่นแบบชนิดที่ไม่มีอาการหวิวให้ได้รู้สึกเลย สักนิด ความเร็ว 150-160 ก.ม./ชั่วโมง กลายเป็นความสนุก เร้าใจ

สิ่งหนึ่งที่จับสังเกตได้ระหว่างการทดสอบคือเสียงของเครื่องยนต์ ในยามที่ต้องชู้ตเพื่อเรียกกำลัง คำรามแทรกเข้ามาในห้องโดยสารค่อนข้างชัดเจน

แต่เป็นเฉพาะช่วงกดคันเร่งแรงๆ หลังจากนั้นก็กลับมาเงียบเหมือนเดิม

จังหวะแซงเปลี่ยนเลน หรือเข้าโค้งก็ไม่ได้สร้างความกังวล ขึ้นเลยแม้แต่น้อย พวงมาลัยคมกริบ เพิ่มความมั่นใจ

ลงจากทางด่วนเลือกใช้เส้นทางไปที่ถ.ข้าวสาร ที่วันนี้เงียบเหงา จากนั้นต่อไปย่านราชวัตรเพื่อส่งเพื่อนผู้สื่อข่าว

แม้จะไม่ถึงกับติดขัดแต่ก็ดีกว่าเส้นทางก่อนหน้านี้ สัมผัส ถึงบรรยากาศการขับในเมืองอยู่บ้าง หลบหลีกรถใหญ่น้อย

เส้นทางบอกเลยว่าไม่ธรรมดาจริงๆ เข้าซอกเล็ก ทะลุซอกน้อย จังหวะเลี้ยวเข้าซอยหากเป็นรถที่ช่วงตัวยาวกว่านี้ต้องถอยตั้งลำใหม่ถึงจะพ้น แสดงให้เห็นถึงข้อดีของรถขนาดเล็ก

ส่งเพื่อนเสร็จสลับไปนั่งเบาะหลัง เบาะนั่งรองรับสะโพกและต้นขาได้ดี พื้นที่วางขามีมาให้เหลือเฟือ

แรงเหวี่ยงจากการเข้าโค้งบนความเร็วสูงถือว่าน้อยมากแทบไม่รู้สึก ขณะที่ความนุ่มนวลมีมาให้พอประมาณ ไม่ได้นุ่มมาก แต่ก็ไม่ถึงกับแข็งกระด้าง

ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบแม็กเฟอร์สัน สตรัต/เหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังทอร์ชั่นบีม

กลับถึงจุดสตาร์ต กดดูระยะทางและอัตราสิ้นเปลืองทั้งหมด 108 ก.ม. น้ำมันในถังเหลือให้วิ่งได้อีก 464 ก.ม. สิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 18.5 ก.ม.ต่อลิตร

ถือว่าทำตัวเลขได้ดีพอสมควร แต่ถ้าจะให้ดีต้องซัดกันยาวๆ ผ่านการขับขี่หลากหลายรูปแบบ ถึงจะชี้ชัดได้ว่าประหยัดจริง หรือไม่

‘ฮอนด้า แฮตช์แบ๊ก อี:เอชอีวี’ ถือเป็นจิ๊กซอว์ตัวล่าสุดที่เข้ามาเชื่อมต่อให้ ‘เดอะ ซิตี้ ซีรีส์’ ลงตัวครบถ้วน

กิตติพงศ์ ศรีเจริญ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน