พท.ถล่ม‘ตู่’ทิ้งเกษตรกรไว้ข้างหลัง – เมื่อวันที่ 10 ส.ค. นายนิยม ช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน เตรียมยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในเดือนส.ค.นี้ว่า พรรคเพื่อไทยจะชี้ให้ประชาชนเห็นถึงความล้มเหลวในการแก้ปัญหาภาคอุตสาหกรรมการเกษตรของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่ทำตัวเป็นผู้ซื้อมากกว่าผู้ขาย ให้ความสำคัญกับการซื้ออาวุธมากกว่าการขายสินค้าทางการเกษตรเพื่อช่วยประชาชน ไร้ความสามารถในการหาตลาดขายสินค้าใหม่ๆ ในต่างประเทศ ทั้งที่รัฐบาลมีความพร้อมทุกอย่างทั้งเรือขนส่งสินค้า หรือการขนส่งสินค้าทางอากาศ แต่ทำไม่เป็นหรือไม่คิดจะทำมากกว่า
ส่วนนโยบายประกันราคาสินค้าเกษตรของรัฐบาล เหมือนการนำงบประมาณของรัฐบาลหลายแสนล้านบาท ไปอุ้มผู้ประกอบการเพื่อหาประโยชน์จากส่วนต่างของราคาประกันสินค้าเกษตร ซึ่งพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เคยประกาศไว้ในหลายโอกาสว่าหากได้เป็นรัฐบาลจะดูแลราคาสินค้าเกษตรไม่ให้มีราคาต่ำกว่านี้ ข้าวหอมมะลิ 18,000 บาทต่อตัน ข้าวเจ้า 12,000 บาทต่อตัน แต่ปัจจุบันราคาห่างไกลจากนโยบายที่รัฐหาเสียงไว้มาก
“พล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยเป็นเกษตรกร จึงไม่รู้ว่าเกษตรกรได้รับความลำบากแค่ไหน รัฐบาลชอบสร้างฝันในอากาศ จับต้องไม่ได้ และไม่ให้ความสำคัญกับนโยบายที่ประกาศไว้ รัฐบาลใจดำมากที่ทอดทิ้งเกษตรกร หากแก้ไขไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์ก็ลาออกไป อย่าสร้างความเสียหายให้เกษตรกรอีกเลย” นายนิยมกล่าว
ด้านนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยืนยันว่านายกฯ ไม่ได้กลัวการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พร้อมที่จะชี้แจงในทุกประเด็นโดยเฉพาะเรื่องใช้งบประมาณ การยื่นอภิปรายสามารถทำได้ แต่ให้คิดว่าเหมาะสมหรือไม่ที่จะใช้เวทีสภาผู้แทนราษฎรมาอภิปรายมาโจมตี กล่าวหานายกฯและรัฐบาล ในขณะที่ประเทศต้องการความร่วมมือแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19
