‘โต๋’ฐานความรักแน่น กดดันข้ามสายมาเล่นละคร – วาดฝีไม้ลายมือทางด้านการแสดงเต็มตัว ชนิดเต็มเรื่องครั้งแรกกับละคร “หว่อ อ้าย หนี่ เธอที่รัก” ทางช่องพีพีทีวี เอชดี นักร้อง นักเปียโนหนุ่ม ‘โต๋’ ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร ก็โชว์ศักยภาพเต็มที่
เพราะนอกจากจัดเต็มการแสดงแล้ว เจ้าตัวยังทำเพลงประกอบละครเรื่องดังกล่าวด้วย
โดยโต๋ได้มาเปิดใจถึงเรื่องงานแสดง และอัพเดตผลงานเพลง รวมถึงชีวิตรักกับแฟนสาว ‘ไบรท์’ พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ
ในเรื่องรับบทเป็นใคร คาแร็กเตอร์เป็นยังไง?
โต๋ – “ในเรื่องรับบท เฉินอัน ลูกครึ่งไต้หวัน-ไทย เป็นทายาทนักธุรกิจที่นั่น เป็นคนรักเก่าของนางเอกคือหยางมี่ (พีค) ประสบอุบัติเหตุความจำเสื่อม จำอะไรไม่ได้ จำได้แค่หยางมี่ ก็เลยมาตามรื้อฟื้น ความจำตัวเอง เฉินอันจะมีความเป็นผู้ใหญ่ จริงจัง บุคลิกนิ่งๆ มองอนาคต ความรักที่มีให้หยางมี่อยากให้เขามีชีวิตอนาคตที่ดี โดยลืมไปว่าเขาอยากจะมีความสุขในแบบเขาเอง ไม่ใช่เราไปวางรูปแบบให้”
เตรียมการบ้านกับบทนี้ยังไง?
โต๋ – “ในเรื่องภาษาผมได้ใช้ทั้งภาษาจีน ภาษาไทย ตรงนี้ไม่ค่อย มีปัญหา แต่เฉินอันเป็นคนพูดน้อย ใช้แววตาในการสื่อสาร คีพลุกส์ตลอดเวลา ผมก็เตรียมในส่วนนี้ แสดงออกด้วยสีหน้า ท่าทาง ดีใจครับที่ได้ร่วมงาน เขาบอกว่าเรื่องนี้เขียนมาอยากให้ผมเล่น พอผมได้อ่านก็พอเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงอยากให้ผมเล่น คืออยากให้คาแร็กเตอร์นี้เป็นผม ก็มีเข้าไปคุยกับผู้กำกับฯ (ต่อพงศ์ ตันกำแหง) เพื่อให้เข้ากับเรามากขึ้น ทั้งเรื่องภาษาจีน ไปถ่ายที่ไต้หวัน ต้องพูดกับคนไต้หวันจริงๆ ได้ใช้สกิลภาษาจีนเต็มๆ ก็เรื่องนี้ครับ”
“อีกเรื่องที่ชอบคือเฉินอันต้องเล่นเปียโน ผู้กำกับฯบอกว่าตัวละครนี้ต้องเล่นเปียโนได้ ดีเลย ปกติต้องถ่ายหน้าที ถ่ายมือที แต่นี่ถ่ายรวมได้เลย เพราะเล่นเอง ผมก็บอกได้เลย เล่นเปียโนง่ายกว่าแสดงอีก (หัวเราะ)”
แสดงว่าคาแร็กเตอร์กับตัวจริงคล้ายกัน?
โต๋ – “ใกล้เคียงกันนิดนึง มีส่วนที่ต้องปรับด้วยเหมือนกัน ต้องเติมเรื่องความนิ่ง ความเป็นผู้ใหญ่ ผมว่าผมขี้เล่นกว่าเฉินอัน ผู้กำกับฯ ก็จะบอกว่าบางจังหวะต้องเด็ดเดี่ยวกว่านี้ พูดคำสองคำแล้วนิ่งเลย บางทีเราใจดีไง”
เรื่องนี้คอมเมดี้เยอะ?
โต๋ – “ใช่ครับ เรื่องนี้เป็นการแสดงเต็มเรื่องครั้งแรกของผมผมได้เล่นกับคนเก่งๆ และมีตัวเอ็นเตอร์เทน อย่าง ซาร่า รัศมีแขจียอน ฟรอยด์ นาย คอมเมเดี้ยน เวลาเขามาอยู่ในฉากรวมกันถามหน่อยมีตรงสคริปต์ไหม ไม่ เขามาเต็มกันหมด ทึ่งกับความเก่งของพวกเขา ยอมรับว่าบางทีตามมุขไม่ค่อยทัน ไม่เก๊ต แต่พอ บางมุขที่เก๊ตก็ต้องฝืนไม่ยิ้มครับ หลุดหัวเราะง่ายมากครับ”
ได้ร่วมงานกับ ฌอห์ณ จินดาโชติ และ พีค ภัทรศยา เป็นอย่างไรบ้าง?
โต๋ – “สนุกครับ ฌอห์ณ เป็นคนเก่งมาก เข้าฉากด้วยแล้วสนุกมากอินกับฌอห์ณมาก และผมก็เชื่อว่าเขาน่าจะคิดแบบเดียวกัน เพราะในเรื่องผู้ชายสองคนจีบผู้หญิงคนเดียวกันต้องมีแข่งกัน แต่มันเกิดมิตรภาพ เราจะมีความกวนกันครับ ผมชอบความเป็นเพื่อนที่แข่งกันแต่ให้เกียรติกัน”
“ส่วน พีค เป็นนักแสดงที่ปรับเคมีเข้ากับทุกคนได้ง่ายมาก พอเริ่มถ่ายกันวันแรกๆ พีคส่งให้ตลอด ส่งสายตา อารมณ์มาให้ ส่วนฉากตลกๆ พีคทำ ได้ดี ฉากดราม่าเขาก็ทำได้ดีเช่นกัน เขาส่งให้ผมสามารถไปต่อได้ ดีใจที่ได้เล่นด้วย ช็อตหวานๆ เลิฟซีนก็มีนะ มีกอดมีหอม หลังๆ ก็ไม่เกร็งแล้วครับ”
นานๆ มาเล่นละคร กดดันไหม?
โต๋ – “นิดหน่อยครับ เราเป็นศิลปินที่ข้ามมาสายงานละคร อีกอย่างบทนี้ใกล้เคียงกับที่เราเป็น ที่กดดันคือผมอยากทำออกมาให้ดี เราตั้งใจมาเล่น ไม่ใช่แค่ว่าเขาอยากให้เรามาเล่น คือเราอยากมาเล่นด้วย พอมีโอกาสทำอะไรก็อยากให้มันดี ผมใช้เวลากับเรื่องนี้เยอะมากๆ รู้สึกอยากทำให้ดี และเป็นละครที่พูดถึงตัวเราพูดถึงไต้หวัน แฟนๆ ที่ติดตามผม ตั้งแต่ไปทำงานที่ไต้หวัน ที่จีน จะได้มีงานไปสู่เขา สักทีครับ”
ละครเรื่องนี้ถ่ายที่ไต้หวันด้วย?
โต๋ – “ใช่ครับ สนุกมาก ตื่นเต้นมาก ผมอยู่ไต้หวันมา พอได้ไปถ่ายที่นู่นก็ตื่นเต้น ดีใจ ฌอห์ณกับพีคบอกว่าไม่กลัวอะไรแล้ว มีผมอยู่ด้วย ให้พาไปเที่ยวด้วย ก็ได้พาทุกคนไปนู่นไปนี่สนุกดีครับ ผมดีใจที่ได้กลับไปไต้หวัน ที่สำคัญภาพออกมาสวยมากจริงๆ ทั้งที่ไต้หวันและที่อินเดีย แต่ที่อินเดียผม ไม่ได้ไป”
เรื่องนี้ได้ทำเพลงประกอบละครด้วย?
โต๋ – “ใช่ครับ อะไรที่เป็นตัวเราผู้กำกับฯก็อยากให้ออกมาถ่ายทอด เขาอยากให้ผมทำเพลงละคร ผมก็ได้ครับ เขาอยากได้ 2 เพลง คือเพลงไตเติ้ลกับเพลงประจำตัวเฉินอัน ก็เลยออกมา 2 เพลง คือ ‘ไม่รู้ตัว’ กับ ‘เป็นของเธอ’ ผมแต่ง เป็นของเธอ ก่อน เพลงนี้เป็นเพลงประจำตัวของเฉินอัน คือก่อนเริ่มถ่ายผมรู้แล้วว่าคาแร็กเตอร์นี้เป็นยังไง อยากพูดเรื่องอะไร ก็แต่งไว้เลย ส่วนเพลง ไม่รู้ตัว เริ่มแต่งตอนถ่ายแล้ว ก็เริ่มจากพีคนั่นแหละ พีคก็ตื่นเต้นนะจะได้มีเพลงเป็นของตัวเอง แล้วดีใจที่ได้ฟีเจอริ่งกับผมด้วย เขาบอกนะ (หัวเราะ)”
“ก็อยากให้ติดตามดูครับ เป็นเรื่องที่ฟีลกู๊ด มีความเป็นเพื่อน มิตรภาพ ระหว่างคนรักเก่าคนรักใหม่ เราเล่นกันเหมือนไปเจอเพื่อน มีเสียงหัวเราะ รอยยิ้ม อาจมีน้ำตาบ้าง ได้เห็นมิตรภาพคนในครอบครัวเชื่อว่าละครเรื่องนี้จะมอบความสุข มอบรอยยิ้มให้ทุกคน และฝากเพลงประกอบละครด้วยครับ ทั้ง 2 เพลงเลย”
แล้วผลงานเพลงของเราล่ะ?
โต๋ – “ไม่ได้ปล่อยเพลงมานาน หลายคนถามหาซิงเกิล พอดี ละครมาก็มีเพลงประกอบละครก่อนครับ แต่จริงๆ ทำเพลงไว้หลายซิงเกิลนะครับ แต่ยังไม่ได้ออก อยู่ในช่วงนี้การไปเล่นหรือโปรโมต ก็ลำบาก ก็ชะลอและเลื่อนออกมา จริงๆ ทำเสร็จตั้งแต่ปีที่แล้ว เดือนมีนาคม โควิดมาพอดีเลยไม่ได้ปล่อย จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้ปล่อยเป็นการร่วมงานกับศิลปินต่างประเทศด้วย เลยไม่สามารถปล่อยได้ แต่ระหว่างนี้ก็แต่งเพลงใหม่ๆ ไว้เรื่อยๆ ครับ มันยังไม่ใช่จังหวะ ต้องรออีกสักพักครับ”
แฟนๆ ต่างประเทศก็รองานเพลงอยู่?
โต๋ – “ใช่ครับ คนไต้หวันเขาก็มีเขียนมาบอกในที่สุดก็มีงานละครให้ดู มีเพลงให้ฟังแล้ว ใช่ไหม เอาจริงๆ ผมนี่แหละจะลืมภาษาจีนอยู่แล้ว เพราะอยู่นี่ไม่ได้ใช้เลย พอมีละครเราก็ดีใจ แฟนๆ ก็ดีใจที่มีผลงานมาให้เขาชมกันแล้ว”
ปรับตัวอย่างไร กับโควิดที่ผ่านมาร่วม 2 ปี?
โต๋ – “มันเป็นเรื่องที่กระทบทุกคน ในมุมวงการดนตรี พอเราออกไปเล่นคอนเสิร์ตไม่ได้ หลายๆ คนหาอย่างอื่นทำไปก่อน ส่วนผมก็ทำเพลงไปด้วย ทำสต๊อกเยอะหน่อย งานประชุมก็นิวนอร์มัล ไม่จำเป็นไม่ออกจากบ้าน ตอนนี้ต่างคนต่างกลัวกันครับ สุดท้ายต้องเรียนรู้อยู่กับมันให้ได้”
ชีวิตคู่ กับน้องไบรท์ ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
โต๋ – “ไบรท์ก็ยังทำงานทุกวัน ทำงานหนักตลอด ผมก็ให้กำลังใจตลอด ปีนี้เป็นปีที่เราผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะมาก ตั้งแต่เริ่มต้นปีไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณแม่ของไบรท์ เรื่องผู้จัดการของผม กับเรื่องที่ไม่ได้คาดคิดเลย มีหลายๆ อย่างที่เปลี่ยนแปลงในชีวิต แต่ก็เป็นจุดหนึ่งที่ทำให้เราต้องมูฟออนไปด้วยกันให้ได้ โตไปด้วยกัน เรื่องงานแต่งเราเลยยังไม่ปักวันที่แน่นอน เพราะเราไม่รู้เลยว่าโควิดจะจบลงเมื่อไหร่ ณ ตอนนี้ก็ดูแลกันไปก่อน หลังจบโควิดค่อยว่ากัน”
ให้กำลังใจกันตลอด?
โต๋ – “คุยกันตลอด เวลาเจอกันอาจจะน้อยลงเพราะทำงานเยอะ การคุยกันจึงเป็นเรื่องสำคัญ และที่สำคัญคือการรับฟัง ต้องเป็นคนฟังที่ดีด้วย ทำความเข้าใจในสิ่งที่เขาเจอ ผมว่าเป็นสิ่งหนึ่งนะที่ยิ่งผ่านอะไรมาด้วยกัน ก็มีฐานที่มั่นคงมากขึ้นครับ”
“การผ่านอะไรมาด้วยกัน ทำให้เราเข้มแข็ง และเข้าใจกันมากขึ้น ผมว่าปีนี้การเปลี่ยนแปลงอะไรเยอะ สำหรับเราทั้งคู่ แต่ก็ต้องก้าวไปด้วยกันให้มีความสุขครับ”
พลเทพ สารภิรมย์
