‘ตู่’เร่งเสริมแกร่งศก.-แก้หนี้กยศ. – เมื่อวันที่ 24 ส.ค.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า วันนี้ที่ประชุม ครม. มีสองประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ดังนี้ เรื่องที่ 1 โครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งครม.ได้เห็นชอบข้อเสนอโครงการดังกล่าว เป็นครั้งที่ 2 เพิ่มเติมอีก 12 จังหวัด

ซึ่งเมื่อรวมกับที่ได้อนุมัติไปแล้ว 23 จังหวัด ในการประชุมครั้งที่แล้ว รวมทั้งสิ้น 35 จังหวัด จำนวนโครงการที่ผ่านการอนุมัติ 4,303 โครงการ รวมกรอบวงเงินจัดสรรที่ 9,757.86 ล้านบาท

ครั้งที่หนึ่ง 23 จังหวัด 2,117 โครงการ วงเงินรวม 6,170.65 ล้านบาท ได้แก่ นครสวรรค์ อุทัยธานี กำแพงเพชร พิจิตร อุดรธานี หนองคาย หนองบัวลำภู บึงกาฬ ขอนแก่น สิงห์บุรี ปทุมธานี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ฉะเชิงเทรา ตราด สุราษฎร์ธานี ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา กระบี่ ตรัง สตูล

ครั้งที่สอง 12 จังหวัด 2,186 โครงการ วงเงินรวม 3,587.21 ล้านบาท ได้แก่ กาฬสินธุ์ มหาสารคาม นครราชสีมา ชัยภูมิ ยโสธร สระบุรี นครปฐม จันทบุรี พังงา ระนอง นราธิวาส ปัตตานี

โดยโครงการทั้งหมด แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มคือ กลุ่มที่ 1 โครงการพัฒนาสินค้า ท่องเที่ยวบริการ และการค้า เช่น การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว พัฒนาผลิตภัณฑ์ การส่งเสริมการตลาด กลุ่มที่ 2 โครงการยกระดับประสิทธิภาพและสร้างมูลค่าเพิ่มด้านการเกษตร เช่น การขุดบ่อบาดาลสำหรับการเกษตร การขยายท่อเพื่อการเกษตร

กลุ่มที่ 3 โครงการ ส่งเสริมและพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน เพื่อพัฒนาทักษะอาชีพของประชาชนให้สูงขึ้น กลุ่มที่ 4 โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานชุมชน เช่น การทำถนน สาธารณูปโภค ปรับปรุงประปา อาคาร และอื่นๆ ซึ่งโครงการทั้งหมดเป็นโครงการระยะเร่งด่วน เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตจากสถานการณ์โควิด-19 มีระยะเวลาในการดำเนินการระหว่างเดือน ส.ค.-ธ.ค.64

ซึ่งจากที่อนุมัติแล้ว 4,303 โครงการ คาดว่าจะก่อให้เกิดการจ้างงานอย่างน้อย 95,500 คน มีผู้ได้รับประโยชน์มากกว่า 18 ล้านคน และโครงการนี้ยังจะมีการอนุมัติครั้งต่อๆ ไปสำหรับจังหวัดอื่นๆ ที่ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาจากคณะอนุกรรมการ ซึ่งจะได้นำเสนอต่อ ครม.ในการประชุมต่อๆ ไปโดยเร็วที่สุดหลังจากพิจารณาอนุมัติโครงการตามที่ได้เสนอมาแล้ว

เรื่องที่ 2 การแก้ไขปัญหากองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ในปัจจุบันมีการกู้ยืมเงินของ กยศ. มากกว่า 5 ล้านราย รวมเป็นวงเงินมากกว่า 6 แสนล้านบาท แต่ยังมีปัญหาการผิดนัดชำระหนี้สูง ถึงมากกว่า 60% และยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาได้ออกมาตรการจำนวนมากเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ประเภทต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

ทั้งสองเรื่องนี้เป็นความพยายามของรัฐบาลในการหาทุกหนทาง ในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากวิกฤตโควิด-19 ซึ่งในขณะนี้มีแนวโน้มที่จะผ่อนคลายลง

รัฐบาลจึงต้องเตรียมมาตรการในการฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก ให้ถึงประชาชนแต่ละจังหวัดให้มากที่สุดและเร็วที่สุด เพราะภายในสิ้นปีนี้เราจะก้าวไปสู่การร่วมกันสร้างประเทศขึ้นมาใหม่ด้วยกันอย่างยั่งยืนและมั่นคง ให้อนาคตของประเทศ มีรากฐานที่แข็งแรงทั้งระบบสาธารณสุขและระบบเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อประโยชน์และความเป็นอยู่ที่ดีของพี่น้องประชาชนคนไทย ไม่ว่าท่าน จะเป็นใคร มีอาชีพใด อยู่ที่จังหวัดใดก็ตาม ทุกคนมีความสำคัญอย่างยิ่ง ขอให้เราทุกคนมาร่วมมือ “สร้างประเทศ” ร่วมกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน