คอลัมน์ บ.ก.ตอบจดหมาย

เสียงจากคนประจวบฯ

เรียน บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ข่าวสด

จากกรณีที่สภาเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์มีมติเสียง ข้างมากไม่รับมอบ 10 โครงการ มูลค่ามากกว่า 200 ล้านบาท จากงบพัฒนาจังหวัด งบกรมโยธาธิการจังหวัด ทำโครงสร้างพื้นฐาน ปรับปรุงภูมิทัศน์ในเขตเทศบาลในระยะ 15 ปี ที่ผ่านมานั้น ข้าพเจ้าเห็นด้วยที่ไม่รับ 10 โครงการนี้มา เนื่องจากโครงการเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากความต้องการของท้องถิ่น โดยเฉพาะทางเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์แต่อย่างใด แต่เป็นโครงการที่สร้างขึ้นเองแล้วจะมาให้เทศบาลดูแล เห็นว่าไม่สมควร เพราะเทศบาลเองจะต้องจัดงบประมาณ มาบำรุงรักษา อีกทั้งบางโครงการถูกปล่อยทิ้งร้าง

สำหรับโครงการร้างบางส่วน ประกอบด้วย การปรับปรุงภูมิทัศน์ที่เขาช่องกระจกเมื่อ 6 ปีก่อน ใช้งบ 30 ล้าน หน้าศาลากลางจังหวัดสิ่งปลูกสร้างถูกปล่อยร้าง ต่อมาเมื่อ 3 ปีก่อนใช้งบ 16.9 ล้านบาท หน้าศาลากลางจังหวัด ปัจจุบันอาคารจำหน่ายอาหารลิง อาคารขายสินค้าโอท็อปข้างศาลากลาง ถูกปล่อยทิ้งร้าง ใช้งบ 9.6 ล้านบาทสร้างไบก์เลนเลียบ อ่าวประจวบฯ ระยะทาง 2.9 กิโลเมตร แต่ไม่ใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ การก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นใช้งบประมาณหลายครั้งมากกว่า 100 ล้านบาท บริเวณชายหาดตลอดแนวถนนสวนสน-อ่าวน้อย อยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบตามพ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย ของกรมเจ้าท่า เทศบาลไม่สามารถรับมอบโครงการได้ การทำโครงการในค่ายลูกเสือ ที่ชุมชนตาม่องล่าย เทศบาลไม่สามารถรับมอบโครงการได้เนื่องจากไม่ใช่เจ้าของพื้นที่

ปัญหาที่สภาเทศบาลไม่รับมอบเนื่องจากการทำโครงการทั้งหมดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอน หลังจากทำโครงการทั้งหมดเสร็จแล้วไม่ได้มอบให้เทศบาลดูแล กระทั่งโครงการส่วนใหญ่มีปัญหาชำรุดทรุดโทรม สร้างความเดือดร้อน มีผลกระทบกับประชาชน

จ่าเอกเสกสรรค์ จันทร

แกนนำเครือข่ายต่อต้านการทุจริต จ.ประจวบคีรีขันธ์

ตอบ จ่าเอกเสกสรรค์

เห็นด้วยว่าโครงการต่างๆ ต้องเริ่มจากความต้องการของคน ท้องถิ่น ต้องให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่มต้น ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นการสร้างภาระให้โดยที่ไม่ได้ร่วมรู้เห็นด้วย สภาเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ก็ถือเป็นตัวแทนของชาวบ้าน นั่นเอง จึงต้องตัดสินใจบนพื้นฐานประโยชน์ของท้องถิ่น

 

คนรุ่นเก่าอย่าขวางโลก

เรียน บ.ก.ข่าวสด

ผมก็เป็นคนสูงอายุ และเข้าใจในวิวัฒนาการของโลก และสังคม จึงยอมรับว่าทุกอย่างย่อมมีการเปลี่ยนแปลง คนรุ่นใหม่ย่อมมาแทนที่คนรุ่นเรา อนาคตของประเทศชาติย่อมขึ้นกับคนรุ่นใหม่ อีกทั้งความคิดความอ่านของเรามีแต่จะเริ่มอ่อนล้าโรยรา ขณะที่คนรุ่นใหม่เขาย่อมรู้ดีกว่า เท่าทันโลกยุคใหม่มากกว่าเรา เพราะฉะนั้นหลายต่อหลายเรื่อง ที่เกี่ยวข้องกับอนาคตข้างหน้าของประเทศชาติ เมื่อคนรุ่นใหม่ ลุกขึ้นมาเรียกร้อง แสดงความต้องการ อันดับแรกต้องรับฟัง และต้องไม่ปิดกั้น

เพราะคนรุ่นเก่าจะยึดติดความคิดความเชื่อของตัวเองด้านเดียวแล้วไม่รับฟังและไม่ยอมตามความคิดของคนรุ่นใหม่ พร้อมกับหยุดสังคมไม่ให้เคลื่อนไหวไปตามที่คนรุ่นใหม่เรียกร้องต้องการนั้น การทำเช่นนี้ต้องถามว่า ได้อะไรขึ้นมา คนรุ่นเก่าจะมีเวลาอยู่ดูโลกอีกแค่กี่ปีกันเชียว ส่วนเด็กรุ่นใหม่เขาต้องอยู่อีกนาน ที่สำคัญสังคมในภายหน้าต้องอยู่กับเขา และเขาก็ควรมีสิทธิกำหนดอนาคตตัวเอง ใช่หรือไม่ ยอมรับเถิดว่าถ้าเป็นไดโนเสาร์ก็มีแต่ต้องสูญพันธุ์ อย่าขัดขวางโลกที่ต้องหมุนไปข้างหน้าอีกเลย

คนแก่ที่ไม่ใช่ไดโนเสาร์

ตอบ คนแก่ที่ไม่ใช่ไดโนเสาร์

อ่านความคิดเห็นของคุณแล้ว ยอมรับว่าไม่ใช่ไดโนเสาร์แน่นอน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน