คาดหวังซักฟอก – ผ่านครึ่งทางอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เหลืออีก 2 วันที่พรรคร่วมฝ่ายค้านจะชำแหละซักฟอก เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี กับอีก 5 รัฐมนตรี ที่ต้องชี้แจงข้อ กล่าวหา ก่อนลงมติโหวตกันในวันที่ 4 ก.ย.

ศึกซักฟอกครั้งนี้ ฝ่ายค้านพุ่งเป้าไปที่นายกรัฐมนตรี กับรัฐมนตรีสาธารณสุข เนื่องจากวิกฤตโควิด ป่วยเกินล้าน ตายเกินหมื่น การบริหารจัดการวัคซีนล้มเหลว เศรษฐกิจดิ่งเหว ผู้คนตกงาน อดอยาก หนี้ท่วม และการใช้อำนาจโดยมิชอบ เป็นต้น

รวมถึงกรณีปราบปรามผู้ชุมนุมอย่างเกินเลยกว่าเหตุ จับกุมคุมขังนักศึกษา นักกิจกรรมทางการเมืองด้วยข้อหาฉกาจฉกรรจ์ แม้แต่เยาวชนอนาคตของชาติก็ไม่เว้น

การอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบนี้ จึงอยู่ในความสนใจเป็นพิเศษของสังคม

ขณะเดียวกัน การขับไล่นายกรัฐมนตรี รัฐบาล และองคาพยพต่างๆ ในเครือข่ายอำนาจ พร้อมทั้งเรียกร้องการปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางสังคม การเมือง และเศรษฐกิจครั้งใหญ่ กลายเป็นกระแสขับเคลื่อนลุกลามไปทั้งประเทศแล้ว

ปรากฏการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นเป็นแรมปี สะสมตลอดมา ดังที่สะท้อนผ่านการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ทั้งปัญหาทางการเมือง และความเดือดร้อนจากการบริหารงานล้มเหลวของรัฐบาล

โดยคาดอาจจะมาสุกงอมในช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังดำเนินอยู่ มีการนัดชุมนุมใหญ่วันที่ 2 ก.ย. และต่อเนื่องไปจนถึง 4 ก.ย. วันลงมติในสภาผู้แทนราษฎร

สังคมจึงเฝ้าจับตามองจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่

ดังนั้นในห้วงเวลานี้เป็นช่วงสำคัญ โดยเฉพาะผลพวงจากการซักฟอก และการชี้แจง ข้อกล่าวหาในสภา แม้เสียงส.ส.ฝ่ายค้านคง ไม่เพียงพอ แต่ก็หวังส.ส.ฝ่ายรัฐบาลจะคำนึงถึงความคาดหวังของสังคมด้วย

โดยเฉพาะความล้มเหลวจากเศรษฐกิจและ โควิด แม้ขณะนี้ยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตลดลงตามที่รัฐบาลแถลง แต่มีผู้ตั้งข้อสังเกต ข้อสงสัย ทำไมลดอย่างรวดเร็วในช่วงอภิปราย อำพรางปกปิดอะไรไว้หรือไม่

การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ จึงเป็นความ คาดหวังของประชาชน จะสร้างแรงสั่นสะเทือนนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลง และปรับเปลี่ยนอะไรได้หรือไม่

แต่ถ้ายังเหมือนเดิม หวั่นเกรงสถาน การณ์นอกสภายิ่งร้อนแรง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน