จากป๋าลอถึงผกก.โจ้
พลิกแฟ้ม‘พูลิตเซอร์’
แฉองค์กรทมิฬสีกากี
คลี่คดีอุ้ม-ฆ่า2แม่ลูก
แฟ้มคดี
จากคดีคลิปฉาวของผู้กำกับโจ้ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องสงสัยคดี ยาเสพติด จนเสียชีวิต จนถูกดำเนินคดีข้อหาฆ่า เป็นคดีที่ผู้ต้องหาเป็นถึงตำรวจยศสูงถึง พ.ต.อ.
ทำให้ถูกนำไปเปรียบเทียบกับคดีประวัติศาสตร์ อุ้ม-ฆ่าแม่ลูก ศรีธนะขัณฑ์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 27 ปีก่อน
เนื่องจากมีความคล้ายคลึงกันที่คนลงมือเป็นตำรวจ และอ้างเป็นการปฏิบัติหน้าที่หวังผลทางคดี
อย่างไรก็ตาม ต้องยืนยันว่าคดี 2 แม่ลูกนั้น เลวร้ายรุนแรงกว่ามาก เพราะนอกจากหวังผลในคดีเพชรซาอุฯ หวังจะได้เพชรของกลางคืน ระหว่างทางยังเกิดการตบทรัพย์ รีดไถ จนเป็นเหตุอุ้มฆ่า
แถมหลังจากเกิดเหตุยังมีการอำพรางให้เป็นอุบัติเหตุรถชน และหน่วยงานตำรวจด้วยกันก็ออกมารับลูกหวังเบี่ยงเบนคดี
แต่ด้วยหลักฐานที่ชัดเจน การเอาจริงเอาจังของทีมคลี่คลายคดี และมีสื่อมวลชนอย่าง ‘ข่าวสด’ ที่เกาะติดข้อมูลตั้งแต่แรก ตีแผ่ข้อมูล หลักฐาน แรงจูงใจ เดินควบคู่ไปกับการสืบสวนสอบสวน จนไม่มีทางที่จะบิดเบือนข้อมูลไปได้
สุดท้ายนำมาซึ่งการทลาย ‘เครือข่ายทมิฬสีกากี’ ดังที่ข่าวสดให้ฉายาไว้
เป็นการยืนหยัดการทำหน้าที่สื่อมวลชน ที่เสนอความจริง โดยไม่เกรงกลัวอิทธิพลมืดใดๆ
เปิดแฟ้มอุ้มแม่ลูกศรีธนะขัณฑ์
เหตุการณ์คดีประวัติศาสตร์นี้ เกิดขึ้นเมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 2 ก.ค. 2537 เมื่อนางดาราวดี ศรีธนะขัณฑ์ ที่ขับออกมาพร้อมลูกชาย ด.ช.เสรี ศรีธนะขัณฑ์ ที่มีจุดมุ่งหมายไปพบนายสันติ ศรีธนะขัณฑ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง
แต่แค่ออกจากหมู่บ้านก็ต้องพบกับด่านตรวจตำรวจ ที่นำโดยพ.ต.ท.พันศักดิ์ มงคลศิลป์ พร้อมลูกน้อง ที่ตั้งด่านเถื่อนอยู่หน้าหมู่บ้าน เมื่อทั้งคู่จอดรถ กลุ่มทมิฬก็กรูเข้าไปในรถ พร้อมจับทั้งสองสวมกุญแจมือ จับไปนั่งเบาะหลัง แล้ว 1 ในกลุ่มคนร้ายขับรถเบนซ์ออกจากจุดเกิดเหตุ ขณะที่ด่านตำรวจที่ตั้งไว้ก็สลายตัวทันที
เมื่อถึงรังสิต คนร้ายใช้ผ้าดำผูกตาทั้งคู่ แล้วพาตัวไปกักขังไว้ที่ห้องหมายเลข 9 และ 10 ของ ‘กวีวิลล่า’ อ.เมือง จ.สระแก้ว ตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค. จนกระทั่งถึงวันที่ 1 ส.ค. 2537 ทั้งคู่ก็ถูกคำสั่งจากกลุ่มผู้คุมให้ออกเดินทาง โดยด.ช.เสรี ถูกเรียกขึ้นจากสระว่ายน้ำ ให้มารับประทานอาหาร เหมือนกับว่าจะพาไปส่งบ้าน
แต่แล้วช่วงเวลา 03.00 น. ของวันที่ 2 ส.ค. ก็มีการแจ้งเหตุรถชน ที่หลักกิโลเมตรที่ 117-118 ใกล้ปากทางเข้าหมู่บ้านริมบึง ถนน สายมิตรภาพ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เมื่อตำรวจทางหลวงหินกองเข้าตรวจสอบก็พบรถเบนซ์หรู รุ่น 230 อี สีขาว ทะเบียน 8ฉ 3237 จอดอยู่ริมทาง หน้ารถด้านขวาถูกชนจนกระโปรงหน้าบุบ บังโคลน ขวาบุบ ยางล้อหน้าแบนติดพื้น
ภายในรถบพศพนางดาราวดี และด.ช.เสรี เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นคดีฆาตกรรมอำพราง มากกว่าเป็นอุบัติเหตุ เพราะมีพิรุธหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสีเมจิก ที่เขียนทะเบียนรถจากเลข 3 ให้เป็นเลข 8 เกียร์รถที่เป็นแบบกระปุกอยู่ในตำแหน่งเกียร์ว่าง ประตูไม่ได้ล็อก ทั้งคู่ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย รวมทั้งศพของด.ช.เสรี สวมกางเกงทับกางเกงว่ายน้ำที่มีคราบเปียก ผิดวิสัยผู้เดินทาง
อย่างไรก็ตาม สถาบันนิติเวช กรมตำรวจ แถลงสรุปผลชันสูตรว่าทั้งสองรายเสียชีวิตจากเลือดออกใต้เยื่อสมองชั้นนอก สมองบวมกดศูนย์หายใจจากการถูกของแข็งไม่มีคมกระแทก สันนิษฐานบาดแผลเกิดจากใบหน้ากระทบกระเทือนกับพวงมาลัยรถอย่างแรง
พยายามระบุว่าเกิดจากอุบัติเหตุให้ได้ แม้จะค้านกับหลักฐานที่ พบจนถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีเจตนาซ่อนเร้นอำพราง!??
ทลายองค์กรทมิฬ-จับบิ๊กตร.
แม้จะมีความพยายามสร้างเรื่องว่า การเสียชีวิตของ 2 แม่ลูกเกิดจากอุบัติเหตุรถชน แต่ด้วยพยานหลักฐานต่างๆ รวมทั้งการติดตามของสื่อมวลชน โดย ‘ข่าวสด’ ที่พาดหัวไม้วันแรกที่เกิดเหตุทันทีว่า ‘สีกากีอุ้มฆ่าลูก-เมียสันติเพชรซาอุ’ ก็ทำให้ไม่สามารถเบี่ยงเบนประเด็นจากผิดเป็นชอบไปได้
ในที่สุดความจริงก็คลี่คลาย เมื่อการสืบสวนพบแล้วว่าการอุ้ม 2 แม่ลูกไปนั้น มีจุดประสงค์อยู่ที่นายสันติ ผู้เป็นพ่อและสามี และเป็นบุคคลสำคัญในคดีเพชรซาอุฯ ที่รับซื้อเพชรมาจากนาย เกรียงไกร เตชะโม่ง
และถูกมองว่ายังมีเพชรของกลางอีกจำนวนหนึ่ง ที่ยังไม่กลับมาสู่มือของเจ้าหน้าที่และส่งคืนให้ราชวงศ์ซาอุฯ โดยเฉพาะเพชรระย้าทับทรวง เพชรประจำราชวงศ์ของเจ้าชายไฟซาล
ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงภายในกรมตำรวจ ที่มีบิ๊กตำรวจอยากจะสร้างชื่อ สร้างผลงาน จึงมอบหมายให้นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ 2 นาย คือ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ หรือ “ป๋าลอ” มือปราบชื่อดัง ในยุคนั้น และพล.ต.ท.โสภณ สะวิคามิน ให้เร่งหาของกลางโดยเฉพาะเพชรระย้าทับทรวง
โดยพล.ต.ท.โสภณสั่งการให้พ.ต.ท.พันศักดิ์ มงคลศิลป์ สว.สืบสวนเมืองปราจีนบุรี ลูกน้องคนสนิทดำเนินการ เข้าร่วมทีมงานของพล.ต.ท.ชลอ ซึ่งเดิมวางแผนจะอุ้มเสี่ยสันติเอง เพราะรู้ความลับเพชรเม็ดสำคัญ แต่พบว่ามีบอดี้การ์ดมาก เข้าไม่ถึงตัว จึงเบนเข็มมายังที่ลูกเมีย จึงจับตัวได้นำตัวไปไว้ที่กวีวิลล่า
จังหวะนั้นเอง เสี่ยสันติพยายามติดต่อไปยังพล.ต.ท.ชลอ ซึ่งคุ้นเคยกันตั้งแต่คดีเพชรซาอุฯ เพื่อขอให้ตามหาลูกเมีย จากนั้นพล.ต.ท.ชลอแจ้งว่า คนร้ายเป็นแก๊งเรียกค่าไถ่ โดยบอกว่าต้องจ่ายเงินแลกกับอิสรภาพลูกเมีย ซึ่งเสี่ยสันติจ่ายเงินไปเกือบ 4 ล้านบาท แต่ก็เงียบไป
จึงตัดสินใจเข้าขอความเป็นธรรมจากพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รมว.มหาดไทย จนเรื่องเริ่มอื้อฉาวจนควบคุมไม่อยู่จึงตัดสินใจ สั่งตาย 2 แม่ลูกหวังยุติเรื่องทั้งหมด
แต่ก็ไม่สามารถยับยั้งได้ เมื่อรัฐบาลสั่งพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองอ.ตร. และพล.ต.ต.วรรณรัชต์ คชรักษ์ ผบก.ป.ลุยคลี่คลายคดี และสามารถจับกุมพ.ต.ท.พันศักดิ์ มืออุ้มมาสอบสวนและให้ การซัดทอดถึงพล.ต.ท.ชลอ ที่สั่งตายโดยระบุ “รบกับผีดีกว่ารบ กับคน”
สุดท้ายถูกจับกุมยกแก๊ง รวมทั้งผู้บงการอย่างพล.ต.ท.ชลอด้วย!!
ไทม์ไลน์‘ข่าวสด’เจาะลึก
ทั้งนี้ หากย้อนการทำงานของข่าวสดที่เกาะติดข่าวควบคู่ไปกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ เริ่มตั้งแต่ วันที่ 1 ส.ค. 2537 หลังจากรับแจ้งอุบัติเหตุรถชน ในรถพบศพนางดาราวดี และด.ช.เสรี ‘ข่าวสด’ พาดหัวทันทีในน.ส.พ.ฉบับเช้าวันที่ 2 ส.ค. 2537 ว่า ‘สีกากีอุ้ม-ฆ่า ลูกเมียสันติเพชรซาอุ’ ขณะที่พล.ต.ต.นพ.ทัศนะ สุวรรณจูฑะ ผบก.สถาบันนิติเวชฯ รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเสื้อผ้าบางชิ้นของด.ช.เสรี เปียกชุ่มน้ำ สันนิษฐานว่าก่อนเกิดเหตุด.ช.เสรี น่าจะลงเล่นน้ำที่ใดสักแห่ง
3 ส.ค. 2537 กองปราบปราม นำโดยพล.ต.ต.วรรณรัตน์ เข้ามาสอบคดีในทางลับหลังพบว่าก่อนเสียชีวิต 2 แม่ลูกถูกอุ้มหายไปเกือบเดือน ขณะที่พล.ต.ท.ชลอให้สัมภาษณ์ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นและสงสารครอบครัวนายสันติ ขณะที่ ‘ข่าวสด’ เปิดตัว 2 นายพล ที่เป็นเงื่อนปมการเสียชีวิตของ 2 แม่ลูก
5 ส.ค. 2537 ข่าวสด เปิดประเด็น นายพลทมิฬสั่งการให้อุ้ม ลูกเมียนายสันติ แถมก่อนหน้านี้ยังเคยอุ้มตัวเสี่ยสันติเอง เอาไปกักขังไว้ที่ไร่เมืองกาญจน์ รีดเงินไปถึง 3.5 ล้านบาท ขณะที่ข้อมูลของคดีเริ่มชัด ตำรวจรู้แล้วว่า 2 แม่ลูกถูกอุ้มหายไปตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค. ขณะที่เสี่ยสันติเก็บตัวเงียบ โดยมีบอดี้การ์ดสีเขียวขี้ม้าคอยดูแลอารักขา ขณะที่มีรายงานว่าเสี่ยสันติ เข้าให้ข้อมูลกับพล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ รมว.มหาดไทยในขณะนั้นหมดแล้ว
11 ส.ค. 2537 นิติเวช นำโดยพล.ต.ต.นพ.ทัศนะ แถลงข่าวสรุปคดี 2 แม่ลูกเป็นอุบัติเหตุรถชน สวนกระแสความรู้สึกของสังคม ขณะที่ ‘ข่าวสด’ ไม่วอกแวก แฉซ้ำในวันที่ 14 ส.ค. ว่าชุดอุ้มฆ่าครั้งนี้มีพ.ต.ท.เป็นหัวหน้าชุด ต่อมา 18 ส.ค. ข่าวสดเปิดตัวนายพลทมิฬ
ขณะที่คดีเริ่มขมวดปม นายกฯ ตั้งพล.ต.อ.ประชา คุมทีม ข่าวสด เปิดตัวนายพลทมิฬ คนที่ 2 ในวันที่ 27 ส.ค. แล้วตีพิมพ์สกู๊ปหน้า 1 ‘องค์กรซ่อนเงื่อนสีกากี คำสั่งทมิฬ ฆ่าลูก-เมียเสี่ยสันติ’ เปิดแรงจูงใจสั่งอุ้มฆ่าว่าอยู่ที่เพชรซาอุฯ อยากสร้างผลงานชิ้นโบแดง
4 ก.ย. ข่าวสด เปิดโปงการหักหลังกันเองระหว่างนายพลทมิฬทั้งสอง และเป็นสื่อกลางให้ญาติของนางดาราวดีเรียกร้องให้นายสันติออกมาแฉพฤติกรรมขององค์กรทมิฬ 6 ก.ย. มีคำสั่งเด้งพ.ต.ท.พันศักดิ์ และลูกน้อง และกองปราบฯ บุกจับในวันที่ 7 ก.ย.
8 ก.ย. รมว.มหาดไทย ให้พล.ต.ท.โสภณ และพล.ต.ท.ชลอ ออกจากราชการไว้ก่อน โดยข่าวสดนำเสนอคำให้การของพล.ต.ท.โสภณ ที่ทำบันทึกคำให้การถึงพล.ต.อ.อีกราย ขณะที่ทีม อุ้มฆ่าระบุได้รับคำสั่งจากพ.ต.ท.พันศักดิ์ ว่าให้ทำงาน ‘เพื่อชาติ’ ต่อมาพ.ต.ท.พันศักดิ์ รับสารภาพ อ้างคำสั่งการของพล.ต.ท.ชลอ ที่ระบุว่า ‘รบกับผีดีกว่ารบกับคน’ และ ‘ถ้าปล่อยไปพังทั้งกรมแน่’ จากนั้นเสี่ยสันติบินกลับมาจากอินโดนีเซียให้การมัดพล.ต.ท.ชลอ เงื่อนปมทุกอย่างจึงคลี่คลาย
ที่คือการทำงานของสื่อที่เกาะติดเหตุการณ์สำคัญ ตีแผ่โดยไม่เกรงกลัวอิทธิพล ยึดมั่นในพยานหลักฐานข้อเท็จจริง นำมาซึ่งการคลี่คลายคดีโหดเหี้ยมอย่างรวดเร็ว
เป็นผลงานในอดีต เป็นบรรทัดฐานที่จะทำต่อไปในอนาคต!!!
พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ
แม่ลูกศรีธนะขัณฑ์
ทำแผนฆ่า 2 แม่ลูก
พันศักดิ์ที่ถูกจับ
