สธ.โดนแฮ็กข้อมูล-รุมจวกดีอีเอส – เมื่อวันที่ 7 ก.ย. น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ส.ส.สระบุรี พรรค พลังประชารัฐ(พปชร.) ประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคมดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กมธ.ดีอีเอส) สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีการแฮ็กข้อมูลผู้ป่วยของกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) 16 ล้านคน ว่า กมธ.ดีอีเอสให้ความสนใจเรื่องนี้อย่างมาก เพราะเคยเกิดกับโรงพยาบาลสระบุรีมาแล้ว

เรื่องนี้จะเป็นภัยทั้งในแง่ความมั่นคงและผลประโยชน์ของประชาชน เพราะไม่ใช่เกิดเฉพาะกับโรงพยาบาล แต่เกิดกับสถาบันการเมือง ระบบการขนส่ง ซึ่งจะกระทบกับคนจำนวนมาก ดังนั้นการประชุมกมธ.ในวันที่ 9 ก.ย. จะมีการหารือกันเพื่อจะนำเข้าเป็นวาระของกมธ.ในครั้งต่อไป เพื่อดำเนินการเสนอแนวทางการป้องกันในอนาคต

ด้านพ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) รองประธานกมธ.ดีอีเอส กล่าวว่า ปัญหานี้เกิดจากฐานข้อมูลหน่วยงานในประเทศไทยไม่มีระบบการรักษาระบบความปลอดภัยด้านไซเบอร์ จึงทำให้ถูกเจาะข้อมูลได้ง่าย ตามข้อเท็จจริงประเทศไทยมี พ.ร.บ.ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์อยู่แล้ว ซึ่งมี ข้อกำหนดชัดเจนว่าต้องวางระบบการรักษาข้อมูลความปลอดภัยในออนไลน์ แต่ขณะนี้ยังถือว่าหละหลวมอยู่

“หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง คือ สำนักงานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ และกระทรวงดีอีเอส แต่ที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องนี้ จึงเชื่อว่าหลังจากนี้ การถูกแฮ็กข้อมูลออกไปจากหน่วยงานรัฐจะมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น เพราะข้อมูลเหล่านี้สามารถนำไปเรียกค่าไถ่ได้” พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าว

นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวว่า การดูแลประชาชนในรัฐบาลชุดนี้พังทั้งระบบอย่างสิ้นเชิง ฐานข้อมูลผู้ป่วยซึ่งเป็นความลับทางการแพทย์ตามมาตรฐานสากล กลับถูกปล่อยปละละเลยจากรัฐผู้กุมข้อมูลทั้งหมด ที่ผ่านมากว่า 7 ปี การบริหารงานของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่ต้องควบคุมดูแลการบริหารในภาพใหญ่ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อบริการประชาชน

แต่จนถึงวันนี้ยังไม่สามารถสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนได้ ซ้ำปล่อยปละละเลยให้ เจ้ากระทรวงสาธารณสุขในโควตาของพรรคภูมิใจไทย และกระทรวง ดีอีเอสในโควตาของพรรคพลังประชารัฐโยนความผิดกันไปมา สุดท้ายคนที่ต้องรับกรรมคือประชาชน

กระทรวงดีอีเอสในวันนี้ กลายเป็นหน่วยงานที่น่ารังเกียจในสายตาประชาชน ภารกิจหลักที่ควรวางรากฐานเพื่อรองรับสังคมดิจิทัล สร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตในทุกพื้นที่ สร้างความปลอดภัยของข้อมูลอย่างเป็นระบบ และนำเทคโนโลยีมาพัฒนาเพื่อสร้างตลาดทางเศรษฐกิจใหม่ๆ ให้ประเทศ กลับไม่เคยได้รับความสนใจ แต่ผลงานดีเด่นคือการจับเฟกนิวส์เท่านั้น

“อยากเรียกร้องให้นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอสเร่ง ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้โดยด่วน เพราะข้อมูลของประชาชนที่ถูกประกาศซื้อขายในตลาดมืดเป็นการละเมิดสิทธิ และอาจทำให้ผู้ถูกเปิดเผยข้อมูลถูกละเมิดข้อมูลด้านอื่นด้วย หากปล่อยเงียบหายไปแบบไร้ร่องรอย ประชาชนอาจสงสัยได้ว่าท่านรู้เห็นเป็นใจกับกระบวนการนี้ด้วย” นายชนินทร์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน