‘แบงค์’คลั่งบอนไซ จากสิ่งที่รักสู่อาชีพเสริม – ด้วยชื่นชอบความเป็นญี่ปุ่น นักร้องดัง ‘แบงค์’ ปรีติ บารมีอนันต์ หรือ ‘แบงค์ วงแคลช’ จึงสร้างห้องเป็นสไตล์ญี่ปุ่นและทำสวน บอนไซไว้บริเวณรอบบ้านเพื่อเพิ่มบรรยากาศให้เหมือนอยู่ที่ญี่ปุ่น

จากความชอบ นำสู่การเปิดเพจเฟซบุ๊ก Aoien Bonsai (อาโออิเอ็น บอนไซ) นำเข้าต้นบอนไซจากญี่ปุ่นมาขาย เป็นอาชีพเสริมเล็กๆ

โดยเจ้าตัวให้สัมภาษณ์ถึงการค้นพบอาชีพที่รักอีกอาชีพหนึ่ง รวมถึงเรื่องที่โดนทักเป็นตัวปลอมหลังไว้ผมยาว พร้อมอัพเดตชีวิตในช่วงนี้

ไปยังไงมายังไง ถึงทำสวนบอนไซจริงจัง?

แบงค์ – “ชอบต้นบอนไซอยู่แล้ว แต่รู้ว่าเลี้ยงเขาไม่ได้ เพราะเป็นศิลปินแล้วก็ทัวร์คอนเสิร์ต คือมันเป็นอะไรที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน เป็นงานศิลปะที่มีชีวิต ไม่ใช่แค่ตั้งโชว์ไว้อย่างเดียว แต่ด้วยช่วงหยุดโควิด เราคิดว่าเราสนใจสิ่งเหล่านี้ แล้วมีแม่บ้านคนใหม่เข้ามา เขาเคยทำสวนทำไร่ เคยทำงานในร้านบอนไซ ก็เลยสบายเลย ว่าฝากฝังไว้ได้ เวลาเราไม่อยู่ แล้วบวกกับตอนนี้โควิดมาแล้วหยุดยาวก็เลยเต็มที่”

เห็นว่านำเข้าจากญี่ปุ่น?

แบงค์ – “ใช่ครับ ทั้งหมด เพราะเรามีช่องทาง แล้วก็มีเพื่อนเป็น ชาวญี่ปุ่น เรารู้จักทั้งคนไทยที่อยู่ญี่ปุ่น เราก็ขอความช่วยเหลือ ส่งออกนำเข้ามาให้เลย”

ตอนแรกเลี้ยงเพราะความชอบ ตอนนี้กลายเป็นธุรกิจแล้ว?

แบงค์ – “เรียกว่าเป็นธุรกิจได้ไหม ผมว่ายังไม่ได้ เพราะธุรกิจต้องมีที่เยอะๆ แล้วก็ขายต้นไม้ทุกวัน แต่ของผมมันเป็นสวนเล็กๆ สวนหนึ่ง ที่ทำงานแบบโฮมเมด กว่าจะขายต้นหนึ่งได้ ก็ไม่ใช่ว่านำเข้ามาแล้วขายไป คงจะประดิดประดอยเขาก่อน”

ในแง่ของจิตใจมันช่วยอะไรได้บ้าง?

แบงค์ – “มันทำให้เราละเอียดมากขึ้น และต้นไม้มันสอนเรานะ ไม่ต้องยิ่งใหญ่ แต่อยู่เป็น 100 ปีได้ มันก็ดีในการบำรุงจิตใจของเรา แล้วปกติเป็นคนที่ไม่ค่อยออกไปไหนอยู่แล้ว พอเจอต้นไม้ เหล่านี้ยิ่งทำให้นั่งนิ่งๆ อยู่ที่เดิมตรงเนี้ย”

หลายคนหันมาสนใจเรื่องการปลูกต้นไม้ แต่ของพี่แบงค์ ค่อนข้างฉีกแนว เลือกปลูกต้นบอนไซ?

แบงค์ – “จริงๆ แล้วเพราะชอบความเป็นญี่ปุ่น เป็นเจแปนลิซึ่ม คือบอนไซบอกถึงความอายุยืนยาว เหมือนงานศิลปะ ที่ยิ่งพอคลุกคลีกับเขามากขึ้น ก็ยิ่งรู้เลยว่าผมชอบศิลปะอะไรพวกนี้ ผ่านไป 3 เดือน 6 เดือน เขาเปลี่ยนไปตลอด มันสนุกตรงนี้มากกว่า”

ช่วงนี้เป็นช่วงโควิดมีเวลาดูแล แต่ถ้าโควิดหายไป แล้วต้องกลับมาทัวร์คอนเสิร์ต วางแผนไว้อย่างไร?

แบงค์ – “อย่างที่บอก อย่างแรก โชคดีที่แม่บ้านรดน้ำเป็น เคยดูแลต้นไม้มาก่อน อย่างที่สองวงแคลช ตอนนี้คอนเสิร์ตไม่เหมือน 10 ปีก่อน ที่ไปทัวร์ทีหายไป 2 อาทิตย์ กลับมาคือหมาโตแล้ว (หัวเราะ) คือมันไม่ขนาดนั้น เพราะตอนนี้แต่ละคนมีภารกิจของตัวเอง คือทำงานเต็มที่ก็ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ไม่เกิน 4 วัน มองแล้วอะไรหลายๆ อย่างน่าจะเอาอยู่ ตอนนี้นั่งดูต้นบอนไซ 50-60 ต้นได้ไง (หัวเราะ)”

วางแผนที่จะขยายใหญ่ไปเรื่อยๆ?

แบงค์ – “ไม่ขยายหรอก พูดตอนนี้นะว่าไม่ขยาย แต่วันหน้าไม่รู้ คือมันจะดูแลไม่ไหว แล้วเราก็ไม่ได้อยากจะทำเป็นธุรกิจจ๋า กลัวจะไม่สนุก เพราะขนาดเท่านี้ ลูกค้าแวะมาที่สวน ก็ชมว่าเหมือนไปญี่ปุ่นเลยเนอะ แค่นี้ก็คือบรรลุแล้ว พอแล้ว”

ตอนนี้เรียกว่าเป็นกูรูในเรื่องต้นบอนไซ ใครอยากรู้อะไรสามารถมาสอบถามได้เลย?

แบงค์ – “ได้ครับ ก็สามารถอินบ็อกซ์ไปถามในเพจ Aoien Bonsai ได้เลย เผื่อถามลึกๆ แล้วแอดมินไม่สามารถตอบได้ เดี๋ยวผมตอบเอง”

หลายๆ คนต่างได้รับผลกระทบจากโควิด ด้านงานคอนเสิร์ตของวงแคลช เป็นไงบ้าง?

แบงค์ – “ว่างเปล่า คือตอนนี้สถานการณ์มันทั้งโลก เท่ากันหมด ไม่ว่าใครดังกว่าใคร คือทุกคนได้ผลกระทบเท่ากันหมด ถ้าใครเจอช่องทางอื่นนอกจากการเล่นดนตรีก็โชคดีไป เห็นบางคนก็เจอ เผลอๆ มีรายได้มากกว่าการเป็นนักดนตรีด้วยซ้ำ อย่างผมนี่ก็เจอการทำสวนบอนไซ เป็นสิ่งหนึ่งที่เราทำมันได้ทุกวันแล้วก็ไม่เบื่อ”

“เหมือนเราคิดว่า เราจะมีแฟนคนนั้นแค่คนเดียว แล้วพอเราเลิกกับเขาไป จะไม่มีใครมาแทนที่เขาได้ แต่แล้วเราก็เจอ มันก็จะมีสิ่งหนึ่งที่เราเจอ แล้วก็มาทดแทนตรงนั้นได้ แล้วมันก็มีความสุขด้วย”

นอกจากต้นไม้แล้ว มีคนจริงๆ เข้ามาทดแทนได้บ้างหรือยัง?

แบงค์ – “คือที่ผมอยู่กับต้นไม้ได้ทุกวัน คือเขาไม่พูด แล้วมันก็สอนอะไรเราด้วย แต่จริงๆ ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยได้ไปไหนอยู่แล้ว ก่อนจะมีการกักตัวก็อยู่แต่บ้าน ทำนั่น ทำนี่ ตื่นมาก็รดน้ำต้นไม้ก่อนอันดับแรก เสร็จแล้วก็ลงมาเล่นกับหมาแมวที่บ้าน คุยกับคุณย่าแล้วก็ทำกับข้าวกิน แล้วก็หวนกลับขึ้นมาดูสวน ทำอย่างนี้ 4-5 ชั่วโมง เป็นอย่างนี้มานานมากแล้ว กลายเป็นกิจวัตรไปแล้ว คือไม่ได้เจอใคร”

ล่าสุดกักตัวก็เปลี่ยนลุกส์ใหม่ไว้ผม หลายคนจำไม่ได้ ทักว่าเป็นตัวปลอม?

แบงค์ – “ก็ตลกดี อาจเพราะก๊อบปี้โชว์ เงาเสียงของ แบงค์ แคลช มันถูกพัฒนาไปไกลมาก ผมว่าหลายๆ ท่านที่ได้ติดตามมานาน ที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ เขาคงจะมองว่า เงาเสียง ก๊อบปี้โชว์ จะต้องไว้ผมตั้ง แต่ว่าพี่แบงค์คงไม่มีผมอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ถ้าใครที่มีผม ก็คงต้องเป็นตัวปลอม สรุปพอผมมีผม เขาก็เลยรู้สึกว่าไม่ใช่หรอก บางคนถามด้วยซ้ำว่า พี่แบงค์ไปทำลักยิ้มมาเมื่อไหร่ คือผมมีลักยิ้มนะครับ”

ไว้ผมเนื่องในโอกาสอะไร หรือจะมีอะไรเซอร์ไพรส์แฟนคลับหรือเปล่า?

แบงค์ – “คือจริงๆ เราได้บอกแฟนคลับว่าจะไม่ลงรูปใบหน้าประมาณ 3-4 เดือน เพราะเราจะไว้ผม แล้วจริงๆ วาระเนี้ย เป็นวาระที่จะจัดคอนเสิร์ต 20 ปีวงแคลช คือวางแผนไว้ว่าสิ้นปีนี้ แต่สุดท้ายจัดไม่ได้ พังพินาศหมด ถ้าตามแผนเดิม คิดว่าช่วงนี้จะเป็นช่วงซ้อมคอนเสิร์ต แล้วก็จะไปเปิดตัวเราว่าไว้ผมอีกทีในคอนเสิร์ต”

“แต่สุดท้าย วาระนั้นทำไม่ได้ ก็เลยอ่ะ..เปิดตัวมันอย่างนี้แหละ เพราะถ้ายาวไปกว่านี้ ก็ทำทรงนี้ไม่ได้แล้ว”

แล้วส่วนตัวชอบแบบไหน?

แบงค์ – “ชอบสกินเฮดมากกว่าอยู่แล้ว มันง่ายกับผู้ชายที่ไม่ต้องอะไรมาก คือไว้สกินเฮด มา 10 กว่าปี มายาวมันไม่ชินอ่ะ”

สุดท้าย ในฐานะที่เราอยู่ในกลุ่มอาชีพ นักร้อง-นักดนตรี ที่หลายคนตอนนี้ได้รับผล กระทบอย่างหนัก อยากพูดอะไรไหม?

แบงค์ – “อาชีพนักร้องนักดนตรีเรียกว่าเป็นอาชีพหิวแสงโดยธรรมชาติ คิดถึงแสงไฟที่ส่องเข้ามา เป็นอาชีพที่หิวแสงโดยแท้ เราก็อยู่ในสังคมนักดนตรี นักร้อง ก็แลกเปลี่ยนความลำบากกัน ช่วงแรกๆ ก็บ่นว่าปรับตัวไม่ทัน บางคนก็หาสิ่งที่มาทดแทนการเล่นดนตรีการร้องเพลงได้ บางคนก็หันไปทำอย่างอื่นแล้วสำเร็จ ก็โชคดีไป”

“ส่วนคนที่คิดว่าตอนนี้ ยังร้องเพลง เล่นดนตรีได้อย่างเดียวเท่านั้น อันนี้ก็ขอให้กำลังใจ แล้วก็ต้องค้นหากันต่อไป คือผมก็เจอด้วยความบังเอิญ เพราะถ้ายิ่งบังคับตัวเอง ยิ่งจะไม่เจอ ก็ต้องปล่อยชิลชิล”

“แต่ก็เข้าใจบางคนว่าชิลไม่ได้ มันอยู่ในห้วงสุดท้ายของเงินเก็บ จากคนที่จะหมด ก็หมดแล้ว จากคนที่เคยให้ยืม ตอนนี้อาจจะเป็นผู้ยืมเองแล้ว วันนี้ก็คือต้องมีสติในการใช้ชีวิตต่อไป ก็ให้กำลังใจทุกคน ขอให้ทุกกิจการทุกอาชีพได้กลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม”

อชริญา บุญชู

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน