อิหร่านพูดชัด-ไม่ญาติดีตาลิบัน – เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อ 13 ก.ย. รัฐบาลอิหร่านแสดงท่าทีชัดเจนว่า ไม่รับรองรัฐบาลชั่วคราวของอัฟกานิสถานจากกลุ่มตาลิบัน หลังทั้งสองฝ่ายเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมานาน รวมถึงช่วงที่ตาลิบันเคยปกครองอัฟกานิสถานช่วงปี 2539-2544 ก่อนถูกสหรัฐอเมริกายกทัพมาโค่นอำนาจ
อิหร่านเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดอัฟกานิสถานยาวถึง 900 กิโลเมตร ต้องคอยรับผู้อพยพชาวอัฟกันที่ทะลักหนีภัยก่อการร้าย ความยากจน และการปกครองของตาลิบันมาแล้วเกือบ 3.5 ล้านคน จนถึงช่วงที่ตาลิบันเริ่มกลับมามีอำนาจจังหวะที่สหรัฐถอนทหารออกไป อิหร่านก็ไม่มีท่าทีว่าอยากข้องแวะด้วย กระทั่งเมื่อวันที่ 6 ก.ย. รัฐบาลอิหร่านยังแถลงประณามตาลิบันที่บุกโจมตีหุบเขาปัญจชีร์ ฐานที่มั่นของกลุ่มต่อต้านตาลิบัน
วันเดียวกัน นายอับดุล บากี ฮักกานี รมว.การอุดมศึกษาของรัฐบาลตาลิบัน แถลงว่านักศึกษามหาวิทยาลัยจะต้องเรียนแยกสถานที่กันระหว่างนักศึกษาชายหญิง ทางการจะประเมินว่าวิชาที่ควรสอน และมีการกำหนดเครื่องแต่งกายสำหรับนักศึกษาหญิงเป็นไปตามหลักศาสนา จำเป็นต้องสวมฮิญาบ ส่งผลให้กลุ่มปกป้องสิทธิมนุษยชนและสิทธิสตรีแห่วิพากษ์วิจารณ์ เพราะไม่เพียงไม่รักษาสัญญา แต่ยังออกกฎลิดรอนสิทธิสตรีอย่างโจ่งแจ้ง
นายฮักกานีย้ำว่าอัฟกานิสถานไม่มีปัญหาจากการยุติระบบการเรียนแบบสหศึกษา เพราะประชาชนเป็นมุสลิมและยอมรับได้ ทั้งอ้างว่า มีอาจารย์ผู้หญิงเพียงพอที่จะสอนนักศึกษาหญิง ที่ใดไม่มีจะหาทางเลือกอื่นแทน เรายังใช้ครูผู้ชายสอนหลังม่านหรือใช้เทคโนโลยีก็ได้
ทั้งนี้ หลังตาลิบันถูกปราบปรามในปี 2544 อัฟกานิสถานมีความก้าวหน้าอย่างมากในการปรับปรุงการศึกษา จำนวนเด็กผู้หญิงในโรงเรียนประถมศึกษาเพิ่มจากเกือบ 0 เป็น 2.5 ล้านคนในช่วง 17 ปีหลังตาลิบันหมดอำนาจ
