ร้าวลึก การเมือง – มี“รอยร้าว”เกิดขึ้นระหว่าง “รัฐบาล” กับ“พรรคพลังประชารัฐ”อย่างแน่ชัด

เป็นรอยร้าวในระหว่างที่พรรคร่วมฝ่ายค้านเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และอีก 5 รัฐมนตรี

สังคมได้เห็น“อาการ”อันสำแดงจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

และแล้ว“อาการ”นั้นก็ตามมาด้วยการลงนามรับสนองพระบรมราชการโองให้รัฐมนตรี 2 คน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ พ้นจากรัฐมนตรี

รัฐมนตรี 2 คนนี้มาจาก“พรรคพลังประชารัฐ”

จุดอ่อนเป็นอย่างมากภายใน“การปลด” 2 รัฐมนตรีจากตำแหน่งอยู่ตรงไหน

โดยสถานะของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้มาตรา 171 ของรัฐธรรมนูญปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ได้

เพียงแต่ 2 รัฐมนตรีนี้เป็นโควตาของพรรคพลังประชารัฐ

อำนาจของ“นายกรัฐมนตรี”จึงกระทบเข้ากับสถานะของพรรคพลังประชารัฐซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรคอย่างมิอาจปฏิเสธได้

เพราะดำรงอยู่ในฐานะเป็นเพียง“ผู้รับทราบ”เท่านั้น

กรณีนี้จึงสะท้อนและก่อให้เกิดความขัดแย้งอย่างเป็นรูปธรรมขึ้นภายในรัฐบาล

โดยพื้นฐานอย่างที่สุด ไม่ว่าจะมองจาก ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ไม่ว่าจะมองจาก นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ล้วนไม่พอใจ

ยิ่งมองจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยิ่งหงุดหงิด

เพราะไม่เพียงแต่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จะเป็นเลขาธิการพรรค หากแต่ นางนฤมล ภิญโญ สินวัฒน์ ยังเป็นเหรัญญิก มีความสำคัญภายในพรรค

เท่ากับ“โควตา”ของพรรคถูกคุกคามโดยไม่มีการหารือกัน

จากยุทธการปลด 2 รัฐมนตรีก่อให้เกิดข่าวการเข้ายึดพรรคพลังประชารัฐ

แน่นอนย่อมเป็นการรุกไล่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ จากตำแหน่งรัฐมนตรีไปยังตำแหน่งภายในกรรมการบริหารพรรค

คำถามก็คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะยินยอมหรือไม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน