คอลัมน์ บทบรรณาธิการ

ไม่มีอนาคต

กองบัญชาการตำรวจนครบาล แถลงชี้แจงเหตุการณ์ตำรวจขับรถพุ่งชนกลุ่มผู้ชุมนุมย่านดินแดง กทม. เป็นเหตุให้เยาวชนชายอายุ 14 ปี ได้รับบาดเจ็บ

โดยกล่าวอ้างถึงกลุ่มมวลชนฮือล้อมรถ ทุบกระจก มีเสียงระเบิดรอบรถ ตำรวจผู้ขับขี่จึง หวั่นเกรงจะได้รับอันตราย เนื่องจากไม่ได้พกพาอาวุธ จึงพยายามขับรถออกจากบริเวณนั้นโดยเร็วที่สุด เป็นเหตุให้เฉี่ยวชน

จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ถ่ายบันทึกเป็นภาพเคลื่อนไหวขณะพุ่งชน นำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์กันกว้างขวาง ยิ่งตอกย้ำถึงสถานการณ์ความรุนแรงที่ดินแดง ซึ่งไม่มีแนวโน้มคลี่คลายแต่ อย่างใด

อีกทั้งเหตุการณ์นี้ยังอาจกลายเป็นเงื่อนไขใหม่ ที่จะไปสู่ความรุนแรงไม่สิ้นสุดด้วย

หลังเกิดเหตุต้นสังกัดตำรวจผู้ขับขี่แจ้งความดำเนินคดีกลุ่มผู้ชุมนุม ร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และร่วมกันทำลายทรัพย์สินของทางราชการ

พร้อมสรุปผลการดำเนินคดีกลุ่มผู้ชุมนุม ตั้งแต่เดือนก.ค.จนถึงปัจจุบัน รวม 205 คดี ผู้ต้องหา 767 คน ติดตามจับกุมตัวได้แล้ว 522 คน จำนวนนี้มีเยาวชนไม่น้อย

ขณะเดียวกันในทางตรงข้าม คดียิงเด็กอายุ 14 และ 15 ปี ระหว่างการชุมนุมตอนกลางคืนใกล้กับสน.ดินแดง ขณะนี้ผ่านมา 1 เดือนแล้ว แต่กลับไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ทั้งเบาะแส หรือ ผู้ต้องสงสัย

รัฐต้องมีคำตอบให้มากกว่ากำลังสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิด

อย่างไรก็ตาม การชุมนุมและการปราบปรามที่มีต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2563 สาเหตุประจักษ์ชัดมาจากปัญหาทางการเมือง โครงสร้างประเทศ ความเหลื่อมล้ำ การใช้อำนาจไม่เป็นธรรม และหลงระเริง

ยิ่งมาประสบวิกฤตโควิดยาวนานเกือบ 2 ปี ทุกด้านของประเทศทรุดดิ่งไปหมด ส่งผลกระทบต่อกลุ่มเยาวชน หนุ่มสาวคนรุ่นใหม่ ที่พวกเขารู้สึกว่าไม่มีอนาคต

การออกมาเคลื่อนไหวก็เพียงเพื่อต้องการ ส่งเสียงเรียกร้องไปยังรัฐ เพราะได้รับผลกระทบจากโควิด เศรษฐกิจ ล้มเหลวในชีวิตและครอบครัว เยาวชนไม่น้อยต้องหลุดจากระบบการศึกษา แต่กลับถูกมองข้าม

ความรู้สึกไม่มีอนาคตของพวกเขา ถ้ารัฐบาลยังปราบปรามจับกุม โดยปล่อยให้ตำรวจจัดการไปวันๆ จึงมองไม่เห็นอนาคตว่าจะออกจากปัญหานี้ได้อย่างไร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน