‘เต๋า ภูศิลป์’คืนรัง‘เสียงอิสาน’ – แม้จะพักงานในช่วงโควิด แต่ก็เป็นช่วงเวลาดีๆ สำหรับลูกทุ่งรูปหล่อ ‘เต๋า ภูศิลป์’ ค่ายแกรมมี่ โกลด์ที่ได้มีโอกาสกลับไปขึ้นเวทีเสียงอิสานของ ‘แม่นกน้อย อุไรพร’ อีกครั้งในรูปแบบนิวนอร์มัล ซึ่งเวทีเสียงอิสานเป็นเวทีแจ้งเกิดของ ‘ด.ช.เกษม ศรีสมบูรณ์’ หรือ ‘เต๋า ภูศิลป์’ ตั้งแต่วัย 9 ขวบ

วันนี้หนุ่ม ‘เต๋า’ มาเล่าย้อนความทรงจำวันวานกับเวทีเสียงอิสาน

จุดเริ่มต้นการร่วมร้องเพลงกับแม่นกน้อยบนเวทีเสียงอิสาน?

เต๋า – “เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ตอนผมอายุได้ 9 ขวบ ด้วยความที่คุณย่ารู้จักกับเพื่อนของคุณแม่นกน้อยจึงได้มีโอกาสขึ้นเวทีเสียงอิสาน ซึ่งเป็นเวทีที่มีชื่อเสียงมาก และเสี้ยววินาทีคุณแม่จับมือผมขึ้นไป ร้องเพลง มันเหมือนกับจุดพลิกที่ทำให้ผมกล้าแสดงออกมากขึ้น และหลงรักเพลงหมอลำยิ่งขึ้น แม่นกน้อยจึงเปรียบเสมือนเป็นผู้ตัดสายสะดือในวงการหมอลำให้กับผมเลย”

ช่วงนั้นใครสอนร้องหมอลำ?

เต๋า – “คุณย่าครับ ท่านชอบฟังและร้องหมอลำ เลยได้คุณย่าช่วยสอนร้อง รำ แล้วก็ตัดชุดที่ขึ้นเวทีให้ ผมชอบร้องเพลงตั้งแต่เด็กเป็นนักร้องโปงลาง วงลูกทุ่งของโรงเรียน ได้มีโอกาสร้องเพลงอยู่ตลอดครับ คุณย่าก็จะคอยสอน เพราะคุณทวด คุณย่า เขาเคยเป็นหมอลำ”

ครั้งแรกที่ร่วมขึ้นเวทีกับ แม่นกน้อยตื่นเต้น และเตรียมตัวมากน้อยแค่ไหน?

เต๋า – “ตื่นเต้นมากครับ แต่ไม่ได้มีการเตรียมตัว เพราะก่อนขึ้นเวที แม่นกน้อย เราเคยขึ้นเวทีอื่นมาก่อน ผมเคยไปร้องเพลงตามงานบุญต่างๆ อยู่แล้ว เพียงแต่เวทีแม่เป็นเวที ที่ใหญ่ที่สุดในชีวิต”

“ตอนนั้นก็ไม่ได้รู้สึกกดดันอะไร แม่นกน้อยใจดีมากครับ แม่เป็นผู้ให้โอกาสสำหรับศิษย์ แล้วจริงๆ แม่จะไม่ให้เราขึ้นก็ได้ เพราะเป็นวันบันทึกการแสดงสด แต่แม่นกน้อยให้โอกาสครับ ซึ่งก่อนจะขึ้นเวทีก็มีการเทียบ คีย์เสียง เราเป็นเด็กไม่รู้ว่าจะต้องร้องเพลง คีย์ไหน แม่ก็ดูแลดีมาก จนเรารู้สึกว่าแม่ น่ารักจัง มองเห็นถึงความเป็นมืออาชีพมากๆ ประทับใจมาก หลัง จากนั้นก็ได้ร่วมงานกันตลอด ถ้าแม่มาร่วมงานที่จ.อุบลราชธานี ประมาณ 8-9 งานได้ครับ ก็ได้มีโอกาสขึ้นไปแสดงกับ คุณแม่ ซึ่งคุณแม่ดังมาก ในช่วงนั้น”

ด้วยความสามารถ ทำให้กลายเป็นหนุ่มฮอตในโรงเรียน?

เต๋า – “ผมเป็นนักร้องวงโปงลางของโรงเรียนเทศบาลวารินวิชาชาติ เป็นเด็กกิจกรรม ตอนนั้นไม่ได้อยู่ในยุค โซเชี่ยล พอดึกมากๆ เขาก็ไม่รู้ว่าเราไปขึ้นเวที แต่พอหลังจากเทปแสดงสดออกไป มันมี เราติดมา 1 เพลง ทางครูอาจารย์ก็มีการพูดถึงแล้วเราก็เป็นนักร้องของโรงเรียนอยู่ตลอด ก็จะได้รับอานิสงส์จากการได้ขึ้นเวที”

“ก็ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้กลับมาเห็นตัวเองจริงๆ เขาอัดคลิปไว้ แต่ไม่ได้เอามาเผยแพร่ แต่ช่วงนี้เป็นช่วงโซเชี่ยล เขาก็ทยอย ออกในแต่ละคลิปแสดงสด จนมาถึงคลิปเราที่เขาได้บันทึกไว้พอดี ถือเป็นความทรงจำที่น่าประทับใจครับ”

เราอยากให้กำลังใจแม่นกน้อยในช่วงวิกฤต โควิดอย่างไรบ้าง

เต๋า – “จริงๆ แล้วไม่ได้ มีการคุยเป็นการส่วนตัวกับแม่นกน้อย หลังจาก ผ่านมา 20 ปี แต่ผมก็โพสต์ผ่านโซเชี่ยลตลอด จริงๆ อยากจะให้กำลังใจกับอาชีพหมอลำทุกวงเลยครับ โดยเฉพาะวง เสียงอิสาน หลังจากมีวิกฤตมาเราก็ให้กำลังใจกันมาโดยตลอด และตอนนี้ก็กลับมาสยายปีกได้อย่างสง่างาม สมกับเป็นแม่นกน้อย อุไรพรลูกหลานก็คอยให้กำลังใจ และซัพพอร์ตอยู่ห่างๆ”

ล่าสุดได้ขึ้นเวทีเดียวกันในงาน 9:9 เสียงอิสาน Unlocked

เต๋า – “ใช่ครับ ก็ขอบพระคุณคุณแม่ นกน้อยที่ให้โอกาสลูกนกกลับรังอีกครั้ง ดีใจมากครับที่มีโอกาสได้ไปขึ้นเวทีเสียง อิสานอีกครั้งในรอบ 20 ปี ก็ได้กลับมายืน คู่กันครับ แต่เป็นคอนเสิร์ตแบบนิวนอร์มัล ที่ผ่านมาจะเป็นนักแสดงและนักร้องที่ค่าย พองานนี้โผล่มาก็ปลุกความเป็นหมอลำใน ตัวเรา ให้เราได้หวนคิดถึงว่าครั้งหนึ่งเรา ได้โอกาสขึ้นเวทีใหญ่ระดับประเทศ เวทีที่เป็นตำนานในวงการหมอลำต้องรู้จัก คือวงเสียงอิสานครับ”

ถามถึงผลงานเพลง ล่าสุด บ่ไปกรุงเทพฯ ได้บ่ ได้ร่วมงานกับ ‘แอน อรดี’ อีกครั้ง

เต๋า – “ครับ ซึ่งคุณแอน ก็เป็นนางเอกที่เคยร่วมงานกันในภาพยนตร์ ผู้บ่าวไทบ้าน 2 ประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา ตอนนี้เพลง 1 ล้านวิวแล้วครับ ก็จะมีการคัฟเวอร์ศิลปิน ศาล สานศิลป์ และอีกหลายท่าน ก็ฝากติดตามด้วยครับ”

เคมีเมื่อ 5 ปีที่แล้วกับรอบนี้ ต่างกันยังไง

เต๋า – “เราไม่เจอกันนานเหมือนกันครับ จนเอ็มวี บ่ไปกรุงเทพฯ ได้บ่ ดีใจที่กลับมาเจอแอน เคมีก็ยังได้ครับ คนดูก็โอเค ยังจิ้น ยังคิดถึงภาพเก่าๆ ที่เราเคยเล่นกัน”

ทางเต๋าหรือค่ายรีเควสต์นางเอก?

เต๋า – “ทางค่ายก็บอกว่านางเอกยังไงดี ถ้าแอนไม่ว่างเป็นคนอื่นได้ไหม ผมก็บอกต้องเป็นแอน ผมบอกเดี๋ยวผมจ่ายเงินค่าตัวก็ได้ครับ ผมจ่ายให้ได้ ทีมเขาก็บอกว่าโอเค เราก็ถือว่ามีบุญวาสนาต่อกัน ได้มีโอกาสมา ร่วมงานกัน เพราะว่าผมก็อยากร่วมงานกับคุณแอนมานานมาก แต่มันไม่มีโอกาสสักที จนมาถึงครั้งนี้ คิดว่ามันต้องพลาดไม่ได้ คือถ้า พลาดโอกาสก็ไม่รู้ว่าจะได้โคจรกลับมาเจอกันอีกหรือเปล่า”

ปล่อยเพลงช่วงโควิด คาดหวังยอดวิวมากน้อยแค่ไหน?

เต๋า – “จริงๆ เป็นคนไม่คาดหวังกับยอดวิวครับ อยากให้เพลง ได้ทำงานไปตามธรรมชาติของเพลง คนฟังก็จะได้เลือกฟัง เลือกเสพในสิ่งที่ถูกจริตของแต่ละคน ถามว่าคาดหวังไหม ไม่ได้คาดหวังร้อยล้านวิว แต่ขอให้เป็นอีกหนึ่งเพลงที่แทนใจแทนความรู้สึกของใครหลายคน ที่อยากกลับบ้าน หรือโดนเมืองใหญ่ทำร้าย จนไม่ได้กลับมากอดบ้าน อยากให้เพลงได้เข้าไปเทกแคร์ความรู้สึกของแฟนเพลง”

เห็นช่วงโควิดออกมาช่วยเหลือสังคมเหมือนเช่นเคย คราวก่อนก็ออกมาช่วยเรื่องน้ำท่วม

เต๋า – “จริงๆ ก็ช่วยตลอดนะครับ ได้บริจาคเงินส่วนตัวให้กับโรงพยาบาลที่บ้านเกิด และที่สภากาชาดไทย รวมถึงบริจาคชุด PPE ตามสถานที่ต่างๆ เราทำเพื่อที่จะอยากให้กำลังใจคนที่ทำงาน ให้กำลังใจประชาชนที่กำลังเดือดร้อน และได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ อยากจะให้แล้วก็สู้ไปด้วยกัน”

ตอนนี้ยังโสดอยู่

เต๋า – “ยังว่างร้อยเปอร์เซ็นต์ครับผม ยังรู้สึกว่า มีความสุขกับการทำงานครับ อยากจะทำมาหาเลี้ยงตัวเอง และพ่อแม่ก่อน แล้วอนาคตจะเป็นยังไงก็แล้วแต่บุญพาวาสนาจะส่งไป”

“ตอนนี้ก็มีความสุขกับการใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงเทพฯ อยู่กับแมว ก็ยังมีงานออนไลน์ รายการ พอให้เราได้ไม่เหงา เพราะว่าที่ผ่านมาทำงานทุกวัน 7 วัน ไม่ได้พักเลย ช่วงนี้ก็พักจนเรารู้สึกว่าทำไมเราไม่เคย รู้สึกว่างขนาดนี้ ก็หาความสุขกับสิ่งรอบตัวครับ ปลูกผัก ปลูกพริก ทำอาหาร ทำให้เราค้นพบว่าสิ่งที่เราคิดว่าจะทำไม่ได้ แต่เราทำได้ แล้วเราก็พยายามทำมันครับ”

สเป๊กเป็นยังไง?

เต๋า – “ขอแค่เข้าใจเรา เราเข้าใจเขา ไม่รู้สึกว่าอยู่ด้วยแล้วอึดอัด รู้สึกว่าไม่เป็นตัวของตัวเอง มันก็จะทำให้เราไปต่อกันไม่ได้ครับ หน้าตาก็พอไปวัดไปวาได้ สิ่งที่สำคัญคือนิสัยดี”

สุชาวดี อภิสัมภินวงค์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน