คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
โดย…วงค์ ตาวัน
พรรคป้อม-ธรรมนัสกับรัฐบาลบิ๊กตู่ – การประชุมใหญ่ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา เป็นสัญญาณอะไรบางอย่างที่น่าสนใจ โดยยืนยันไม่มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งต่างๆ ภายในพรรค หัวหน้ายังเป็นบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ขณะที่เลขาธิการพรรค ยังเป็นร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และเหรัญญิกพรรค ยังเป็น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์
2 อดีตรัฐมนตรีช่วย ที่โดนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ สั่งปลดจากครม. ยังคงเป็นกำลังหลักสำคัญในพรรคพลังประชารัฐดังเดิม
ยิ่งทำให้เห็นภาพความต่างระหว่างพรรคหลักของรัฐบาล กับรัฐบาลเอง
เหมือนต่างคนต่างเดิน ทางใครทางมัน อะไรทำนองนั้น!?!
การที่นายกฯ สั่งปลด 2 รัฐมนตรีออกไป ถือว่าเป็นการลงดาบที่รุนแรงมากๆ
แต่ 2 รัฐมนตรีที่กลายเป็นอดีตนั้น ก็ยังคงนั่งเก้าอี้หลักของพรรคที่เป็นฐานกำลังของรัฐบาลเองต่อไป
นี่คือความไม่ปกติธรรมดาอย่างแน่นอน
ส่วนหนึ่งยิ่งเป็นปรากฏการณ์รองรับข้อเท็จจริงที่ว่า การตัดสินใจปลดธรรมนัส-นฤมลออกจากรัฐบาลนั้น ไม่ได้ผ่านการรับรู้อะไรมาก่อนเลยของพล.อ.ประวิตร
พี่ใหญ่ของ 3 ป. ต้องนั่งกลืนเลือดยอมรับสภาพ
พร้อมกับยืนยันอยู่เคียงข้างกับ 2 รัฐมนตรีนั้น ด้วยการให้ทำหน้าที่อันโดดเด่นเป็นสง่าภายในพรรคต่อไป!
ขณะที่ตำแหน่งในรัฐบาล เป็นอำนาจการตัดสินใจของพล.อ.ประยุทธ์
แต่ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ เป็นอำนาจการตัดสินใจของพล.อ.ประวิตร ซึ่งยังยืนยันว่าเป็นพรรคที่มีประวิตรและธรรมนัส เป็นแกนหลักต่อไปเช่นกัน
แน่นอนว่า หลักการของบิ๊กป้อมคือ 3 ป.ต้องไม่ขัดแย้งแตกแยกกัน
จนทำให้กระแสส.ส.พลังประชารัฐกลุ่มของธรรมนัส ที่จะโหวตไม่ไว้วางใจนายกฯ ต้องโดนเบรก จนต้องจบ
ทั้งเชื่อว่า จะไม่มีการเคลื่อนไหวทำนองนี้อีกจาก ร.อ.ธรรมนัส!
แต่ความรักใคร่กลมเกลียวที่อาจจะยังมีอยู่ระหว่าง ป.ป้อมกับป.ประยุทธ์ จะไม่มีเช่นนั้นแน่ๆ ระหว่างธรรมนัสกับพล.อ.ประยุทธ์
แม้พรรคพลังประชารัฐยังคงเป็นฐานสนับสนุนนายกฯ และรัฐบาลนี้ต่อไป แต่ร.อ.ธรรมนัสจะทำหน้าที่ประสานมือโหวตให้รัฐบาลในเรื่องต่อๆ ไปอย่างเต็มที่เหมือนเดิมหรือไม่
แล้วถ้าหากนายกฯ หรือรัฐบาลเกิดเพลี่ยงพล้ำในทางการเมืองเรื่องใหญ่ๆ จะมีพลังประชารัฐคอย ประคับประคองเต็มกำลังหรือไม่!?
ดังที่ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งออกมาโต้ข่าวว่าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลยกับการเคลื่อนไหวของร.อ.ธรรมนัส
แต่ชี้เอาไว้ว่า เกมนี้คือการพลาดของนายกฯ เอง สร้างความบาดหมางกับพรรคที่เป็นฐานหลักของตัวเอง
ทำตัวเองจนเกิดสภาพตีนลอยในทางการเมือง!