คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

บาทก้าว รุกคืบ ของ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใน พลังประชารัฐ

แรงผลักดันทางการเมืองอะไรทำให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้อง “เดินสาย”

ไม่ว่าจะเป็นการเดินสายไปยังสมุทรปราการ ไม่ว่าจะเป็นการเดินสายไปยังชัยนาท ไม่ว่าจะเป็นการเดินสายไปยังชลบุรี ไม่ว่าจะเป็นการเดินสายไปยังเพชรบุรี

ทุกอย่างเป็นไปตามแผนสร้างความใกล้ชิดกับ “ส.ส.”

เป็นไปตามคำมั่นสัญญาที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยให้ไว้กับ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และประเดิมด้วยการนัดให้ไปพบที่ห้องชั้น 3 ตึกรัฐสภา เกียกกาย

นี่คือมาดใหม่ ที่ไม่เคยปฏิบัติมาก่อนของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ต้องยอมรับว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา วาง “ระยะห่าง” อย่างเป็นพิเศษกับ “นักการเมือง”

แม้ว่าพรรคพลังประชารัฐจะเป็นแขนขาหนึ่งของ “คสช.” โดยมอบหมายให้ “4 กุมาร” เข้าไปวางเสาเข็มเพื่อเป็นรากฐานในการสืบทอดการเมืองของ “คสช.”

แม้จะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น “นายกรัฐมนตรี”

กระนั้น ก็เป็นการเสนอชื่อโดยที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มิได้เป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐเพียงแต่เป็นบริการที่จัดการโดย “กลุ่ม 4 กุมาร”

และต่อมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็เข้าไป “เทกโอเวอร์”

สถานการณ์ในห้วงแห่งญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปนั้นเองก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เคย “ห่าง” จาก “นักการเมือง” ก็เริ่มมีการต่อสายและลดระยะห่าง ให้หดแคบลงผ่านการพบปะโดยตรง

ทำให้ “ช่องว่าง” ที่เคยมีกับ “นักการเมือง” คลายตัวลง

ขณะเดียวกัน หากมองผ่านการไปยังสมุทรปราการ ชัยนาท ชลบุรีและเพชรบุรีก็สัมผัสได้ว่าการเดินสายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีเป้าหมายเด่นชัด

ไปยังกลุ่มและมุ้งทางการเมืองที่แนบแน่นและใกล้ชิด

คําถามอยู่ที่ว่าการเคลื่อนไหวเช่นนี้ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะยาวนานแค่ไหน

เพียงเพื่อให้สามารถ “รุก” เข้าไปสร้างพื้นที่ภายในพรรคพลังประชารัฐ เพียงเพื่อขยายบทบาทให้กับ กลุ่มบางกลุ่มให้เข้มแข็งแกร่งกล้าขึ้นหรือไม่

ยิ่งกว่านั้น เจ้าของ “พรรค” ตัวจริงจะมองจังหวะก้าวนี้อย่างไร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน