ก้าวไกลเย้ยบารมี‘บิ๊กป้อม’เริ่มหด – เมื่อวันที่ 21 ก.ย. นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวว่า คิดว่าขณะนี้รัฐบาลอยู่ในสถานะที่ไม่มีเสถียรภาพ และเป็นช่วงเวลาที่เกิดรอยร้าว ทำให้ไม่สามารถคุมคนในรัฐบาลได้
ซึ่งสะท้อนออกมาในช่วงการประชุมสภา ที่เกิดสภาล่มบ่อยราวกับว่า กลไกการคุม ส.ส. และส.ว. ของรัฐบาลมีปัญหา วิกฤตเดิมยังแก้ไขไม่ได้ แต่รัฐบาลกำลังสร้างวิกฤตใหม่ผ่านกลไกของตัวเอง จึงควรจัดการวิกฤตตรงนี้ให้ได้ โดยมีทางเลือก คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม สามารถลาออกหรือยุบสภา เปิดทางให้มีการ เลือกตั้ง และจัดตั้งรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพมากกว่านี้
สำหรับปัญหาความขัดแย้งระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตนยังไม่ฟันธงว่ามีอยู่หรือไม่ หรือมีมากแค่ไหน แต่ตั้งข้อสังเกตว่าการจัดการปัญหาระหว่าง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กับพล.อ.ประยุทธ์ ได้แสดงให้เห็นว่าบารมีของพล.อ.ประวิตร ในการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ มีน้อยลงมากเปรียบเสมือนดวงดาวที่ค่อยๆ หมดแสง รอวันแตกสลายกลายเป็นเถ้าธุลี ไม่สามารถที่จะคุมกลไกหลายๆ อย่างได้เหมือนที่เคยทำมา เมื่อน้องรักอย่างพล.อ.ประยุทธ์ไม่ฟังก็ยิ่งแล้วใหญ่ ทั้งอำนาจหลายอย่าง ก็ถูกพล.อ.ประยุทธ์ยึดไป
“คิดว่าสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์กำลังคิดอยู่ลึกๆ คือ การค่อยๆ ทำให้พล.อ.ประวิตรหมดบทบาทลงหรือไม่ โดยเฉพาะกลไกในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของพล.อ. ประวิตรไม่มีความสำคัญอีกต่อไป เพราะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐก็ถูกปลดพ้นรัฐมนตรี ยิ่งแสดงให้เห็นว่า พรรคพลังประชารัฐอาจจะเป็นเพียงพรรคชั่วคราว และมุ้งของพล.อ.ประวิตรอาจจะไม่มีบทบาทต่อไปอีกในอนาคต สุดท้ายคงแตกกัน แต่หวังว่าประชาชนจะไม่ได้รับลูกหลงมากจนเกินไป” นายรังสิมันต์กล่าว
