‘บอมบ์’ถอดแบบพ่อ-บทหมอ – เป็นคุณหมอสุดหล่อขวัญใจคนไข้สาวๆ สำหรับ ‘หมอต๊ะ’ ในละคร “พฤษภา-ธันวา รักแท้แค่เกิดก่อน” ที่ออกอากาศอยู่ทางช่อง 3 ของผู้จัด ‘โดนัท มนัสนันท์’ ซึ่งพระเอกหนุ่ม ‘บอมบ์’ ธนิน มนูญศิลป์ มีคุณพ่อเป็นคุณหมอ เลยได้ต้นแบบในการถ่ายทอดบทหมอ

ช่วงนี้มีคิวว่างเลยชวนคุณหมอสุดหล่อมาคุยกัน

เล่นเป็นคุณหมออีกแล้ว?

บอมบ์ – “ครั้งก่อนโน้นเล่นรับเชิญ และนานมากแล้วครับ ตอนนั้นยังไม่ค่อยเข้าใจทักษะการแสดงเท่าไหร่ มาครั้งนี้แตกต่างเยอะเลย เพราะว่าเราได้เรียนรู้เกี่ยวกับคุณหมอลึกมาก คือไม่อยากให้เรียกว่าเล่นเป็นหมออีกแล้ว อยากให้บอกว่าครั้งแรกดีกว่าครับ (หัวเราะ)”

ยากไหม?

บอมบ์ – “ผมว่าทุกเรื่อง แต่ที่ยากที่สุดคือการเริ่มต้นตัวละคร การที่เราจะกระโดดเข้าไปรู้จักกับตัวละครนี้ยาก เพราะว่ากว่าที่เราจะเข้าใจว่าตัวละครนี้ นิสัย มีความคิดอย่างไร มันใช้เวลา พี่โดให้ความเข้าใจตัวละครเยอะ ตัวละครที่พี่โดเขียนมันแตกต่างจากเรื่องอื่นค่อนข้างเยอะ”

ก็ต้องไปเรียน?

บอมบ์ – “เรียนเพิ่มทั้งศาสตร์ของการแสดง และศาสตร์ของการเป็นหมอ คือโดยพื้นฐานผมพอจะรู้มาบ้าง เพราะคุณพ่อผมเป็นหมอ แล้วบังเอิญว่าคุณพ่อผมเป็นหมอตรงกับบทที่ผมได้รับพอดีเป๊ะ บางซีนก็มีโทร.ไปปรึกษาคุณพ่อ แต่เราก็มีไปเรียนรู้เบื้องต้น ตอนเข้าฉากพี่โดจะมีคุณหมอมาร่วมเข้าฉากด้วย 1 คน แต่บางฉากที่เขาไม่ได้เข้า ก็จะปรึกษาเขาเรื่องวิธีการทำที่ถูกต้องทำยังไง”

ร่วมงานกับแยม (มทิรา ตันติประสุต) เป็นไงบ้าง?

บอมบ์ – “เราเจอกันผ่านๆ ตามงาน แต่ยังไม่เคยเล่นละครด้วยกัน แต่เวลาเขาเล่น เขาเล่นออกมาได้ดีมาก เขาเล่นเป็นคนแก่มาก ทั้งน้ำเสียง และคาแร็กเตอร์ ไม่รู้ว่าแก่เพราะคาแร็กเตอร์ หรือว่าแก่จริง (หัวเราะ) สำเนียงแยมเวลาพูดในละคร พอผมฟังแล้วรู้สึกว่านี่เป็นวัยรุ่นจริงหรือเปล่า ทำไมดูแก่จัง ซึ่งมันตรงกับคาแร็กเตอร์ในเรื่อง”

ทำงานกับโดนัทเป็นยังไงบ้าง?

บอมบ์ – “พี่โดให้ความสำคัญกับการเวิร์กช็อปเยอะมาก ให้ทุกคนได้เข้าใจบทบาทของตัวเอง ไม่ใช่ว่ามาทำความเข้าใจกันหน้าเซ็ต พี่โดเขาจะบอกสิ่งที่เขาต้องการตั้งแต่ตอนเวิร์กช็อป พอมาถ่ายมันก็เลยไม่ยาก แต่ถามว่าทำงานกับใครยากที่สุดอาจจะเป็นน้องริว (วชิรวิชญ์ อรัญธนวงศ์) ความยากมันเป็นเพราะว่าผมกับเขาในเรื่องต้องเป็นพี่น้องกันจริงๆ เรามีปมที่ลึกซึ้ง เวลาที่จะเข้าฉากด้วยกันมันจะไม่เหมือนกับเวลาที่เราเข้าฉากกับคนอื่น”

“ความยากของผมคือเรามีแบ๊กกราวด์ เข้าไปเล่นแล้วแค่มองตา มันจะต้องสื่อให้คนดูรู้ว่าเราสองคนต้องมีอะไร พี่โดเล่าให้ฟังว่า ตัวละครของผมกับริว มันจะมีพัฒนา ดังนั้นเวลาเล่น เราจะไม่ทิ้งกัน ต้องพัฒนาไปพร้อมกัน คนดูจะรู้สึกเลยว่ามันไปด้วยกัน”

ทำงานกับน้องใหม่ๆ เป็นยังไงบ้าง?

บอมบ์ – “ผมไม่เคยมีปัญหากับการทำงานกับน้องใหม่ๆ กับน้องริวเราคลิกกันเกือบทุกเรื่อง เบื้องหลังเราก็มีโทร.คุยกัน เล่นเกมด้วยกัน อยากจะบอกว่านักแสดงในเรื่องนี้ไม่มีใครตั้งกำแพง ผมรู้สึกว่าเราเต็มที่กับการแสดง ทุกอย่างออกมา ร้อยเปอร์เซ็นต์ทุกคน มันรู้สึกเหมือนเราให้พลังซึ่งกันและกัน”

กับน้องมิ้นท์ (รัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตร) ต้องเล่นคู่กัน เป็นอย่างไรบ้าง ถือว่าเป็นเด็กใหม่?

บอมบ์ – “ดีครับ ผมชอบเขาเวลาที่เล่นดราม่า ในเรื่องน้องจะเป็นนักศึกษาแพทย์ที่มีปมในใจเรื่องครอบครัว เวลาเขาเล่นดราม่าส่งมาให้เรามันรู้สึกสัมผัสได้ครับ จริงๆ แล้วความยากของผมอยู่ตรงที่เขาให้ผมเล่นเป็นคนดุ ซึ่งมันไม่ใช่ผม ละครหลายเรื่องชอบให้ผมเล่นบทเข้มๆ ดุๆ ซึ่งมันต่างจากตัวจริงมาก นี่คือโจทย์ที่ยากที่สุดสำหรับผม แต่ผมก็ดีใจนะที่คนดูเชื่อว่าผมเป็นคนดุ แสดงว่าผมแสดงใช้ได้นะ (หัวเราะ)”

เหมือนของเราจะมีความคอมเมดี้อยู่ด้วย?

บอมบ์ – “ละครเรื่องนี้มันจะมีครบรส คอมเมดี้ ดราม่า แอ๊กชั่น จะมีทุกคน แล้วพี่โดเขาก็บอกว่าตัวละครที่ผมเล่นในเรื่องนี้ มันเป็นบทที่สดใหม่ไม่เหมือนกับทุกเรื่องที่ผมเคยเล่นมา ซึ่งผมก็ดีใจ พี่โดเขาทำการบ้านมาว่าผมเคยเล่นอะไรมาบ้าง เขาก็พยายามบิดไปในทางที่ผมไม่เคยเล่นมาก่อน แล้วการโค้ชชิ่งก็ทำกันมาก่อนที่จะถ่าย”

เล่นละครเรื่องไหนคนก็จับตามอง เรื่องนี้ก็เช่นกัน กดดันไหม?

บอมบ์ – “จริงๆ ต่อให้ไม่มีใครกดดันผม ผมเล่นละครทุกเรื่องก็กดดันตัวเองอยู่แล้ว ผมเป็นคนที่เวลาเข้าฉากกับผู้กำกับฯ หลายๆ คน บางคนเขาจะบอกว่าต้องการอย่างนั้นอย่างนี้ ของพี่โดเขาจะบอกว่าไม่ต้องคิดมาก เข้าเซ็ต คือผมเป็นคนคิดเยอะอยู่แล้ว ผมรู้เรื่องความยากของงาน จากความคาดหวังของคนดูผมก็ทราบ คือไม่ต้องกดดันผม ผมก็จะกดดันตัวเองอยู่แล้ว แต่ผมก็เอาพลังด้านลบมาสร้างพลังให้กับตัวเอง ใครจะพูดอะไร ผมว่าภาวะการกดดันมันไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ภาวะการบูลลี่ ผมมองว่าอันนี้มันเป็นภาวะที่เป็นแง่ลบมากกว่า แต่ผมก็จะเอามันมาเป็นแรงผลักดันตัวเองให้ดีขึ้น”

เท่าที่ดูผลงานของเราเป็นอย่างไรบ้าง?

บอมบ์ – “ผมแทบไม่ดูตัวเองเลย ตั้งแต่สมัยเล่นกับพี่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ แกเคยบอกว่า เอ็งไม่ต้องดูมอนิเตอร์แล้ว ดูทีไร เล่นอีกรอบดูแปลกๆ ทุกที ไม่ใช่พี่อ๊อฟคนเดียวนะ พี่โดก็พูดแบบนี้เหมือนกัน ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร แต่ผมเชื่อในสิ่งที่ผู้กำกับฯ บอก”

“พี่โดจะคอยบอกว่าอันนี้พี่ว่ามันน้อยไป อันนี้พี่ว่ามันมากไป ผมก็รับในสิ่งที่พี่โดบอก ผมรู้สึกคอนเน็กต์กับตรงนี้มากกว่าการดูตัวเองในมอนิเตอร์ ผมให้ผู้กำกับฯ เป็นคนตัดสินดีกว่าว่าเขาชอบไม่ชอบ ผมมีหน้าที่ทำให้เต็มที่กับสิ่งที่ผู้กำกับฯ ต้องการครับ ถามว่าผมคาดหวังไหม ผมเรียกว่าความหวังดีกว่า ผมไม่เคยคิดว่าเล่นเรื่องนี้แล้วจะต้องดัง ผมไม่เคยคิด ให้ผมตายวันนี้เลย งานออกมาแล้ว นั่นคือเราทำเต็มที่ที่สุดในหน้าที่ของผมแล้ว”

ตอนนี้มีที่ยังถ่ายค้างอยู่บ้างไหม?

บอมบ์ – “มีเรื่อง มามี้ที่รัก ด้วยสถานการณ์โควิดทำให้หยุดถ่ายไปก่อน ก่อนหน้านี้ผมก็อยากที่จะพักผ่อนสมอง เพราะว่าก่อนหน้านี้ก็ถ่ายละครติดๆ กัน ยังไม่ได้ละลายความเครียดทิ้งไปเลย มันก็เป็นช่วงเวลาที่อยากอยู่กับตัวเอง ทำอย่างอื่นบ้าง แต่ตอนนี้มันเป็นการว่างที่ผมไม่ค่อยรู้สึกดีเท่าไหร่ ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจ และอะไรต่างๆ มันไม่ได้รู้สึกดีที่เราได้หยุด มันไม่ใช่หยุดที่เราแฮปปี้ มันแฮปปี้ ไม่สุด”

เรื่องความรักเป็นยังไงบ้าง?

บอมบ์ – “ผมโสดมาจะปีแล้วครับ แต่ว่าตอนนี้ก็มีคนคุย แต่ด้วยความที่ผมเป็นคนติสต์รับประทาน บางโมเมนต์อยากที่จะทำอะไรที่ติสต์แตก ผมก็คิดว่าความติสต์แตกของผม ไม่น่าจะมีผู้หญิงคนไหนรับได้ ตีหนึ่งผมตื่นมารู้สึกว่าอยากไปวิ่ง ผมก็ไปวิ่ง อีกอย่างเวลาที่ผมมีปัญหาเรื่องความรัก เวลาทำงานมันก็เป็นเรื่องที่กวนใจ บางทีเราแยกแยะไม่ได้ มันเป็นปัญหาที่ตัวผมเองครับ มันเป็นความผิดของผมเองที่แยกแยะไม่ได้”

อนงค์ จันทร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน