คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

สัญญาณ การเมือง ของ ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไปยัง กลุ่มสามมิตร

การมาของ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา สัมพันธ์กับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน

เนื่องจากตำแหน่งประธานกรรมการยุทธศาสตร์ ไม่เพียงเป็นตำแหน่งเดิมของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก่อนเข้าดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรค

หากแต่ยังเคยออกปากจะยกให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน

ภายหลังการเปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรคจาก นายอนุชา นาคาศัย มาเป็น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า มีสัญญาใจที่จะต้องตอบแทนต่อ “กลุ่มสามมิตร”

นั่นคือจะให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ขึ้นเป็นประธาน “ยุทธศาสตร์”

สัญญาใจต่อ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แม้ยังไม่ได้แต่งตั้งแต่ก็เป็นที่รับรู้กันโดยปริยาย

ในห้วงแห่งการเปลี่ยนผ่านตำแหน่งเลขาธิการพรรคเป็น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นั้นเคยมีข่าวลอยลมออกมาน่าจะต้องมีการปลอบใจ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน

อย่างน้อยก็เป็นการให้ค่า ความหมายต่อ “กลุ่ม สามมิตร”

เมื่อตำแหน่งนี้ตกเป็นของ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา บำเหน็จสำหรับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน คือประธานที่ปรึกษา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค

นี่ย่อมเป็นตำแหน่งที่ควรคู่กับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน

การมอบตำแหน่งประธานที่ปรึกษาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เท่ากับเป็นการมั่นใจกัน

เนื่องจากในห้วงแห่งความขัดแย้งและแตกแยกก็มีความพยายามที่จะดึง “กลุ่มสามมิตร” ผ่านทางด้าน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อย่างผิดปกติ

ท่ามกลางการเคลื่อนไหวจากคนที่แวดล้อม พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา

มีความจำเป็นที่ทางด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จักต้องทอดไมตรีไปให้กับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ถึง “กลุ่มสามมิตร” โดยพลัน

นี่ย่อมเป็น “สัญญาณ” อันทรงความหมายในทางการเมือง

การสัประยุทธ์เพื่อแย่งชิง “กำลัง” แต่ละกลุ่มในพรรคพลังประชารัฐมิได้เป็นเรื่องลวงๆ

ตรงกันข้าม นี่คือความเป็นจริงที่ชี้ต้นตาย ชี้ปลายเป็นให้กับแต่ละจังหวะก้าวในทางการเมืองโดยเฉพาะการขยับในเรื่อง “ปรับครม.” ที่จะลั่นกลองรบใน อีกไม่นาน

การต่อสาย เชื่อมสัมพันธ์กับ “กลุ่ม สามมิตร” จึงสำคัญ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน