คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ย้อนคดีสยองเมืองอุดร ผัวจ่อยิงเมีย-ฆ่าตัวตาม ทะเลาะขอแยกทำธุรกิจ

“เมื่อประมาณเดือนที่แล้วพ่อกับแม่ก็กลับมาพูดคุยและคืนดีกัน จนมาในเย็นวันนี้พ่อก็มากินข้าวกับแม่ตามปกติ โดยไม่มีท่าทีว่าจะเกิดเหตุร้ายดังกล่าวขึ้น” นายมนพัฒน์ มากสวัสดิ์ อายุ 24 ปี ให้การกับตำรวจหลังเกิดเหตุสยองกลางเมืองอุดรธานี

ย้อนไปเมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 24 ก.ย. 2564 พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.ท.สิงหราช แก้วเกิดมี รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.พัฒนวงศ์ จันทร์พล รอง ผกก.ป. ร.ต.อ.ทิฐินันท์ ศรีเชียงหวาง รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี นำเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ฝ่ายสืบสวน พิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรของร.พ.ศูนย์อุดรธานีและอาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรม เข้าตรวจสอบเหตุมีผัวยิงเมียตายแล้วยิงตัวตายตาม ที่บ้านเลขที่ 177/40 หมู่บ้านจัดสรร ต.นาดี อ.เมืองอุดรธานี

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว พบรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน กว 3055 อุดรธานี จอดขวางประตูหน้าบ้าน ที่พื้นปูนด้านท้ายรถพบศพนายมนตรี มากสวัสดิ์ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 939/147 ซอยเพิ่มสิน 16 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ขมับซ้ายทะลุขมับขวานอนตะแคงเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ บริเวณปลายเท้าพบอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 ตกอยู่ นอกจากนี้ ยังพบซองปืน แว่นตา และโทรศัพท์วางอยู่ที่ หว่างขา ห่างไปประมาณ 10 เมตร

ภายในโรงรถพบศพน.ส.ภัทรภร ตันประเสริฐ อายุ 46 ปี ถูกยิงเข้าที่ขมับขวากระสุนฝังในเสียชีวิตจมกองเลือด สภาพศพ สวมชุดนอนกระโปรงลาย มีนางทัศนีย์ บุญยิ่ง อายุ 72 ปี แม่ของน.ส.ภัทรภรนั่งร้องไห้เฝ้าศพลูกอยู่

สอบสวนนางทัศนีย์ให้การทั้งน้ำตาว่า ผู้ตายทั้งสองเป็นลูกสาวกับลูกเขย ทั้งคู่นั้นทำธุรกิจเครื่องกรองน้ำมาด้วยกัน ก่อนหน้านี้มีปากเสียงทะเลาะกันบ่อยจนต้องแยกกันอยู่ แต่ที่ผ่านมาลูกเขยมักจะตามมาขู่ฆ่าลูกสาวตลอด เพื่อนบ้านก็เห็นประจำ จนกระทั่งมาเมื่อช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาทั้งสองกลับมาคืนดีพูดคุยกันมากขึ้น โดยลูกเขย มักจะมากินข้าวเย็นที่บ้านประจำแต่ไม่ได้นอนค้างด้วย ก่อนเกิดเหตุลูกเขยก็ขับรถมากินข้าวเย็นที่บ้าน

จากนั้นก็นั่งคุยกันตามปกติ ส่วนตนหลังกินข้าวเสร็จแล้วก็จะเข้าห้องนอน ต่อมาก็ได้ยินเสียงลูกสาวบอกสามีว่าจะ 3 ทุ่มแล้วนะ จากนั้นก็ได้ยินเสียงปิดประตูรถยนต์และก็มีเสียงปืนดังขึ้น ตนก็รีบออกมาดูก็พบว่าลูกสาวถูกยิงจนฟุบอยู่ที่โรงรถแล้ว คนก่อเหตุก็คือลูกเขยที่ไปยิงตัวตายตามอยู่ที่ประตูรั้วดังกล่าว

ขณะที่นายมนพัฒน์ มากสวัสดิ์ อายุ 24 ปี ลูกชายของนายมนตรีให้การว่า พ่อกับแม่เลี้ยงนั้นทำธุรกิจเครื่องกรองน้ำอยู่ที่จ.ขอนแก่นมาหลายปีแล้ว ต่อมาก็ได้ย้ายมาเปิดร้านขายเครื่องกรองน้ำด้วยกันที่จ.อุดรธานี มาระยะหลังแม่เลี้ยงต้องการแยกตัวออกไปทำธุรกิจเอง โดยซื้อเครื่องกรองน้ำมาขายเองไม่ต้องมีหน้าร้าน ทำให้พ่อไม่เข้าใจและไม่พอใจเพราะทำธุรกิจด้วยกันมานานกว่า 20 ปี จนทำให้มีปากเสียงทะเลาะกันบ่อยถึงกับต้องแยกกันอยู่ โดยพ่อนั้นแยกไปนอนที่ร้าน ส่วนแม่เลี้ยงก็อยู่กับยายที่บ้านหลังนี้ แต่ไม่ถึงกับเลิกหรือแยกทางกัน เพียงแต่แยกกันอยู่เท่านั้น ส่วนตนก็ไปนอนที่คอนโดฯ

เมื่อประมาณเดือนที่แล้วพ่อกับแม่เลี้ยงก็กลับมาพูดคุยและคืนดีกัน จนมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วพ่อแม่ก็เพิ่งพาตนและยายไปกินข้าวด้วยกัน จนมาในเย็นวันนี้พ่อก็มากินข้าวกับแม่ตามปกติ โดยไม่มีท่าทีว่าจะเกิดเหตุร้ายดังกล่าวขึ้นแต่อย่างใด

ด้าน พล.ต.ต.พิษณุเปิดเผยว่า จากการสอบสวนญาติยังไม่พบประเด็นเรื่องชู้สาว จะมีแค่เรื่องระหองระแหงจากธุรกิจเครื่องกรองน้ำ เพราะฝ่ายหญิงต้องการแยกตัวมาทำธุรกิจเองโดยซื้อเครื่องกรองน้ำมาขายเอง แต่ฝ่ายชายไม่เห็นด้วยจนทำให้ทั้งสองทะเลาะกันหนักถึงกับต้องแยกกันอยู่

ซึ่งญาติทั้งสองฝ่ายก็รับรู้ข้อมูลเพราะเหตุขัดแย้งเกิดมาต่อเนื่องนานกว่า 2 ปีแล้ว กระทั่งก่อนเกิดเหตุก็ทราบว่าทั้งสองฝ่ายทะเลาะกันอย่างรุนแรง เรื่องก็น่าจะมาจากปัญหาเก่า ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้นเป็นมรดกของฝ่ายชายซึ่งพ่อเป็นข้าราชการ ตำรวจจะสอบปากคำญาติเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

อีกหนึ่งคู่ที่ปิดฉากชีวิตคู่ด้วยความตาย

วัฒนชัย จำนงค์ทอง – เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน