พาณิชย์ชี้ตลาดเฟอร์นิเจอร์แรงจัด
รับเวิร์กฟรอมโฮม-โตพุ่งทั้งในและต่างประเทศ

พาณิชย์เผยผลวิเคราะห์ธุรกิจดาวเด่นขายปลีก-ขายส่งเฟอร์นิเจอร์ โตต่อเนื่องทั้งตลาดในและ ต่างประเทศ ตามกระแส ‘เวิร์กฟรอมโฮม’ บริษัท ยื่นจดทะเบียนต่อเนื่อง ปัจจุบันมีมากกว่า 3 พันบริษัท ตลาดส่งออก 4 ปีที่ผ่านมาเติบโตแตะระดับ 4.4 หมื่นล้าน

นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่าจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตและการทำงานเข้าสู่วิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ในแง่มุมของเศรษฐกิจมีข้อมูลที่น่าสนใจ จากวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจประจำเดือนส.ค.2564 ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่า ธุรกิจขายปลีก-ขายส่งเฟอร์นิเจอร์กลับเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงของการใช้มาตรการทำงานจากที่บ้าน (Work from home)

ปัจจุบันมีธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่จำนวน 4,163 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนสูงถึง 24,434.72 ล้านบาท และช่วง 8 เดือนแรกของปี 2564 มีการจัดตั้งธุรกิจจำนวน 210 ราย เพิ่มมากขึ้นกว่าปี 2563 ของช่วงเวลาเดียวกัน

ในเดือนส.ค. 2564 มีจำนวนการจัดตั้งธุรกิจทั้งสิ้น 29 ราย เพิ่มขึ้น 4 รายจากเดือนก.ค. คิดเป็น 16%

ปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์เป็นที่ น่าจับตามองคือ ภาคการส่งออกที่ปริมาณการสั่งซื้อเฟอร์นิเจอร์จากประเทศไทยมีความต้องการจากผู้บริโภคชาวต่างชาติ และสร้างมูลค่าการส่งออกเติบโตอย่าง ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2561-2564

โดยในปี 2561 มูลค่าการส่งออก 37,886.08 ล้านบาท ปี 2562 มีมูลค่าการส่งออก 39,430.39 ล้านบาท ปี 2563 มีมูลค่าการส่งออก 44,504.06 ล้านบาท และปี 2564 (ม.ค.-ก.ค.) มีมูลค่าการส่งออก 29,448.51 ล้านบาท

มีอีกหนึ่งปัจจัยที่กระตุ้นการเติบโตของธุรกิจนี้คือ การพัฒนาของธุรกิจ e-Commerce โดยสินค้าประเภทเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านเป็นหมวดหมู่ที่มาแรงและ มีมูลค่าเป็นอันดับที่ 4 รองจากธุรกิจห้างสรรพสินค้า เครื่องสำอางและอาหารเสริม และแฟชั่นเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ

จึงเป็นโอกาสสำคัญของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ไทยที่มีศักยภาพในการส่งออก เพราะไม่ใช่แค่ประเทศไทย ที่ต้องใช้มาตรการ WFH แต่ยังเป็นมาตรการที่ธุรกิจทั่วโลก นำไปใช้เพื่อให้พนักงานขององค์กรทำงานอยู่ที่บ้าน และอาจจะกลายเป็นแนวโน้มการทำงานรูปแบบใหม่ อย่างถาวรก็เป็นได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน