สีจิ้นผิงย้ำใช้สันติวิธี ‘รวมชาติ’ ไต้หวัน – วันที่ 9 ต.ค. ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน กล่าวสุนทรพจน์เนื่องในโอกาสครบรอบ 110 ปี การปฏิวัติจีนหรือที่รู้จักในชื่อการปฏิวัติซินไฮ่และการปฏิวัติค.ศ.1911 โค่นล้มราชวงศ์ชิงและนำไปสู่การเปลี่ยนการปกครองของประเทศเป็นสาธารณรัฐจีน โดยนายสีให้คำมั่นว่าจะเดินหน้ารวมชาติกับไต้หวันด้วยสันติวิธี

“คนที่ลืมมรดกจากบรรพบุรุษ ทรยศต่อมาตุภูมิ และพยายามแบ่งแยกประเทศจะไม่เกิดผลดี” ประธานาธิบดีสีกล่าวหนักแน่น พร้อมระบุว่าต้องการเห็นการรวมชาติอย่างสันติภายใต้นโยบายหนึ่งประเทศ สองระบบ คล้ายกับที่ใช้ในฮ่องกง ทั้งยังย้ำว่าปัญหาของไต้หวันเป็นหนึ่งในกิจการภายในของประเทศจีน และไม่อนุญาตให้มีการแทรกแซงจากภายนอก

“ประชาชนไม่ควรประมาทความมุ่งมั่นของจีนในการปกป้องอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ภารกิจในการรวมชาติจีนให้สมบูรณ์จะต้องบรรลุผลและสำเร็จอย่างแน่นอน” สุนทรพจน์ของนายสีเกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างจีน-ไต้หวัน ที่รุนแรงที่สุดในรอบ 40 ปี หลังจากทางการจีนส่งฝูงบินรบเกือบ 150 ลำ เข้าสู่เขตป้องกันทางอากาศของไต้หวันในช่วงเวลา 4 วัน ซึ่งถือเป็นจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์

วันเดียวกัน มหาวิทยาลัยฮ่องกงแถลงให้กลุ่มพันธมิตรฮ่องกงสนับสนุนขบวนการผู้รักชาติประชาธิปไตยของจีน แกนนำจัดงานจุดเทียนรำลึกเหยื่อจากการปราบปราม ผู้ประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในกรุงปักกิ่ง เมื่อปี 2532 เคลื่อนย้ายเสาแห่งความอัปยศ (The Pillar of Shame) ประติมากรรมรำลึกเหตุฆ่าหมู่ ผลงานของเยนส์ กัลชุท ศิลปินชาวเดนมาร์ก

ซึ่งจัดแสดงที่อาคารฮากิง หว่อง ของมหาวิทยาลัยฮ่องกง มานานกว่า 24 ปี โดยให้เหตุผลว่าการตัดสินเป็นไปตามการประเมินความเสี่ยงและขอให้กลุ่มพันธมิตรฮ่องกงรื้อถอนภายในวันที่ 13 ต.ค. ด้านนาย กัลชุทให้สัมภาษณ์ว่าการย้ายประติมากรรมหนัก 2 ตัน เป็นเรื่องยาก “นี่ไม่ยุติธรรมเลยที่จะย้ายประติมากรรมภายในสัปดาห์ทั้งที่ตั้งอยู่ตรงนั้นมานาน 24 ปี”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน