จวก‘บิ๊กตู่’ปั่นเฟกนิวส์ไทยพ้นโควิด – เมื่อวันที่ 11 ต.ค. นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ (พช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ระบุว่าประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตโควิดแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ดูที่ความเป็นจริง ทุกวันนี้ยังมีคนติดเชื้อวันละ 10,000 คน

ซึ่งประเทศไทยมีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมนับตั้งแต่เริ่มมีการระบาดเมื่อต้นปี 2563 จำนวน 1,710,884 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 17,691 คน ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมอยู่ในอันดับที่ 26 ของโลก การออกมาพูดว่าไทยผ่านพ้นวิกฤตโควิดแล้ว จึงเข้าข่ายปั่นเฟกนิวส์

ด้านนายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศบค.) รายงานผลยอดผู้ติดเชื้อรายวันลดลงต่อเนื่องและทรงตัวอยู่ในระดับประมาณ 10,000 คน/วัน ดูเหมือนว่าสถานการณ์การระบาดดีขึ้น

แต่ในความเป็นจริงแล้วยอดผู้ติดเชื้อจากการตรวจด้วยชุดตรวจ ATK มีจำนวนสูงขึ้นเรื่อยๆ ที่ 10,055 คน ในวันที่ 10 ต.ค. ถือว่ารัฐบาลกำลังเล่นแร่แปรธาตุ ปั้นตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันจากการตรวจแบบ RT-PCR ให้ต่ำลง เสมือนสามารถควบคุมสถานการณ์การระบาดได้ เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการเปิดประเทศที่ประกาศออกมาอย่างไม่มีแผนรองรับที่เป็นระบบหรือไม่

“14 ต.ค.นี้เป็นวันที่ทุกคนรอคอย เพราะจะครบ 120 วันจากวันที่พล.อ.ประยุทธ์ประกาศเตรียมเปิดประเทศ ท่านควรเตรียมคำตอบกับประชาชนให้ดี ว่าเมื่อท่านทำไม่ได้อย่างที่ประกาศไว้ ท่านจะรับผิดชอบเยี่ยงชายชาติทหารอย่างไร” นายชนินทร์ กล่าว

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล(ก.ก.) กล่าวว่า การเปิดประเทศไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ คิดจะเปิดก็เปิด คิดจะปิดก็ปิด พอไม่กล้าปิด ก็ฝืนเปิด แล้วก็มาปิดแบบกะทันหัน จนสร้างความ สูญเสียให้กับประชาชน จึงเสนอแนวทางในการเตรียมความพร้อมในการเปิดประเทศ 6 ข้อ ดังนี้ 1.ปัจจุบันมีอัตราการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม (ข้อมูล ณ 10 ต.ค. 64) อยู่ที่ 32.5% หรือ 23.4 ล้านรายเท่านั้น รัฐบาลควรกำหนดให้ชัดเจนว่า ต้องมีความครอบคลุมในการฉีดวัคซีนเท่าใดจึงจะเข้าเกณฑ์ในการเปิดการท่องเที่ยว

2.รัฐบาลต้องเร่งฉีดวัคซีนให้กับพ่อค้าแม่ขาย และประชาชนที่อาศัยในย่านเศรษฐกิจควบคู่กันไป 3.มีมาตรการในการฉีดวัคซีน และดูแลรักษาผู้ป่วยที่เป็นแรงงานต่างชาติ ทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมายให้ชัดเจน

4.มีระบบการสุ่มตรวจเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยงในจังหวัดต่างๆ ด้วยชุดตรวจ ATK ที่ชัดเจน มีระบบที่ทำให้ประชาชนเข้าถึงชุดตรวจ ATK ได้อย่างสะดวก 5.สำรองสต๊อกยา และเวชภัณฑ์ต่างๆ ให้มีความเพียงพอ

และ 6.รัฐบาลต้องเร่งถอดบทเรียน และเตรียมระบบในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยให้พร้อมกว่าที่เป็นอยู่ ตลอดจนการมีแผนสำรองฉุกเฉินที่สามารถเพิ่มจำนวนเตียง ในโรงพยาบาล จัดเตรียมสถานดูแลผู้ป่วย เพื่อกักกันโรค ฮอสพิเทล โรงพยาบาลสนาม ได้โดยทันทีหากการระบาดรุนแรงขึ้น

หากรัฐบาลเปิดการท่องเที่ยว โดยไม่ทำการบ้านทั้ง 6 ข้อนี้ แทนที่ประชาชนจะได้รับผลประโยชน์ กลับกลายเป็นการลวงให้ประชาชนเดินทางมาพบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ เพราะประชาชนจำนวนไม่น้อยต้องไปกู้หนี้ยืมสิน หรือนำเงินก้อนสุดท้ายในชีวิตมาใช้ในการลงทุนฟื้นฟูกิจการของตนเอง ถ้าเปิดการท่องเที่ยว แล้วนักท่องเที่ยวไม่มา หรือเปิดได้สักพักก็ต้องปิดอีก เพราะรัฐบาลไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้ ประชาชนก็มีแต่จะสิ้นเนื้อประดาตัว พร้อมกับหนี้สินล้นพ้นตัว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน