ท่องเที่ยวลั่น6เดือนตั้งไข่บริษัทลูก – ททท.เล็งขึ้นรูปบริษัทลูกลงทุนเหรียญดิจิทัลอีก 6 เดือน- พลิกโฉมท่องเที่ยวสู่ “ดิจิทัล ทัวริสซึ่ม” เร่งเสริมสภาพคล่องเอกชนที่เข้าไม่ถึงเงินทุน ฝันปั้นรายได้โต 10%
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้หารือกับนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อตั้งบริษัทลูกเพื่อร่วมขับเคลื่อนดิจิทัล ทัวริสซึ่ม ที่มีสถานะเป็นเอกชนสัญชาติไทย 100% เพื่อความ คล่องตัวในการบริหาร ททท.จะถือหุ้นสัดส่วน 40% บริษัทด้านดิจิทัลในไทยที่สนใจร่วมลงทุนสัดส่วน 40% และอีก 20% จะเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เช่น สมาคมท่องเที่ยวต่างๆ
คาดว่าจะตั้งบริษัทลูกได้อีก 6 เดือน บริษัทจะสามารถคุ้มทุนใน 3 ปีและมีกำไรในปี 2567 สอดรับกับการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวไทย โดยเป้าหมายเป็นส่วนหนึ่งในการพลิกฟื้นรายได้ท่องเที่ยวเติบโตได้ปีละไม่ต่ำกว่า 5-10% โดยปี 2565 จะมีรายได้ 1.5 ล้านล้านบาท ปี 2566 ประมาณ 2.4 ล้านล้านบาท ปี 2567 รายได้จะกลับมาเท่า ปี 2562 ก่อนที่จะมีการระบาดของโควิด-19
เมื่อก.ค.2564 ททท.ได้หารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเตรียมออกเหรียญ Utility Token พร้อมใช้ ด้วยการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนแปลงคูปองในลักษณะที่เป็นเวาเชอร์เป็นโทเคนดิจิทัล และเสนอขายในรูปแบบ Utility Token พร้อมใช้ในตลาดแรกต่อลูกค้า เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวให้สามารถ ขายสินค้าและบริการท่องเที่ยวล่วงหน้าได้เหมือนกับการขายอี-เวาเชอร์ และช่วยแก้ปัญหาเอกชนท่องเที่ยวให้สามารถเข้าถึงสภาพคล่องได้
หากบริษัทลูกของททท.สามารถตั้งขึ้นได้จะเป็นกลไกสำคัญสำหรับขับเคลื่อนดิจิทัล ทัวริสซึ่ม ซึ่งก.ล.ต.และธปท.บอกเพียงว่าบริษัทลูกของททท.เมื่อออก Utility Token พร้อมใช้ ไม่สามารถนำไปลิสต์ในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้ แต่สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าวได้ ผ่านช่องทางผู้ประกอบธุรกิจประเภทนายหน้าและผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัลได้
ททท.จะออกเหรียญดิจิทัลเพื่อขับเคลื่อนดิจิทัล ทัวริสซึ่ม แล้วยังจะรุกสร้าง Metaverse ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อกันอย่างเป็นเนื้อเดียวของโลก VR (Virtual Reality) กับ AR (Augmented Reality) แบบ 3 มิติ เพื่อขับเคลื่อนภารกิจดังกล่าว เป็นกำลังสำคัญในการพลิกโฉมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยเพื่อให้ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลในอนาคต
