ก้าวไกลเสนอใช้‘คนละครึ่ง’ที่ปั๊มได้ – วันที่ 20 ต.ค. น.ส.วรรณวรี ตะล่อมสิน ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล กล่าวถึงปัญหาราคาน้ำมันแพง ว่า แม้รัฐบาลเริ่มมีมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซลออกมาบ้างแล้ว ด้วยการลดเงินเก็บเข้ากองทุนน้ำมันสำหรับน้ำมันดีเซล บี7 และลดค่าการตลาดลงเหลือ 40 สตางค์ แต่ก็ยังน่ากังวลใน 2 เรื่องที่ยังไม่มีมติออกมาชัดๆ คือ สถานะของกองทุน โดยเฉพาะที่อุดหนุนแก๊สหุงต้ม LPG ที่ติดลบกว่า 17,000 ล้านบาท

ปัจจุบันสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิ ณ วันที่ 19 ก.ย. 2564 อยู่ที่ 11,857 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนของน้ำมัน 29,040 ล้านบาท และ LPG ซึ่งติดลบ 17,183 ล้านบาท ซึ่งยังไม่มีการขยายกรอบการอุดหนุนราคาแก๊ส LPG ที่กำหนดไว้ให้ติดลบไม่เกิน 18,000 ล้านบาท หากยังต้องใช้เงินอุดหนุนต่อเนื่องไปถึงปีหน้า ตามการคาดการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลก เงินเหลือสุทธิไม่น่าจะเพียงพอและจำเป็นต้องกู้เพิ่ม โดยกรอบตามกฎหมายให้กู้เพิ่มได้ไม่เกิน 20,000 ล้านบาท แต่หากมีเหตุจำเป็นก็ขยายได้

สำหรับภาษีสรรพสามิตไม่ควรแตะในระยะสั้น เพราะจะส่งผลต่อการจัดเก็บรายได้เข้ารัฐ ในยามที่ตั้งงบประมาณแบบกู้ชดเชยขาดดุลชนเพดานแล้ว ถ้าปรับลดภาษีลิตรละ 5 บาท อาจทำให้เกิดวิกฤตการคลังได้ ปัญหาต้นตอคือ การใช้เงินกองทุนน้ำมันอุดหนุนข้ามประเภท เช่น อุดหนุนแก๊สหุงต้ม แก๊สโซฮอลล์และไบโอดีเซล ทำให้เงินกองทุนร่อยหรอ เป็นปัญหาคาราคาซังนับตั้งแต่มีกฎหมายกองทุนน้ำมันใหม่ ที่ประกาศทยอยลดเงินอุดหนุนราคาเชื้อเพลิงชีวภาพ

ตนขอเรียกร้องให้รัฐบาลเยียวยาโดยตรงให้ประชาชนและผู้ประกอบการ โดยเพิ่มเงินเยียวยาในส่วนช่วยเหลือค่าครองชีพ และเพิ่มการเยียวยาให้ผู้ประกอบการในภาคขนส่ง จากเงินกู้ 5 แสนล้านบาทในส่วนการเยียวยาที่ยังเหลืออยู่กว่า 160,000 ล้านบาท ขยายร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งให้ครอบคลุมปั๊มน้ำมันด้วย น่าจะเป็นการบรรเทาปัญหาค่าครองชีพให้ประชาชนได้ตรงจุดมากขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน