ฝ่ายค้านแนะใช้‘ศอ.บต.’แก้โควิดใต้
ค้านตั้งศบค.ส่วนหน้า-ชี้ซ้ำซ้อน
วันที่ 21 ต.ค. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร โฆษกพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม มีคำสั่งจัดตั้ง ศบค.ส่วนหน้า ดูแลสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า จากการหารือกับคณะทำงานของพรรคในพื้นที่ อุปสรรคสำคัญต่อการควบคุมการระบาด หลักๆ มี 2 ปัจจัย 1.ประชาชนในพื้นที่ไม่ยินยอมฉีดวัคซีน เพราะไม่ไว้วางใจรัฐบาลจากกรณีข่าวการซ้อมทรมานและใช้ความรุนแรง การแก้ปัญหาต้องอาศัยความเข้าใจผ่านผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนาและบุคคลที่ประชาชนในพื้นที่ไว้เนื้อเชื่อใจเป็นกลไกรณรงค์ ต้องยอมรับการฉีดวัคซีนมีความเสี่ยงอยู่บ้าง แต่เมื่อเทียบกับประโยชน์ถือเป็นเรื่องจำเป็นและคุ้มค่า แต่การจัดตั้ง ศบค.ส่วนหน้าแล้วใช้อำนาจบังคับแบบทันทีทันใดนั้นสุ่มเสี่ยงอย่างมาก หากคนจำนวนหนึ่งได้รับผลข้างเคียงหรือมีอาการไม่พึงประสงค์หลังฉีด ความไม่เข้าใจที่ถูกรัฐบังคับจะกลายเป็นความโกรธแค้น ความไม่ไว้วางใจรัฐบาลของคนในพื้นที่จะขยายตัว
“แทนที่รัฐบาลจะจัดตั้ง ศบค.ส่วนหน้าขึ้นมาใช้ อำนาจซ้ำซ้อน รัฐบาลควรใช้กลไกของศอ.บต. ควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดในชายแดนภาคใต้มากกว่า โดยสนับสนุนงบฯและกำลังคนให้แก่ ศอ.บต.อย่างเต็มที่” นายวิโรจน์กล่าวและว่า ปัจจัยที่ 2 ที่เป็นอุปสรรคการควบคุมโรค คือ ความพร้อมด้านทรัพยากรบุคคล ยาและเวชภัณฑ์ เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์
ด้าน นพ.เรวัต วิศรุตเวช รองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า งานระบาดวิทยาหากเป็นพื้นที่พิเศษ เช่น ภาคใต้ ไม่ได้ให้ฝ่ายความมั่นคง ทหาร ตำรวจ มาเป็นส่วนหนึ่งในการปราบ เพียงแต่ขอความร่วมมือเวลาลงพื้นที่ ประเด็นสำคัญคือต้องให้ประชาชนเชื่อใจรัฐบาล ศบค.ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะ ศบค.อะไรล้วนแต่ล้มเหลวทั้งสิ้น มีแต่เสียงบ่นและวิพากษ์วิจารณ์ทั่วประเทศ จนคนจำนวนมากอยากให้ยุบศบค. ยกเลิกเคอร์ฟิว และพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
