ขุนค้อนบู๊เรือใบ‘คาราบาว คัพ’ – ศึกคาราบาว คัพ เผดียงแข้งกันอยู่ในรอบสี่ คืนวันพุธนี้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ต้องเจอแชมป์เก่าอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขณะที่ เบิร์นลีย์ มีคิวปะทะรองแชมป์เก่าท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ทีมไหนจะคว้าตั๋ว สู่รอบต่อไปได้บ้าง มารอลุ้นกัน

วันพุธที่ 27 ตุลาคม 2564

คาราบาว คัพ อังกฤษ

รอบสี่

สโต๊ก ซิตี้-เบรนต์ฟอร์ด “ช่าง ปั้นหม้อ” สโต๊ก ซิตี้ จากลีกแชมเปียนชิพ เปิดสนามเบ็ต 365 รับการมาเยือนของ “ผึ้งเพชฌฆาต” เบรนต์ฟอร์ด จากพรีเมียร์ลีก

เส้นทางที่ผ่านมา สโต๊กเริ่มต้นจาก รอบแรก ชนะฟลีตวูด ทาวน์ 2-1 ต่อด้วยรอบสอง ชนะดอนคาสเตอร์ โรเวอร์ส 2-0 และรอบสาม ชนะวัตฟอร์ด 3-1 ส่วน เบรนต์ฟอร์ดเริ่มจากรอบสอง ชนะฟอเรสต์ กรีน โรเวอร์ส 3-1 และรอบสาม ชนะ โอลด์แฮม แอธเลติก 7-0

สโต๊กช่วงหลังฟอร์มค่อนข้างแย่ แถม เบรนต์ฟอร์ดกำลังทำผลงานได้ดีในพรีเมียร์ลีกด้วย ทีมเยือนมีโอกาสชนะสูงกว่า

เส้นทางที่ผ่านมา เปรสตันเริ่มต้น จากรอบแรก ชนะแมนส์ฟิลด์ ทาวน์ 3-0 ต่อด้วยรอบสอง ชนะมอร์แคมบ์ 4-2 และรอบสาม ชนะเชลต์แนม ทาวน์ 4-1 ด้านลิเวอร์พูลเริ่มจากรอบสาม ชนะนอริช ซิตี้ 3-0

ผลงานในถ้วยนี้ที่ผ่านมา เปรสตันยังไม่เคยทะลุไปเกินรอบสี่ ฤดูกาลก่อนจอดป้ายรอบสาม ทางด้านลิเวอร์พูลเคยได้แชมป์ 8 สมัย ฤดูกาลก่อนตกรอบสี่

ศักยภาพคู่นี้ยังห่างกันมาก เปรสตันเล่นในบ้านก็คงไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่ ยังเชื่อว่าทีมเยือนคงบุกคว้าชัยสบาย

เวสต์แฮม ยูไนเต็ด-แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมจาก พรีเมียร์ลีกมาปะทะแข้งกัน “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เปิดสนามลอนดอน สเตเดียม รับการมาเยือนของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้

เส้นทางที่ผ่านมา เวสต์แฮมเริ่มต้นจากรอบสาม ชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 ส่วนแมนฯ ซิตี้เริ่มจากรอบสามเช่นกัน ชนะวีคอมบ์ วันเดอเรอร์ส 6-1

เช็กฟอร์ม 5 เกมหลังสุด เวสต์แฮมชนะราปิด เวียนนา 2-0 (ยูฟ่า ยูโรปา ลีก : เหย้า), แพ้เบรนต์ฟอร์ด 1-2 (พรีเมียร์ลีก : เหย้า), ชนะเอฟเวอร์ตัน 1-0 (พรีเมียร์ลีก : เยือน), ชนะเกงก์ 3-0 (ยูฟ่า ยูโรปา ลีก : เหย้า), ชนะท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 1-0 (พรีเมียร์ลีก : เหย้า)

ด้านแมนฯ ซิตี้แพ้ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 0-2 (ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก : เยือน), เสมอลิเวอร์พูล 2-2 (พรีเมียร์ลีก : เยือน), ชนะเบิร์นลีย์ 2-0 (พรีเมียร์ลีก : เหย้า), ชนะคลับ บรูช 5-1 (ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก : เยือน), ชนะไบรตัน 4-1 (พรีเมียร์ลีก : เยือน)

สำหรับสถานการณ์ในลีกล่าสุด ทั้งคู่ลงสนาม 9 นัดเท่ากัน เวสต์แฮมชนะ 5 เสมอ 2 แพ้ 2 เก็บไป 17 คะแนน อยู่อันดับ 4 ส่วนแมนฯ ซิตี้ชนะ 6 เสมอ 2 แพ้ 1 มีอยู่ 20 คะแนน รั้งอันดับ 3

ผลงานในถ้วยนี้ที่ผ่านมา เวสต์แฮมยังไม่เคยคว้าแชมป์ ทำได้ดีสุดกับรองแชมป์ 2 สมัย ฤดูกาลก่อนตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ขณะที่แมนฯ ซิตี้ได้แชมป์มาแล้วถึง 8 สมัย และยังครองแชมป์มาต่อเนื่อง 4 ฤดูกาลหลังสุดด้วย

เกมนี้เวสต์แฮมคงวางหมาก 4-2-3-1 อัลฟงส์ อเรโอลา : เบนจามิน จอห์นสัน, อิสซา ดิย็อป, เคร็ก ดอว์สัน, อาร์ธูร์ มาซูอาคู : มาร์ก โนเบิล, เดแคลน ไรซ์ : อังเดร ยาร์โมเลนโก, มานูเอล ลันซินี, นิโคลา วลาซิช : จาร์รอด โบเวน

ด้านแมนฯ ซิตี้น่าจะใช้ระบบ 4-3-3 แซก สเตฟเฟน : ไคล์ วอล์กเกอร์, จอห์น สโตนส์, นาธาน อาเก, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก : เควิน เดอ บรอยน์, แฟร์นานดินโญ, โคล พาลเมอร์ : ริยาด มาห์เรซ, กาเบรียล เชซุส, ราฮีม สเตอร์ลิง

เวสต์แฮมกำลังมีความมั่นใจ แถมเกมนี้ได้เปรียบในบ้าน แต่ฝั่งแมนฯ ซิตี้ก็มีทีมที่แข็งแกร่งแม้จะเป็นชุดสำรอง มองแล้วอาจยืดเยื้อถึงการดวลจุดโทษได้เลย

เลสเตอร์ ซิตี้-ไบรตัน ศึกระหว่าง 2 ทีมจากพรีเมียร์ลีก “สุนัขจิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดสนามคิง เพาเวอร์ สเตเดียม รับการมาเยือนของ “นกนางนวล” ไบรตัน

เส้นทางที่ผ่านมา เลสเตอร์เริ่มต้นจากรอบสาม ชนะมิลล์วอลล์ 2-0 ขณะที่ไบรตันเริ่มจากรอบสอง ชนะคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ 2-0 ต่อด้วยรอบสาม ชนะสวอนซี ซิตี้ 2-0

เช็กฟอร์ม 5 เกมหลังสุดไม่รวมรายการนี้ เลสเตอร์แพ้ลีเกีย วอร์ซอว์ 0-1 (ยูฟ่า ยูโรปา ลีก : เยือน), เสมอคริสตัล พาเลซ 2-2 (พรีเมียร์ลีก : เยือน), ชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก : เหย้า), ชนะสปาร์ตัก มอสโก (ยูฟ่า ยูโรปา ลีก : เยือน), ชนะเบรนต์ฟอร์ด 2-1 (พรีเมียร์ลีก : เยือน)

ส่วนไบรตันชนะเลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 (พรีเมียร์ลีก : เหย้า), เสมอคริสตัล พาเลซ 1-1 (พรีเมียร์ลีก : เยือน), เสมออาร์เซนอล 0-0 (พรีเมียร์ลีก : เหย้า), เสมอนอริช ซิตี้ 0-0 (พรีเมียร์ลีก : เยือน), แพ้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-4 (พรีเมียร์ลีก : เหย้า)

ผลงานในถ้วยนี้ที่ผ่านมา เลสเตอร์เคยคว้าแชมป์ 3 สมัย ฤดูกาลก่อนตกรอบสาม ด้านไบรตันไม่เคยทะลุไกลกว่ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ฤดูกาลก่อนจอดป้ายรอบสี่

คาดว่าเลสเตอร์จะจัด อโยเซ เปเรซ, อเดโมลา ลุกแมน, ฮาร์วีย์ บาร์นส์ ลงสนาม ขณะที่ไบรตันคงเลือกใช้งาน อารอน คอนนอลลี, เทย์เลอร์ ริชาร์ดส์, อเล็กซิส แม็กอัลลิสเตอร์

ทั้งคู่เตรียมส่งตัวสำรองลงสนามเพียบ แต่วัดกันแล้วเจ้าถิ่นก็เหนือกว่าชัดเจน น่าชนะผ่านเข้ารอบไปได้

เบิร์นลีย์-ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เป็นเกมระหว่าง 2 ทีมจากพรีเมียร์ลีก “เดอะ คลาเร็ตส์” เบิร์นลีย์ เปิดสนามเทิร์ฟ มัวร์ รับการมาเยือนของ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮอตสเปอร์

เส้นทางที่ผ่านมา เบิร์นลีย์เริ่มจากรอบสอง เสมอนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 0-0 (ชนะจุดโทษ 4-3) ต่อด้วยรอบสาม ชนะรอชเดล 4-1 ส่วนสเปอร์เริ่มจากรอบสาม เสมอวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 2-2 (ชนะจุดโทษ 3-2)

เช็กฟอร์ม 5 เกมหลังสุดไม่รวมรายการนี้ เบิร์นลีย์แพ้อาร์เซนอล 0-1 (พรีเมียร์ลีก : เหย้า), เสมอ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-2 (พรีเมียร์ลีก : เยือน), เสมอนอริช ซิตี้ 0-0 (พรีเมียร์ลีก : เหย้า), แพ้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-2 (พรีเมียร์ลีก : เยือน), เสมอเซาธ์แฮมป์ตัน 2-2 (พรีเมียร์ลีก : เยือน)

ขณะที่สเปอร์ชนะมูรา 5-1 (ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก : เหย้า), ชนะแอสตัน วิลลา 2-1 (พรีเมียร์ลีก : เหย้า), ชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 3-2 (พรีเมียร์ลีก : เยือน), แพ้วิเตสเซ 0-1 (ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก : เยือน), แพ้เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 0-1 (พรีเมียร์ลีก : เยือน)

ผลงานในถ้วยนี้ที่ผ่านมา เบิร์นลีย์ยัง ไม่เคยคว้าแชมป์ ทำได้ดีสุดด้วยการเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ฤดูกาลก่อนจอดป้ายรอบสี่ ส่วนสเปอร์เคยได้แชมป์ 4 สมัย ฤดูกาลก่อนจบตำแหน่งรองแชมป์

คาดว่าเบิร์นลีย์จะส่ง เจย์ โรดริเกซ, มาไต วีดรา, อารอน เลนนอน ด้านสเปอร์คงใช้งาน สตีเฟน เบิร์กไวน์, เดเล อัลลี, ไบรอัน กิล

เบิร์นลีย์คงทิ้งถ้วยนี้เพื่อไปเน้นผลงานลีก แม้ สเปอร์เองจะใช้ผู้เล่นสำรอง แต่ยังเชื่อว่าทีมเยือนแกร่งกว่าและน่าบุกชนะได้

เปรสตัน นอร์ธเอนด์-ลิเวอร์พูล เปรสตัน นอร์ธเอนด์ จากลีกแชมเปียนชิพ เปิดสนามดีปเดล รับการมาเยือนของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จากพรีเมียร์ลีก

เส้นทางที่ผ่านมา เปรสตันเริ่มต้นจากรอบแรก ชนะ แมนส์ฟิลด์ ทาวน์ 3-0 ต่อด้วยรอบสอง ชนะมอร์แคมบ์ 4-2 และรอบสาม ชนะเชลต์แนม ทาวน์ 4-1 ด้านลิเวอร์พูลเริ่มจากรอบสาม ชนะนอริช ซิตี้ 3-0

ผลงานในถ้วยนี้ที่ผ่านมา เปรสตันยังไม่เคยทะลุไปเกินรอบสี่ ฤดูกาลก่อนจอดป้ายรอบสาม ทางด้านลิเวอร์พูลเคยได้แชมป์ 8 สมัย ฤดูกาลก่อนตกรอบสี่

ศักยภาพคู่นี้ยังห่างกันมาก เปรสตันเล่นในบ้านก็คงไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่ ยังเชื่อว่าทีมเยือนคงบุกคว้าชัยสบาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน