ต้องฟ้อง‘บิ๊กป้อม’ – กลายเป็นประเด็นร้อน ในช่วงสัปดาห์ก่อน ต่อกรณีอดีต “ฮีโร่โอลิมปิก 2004” วรพจน์ เพชรขุ้ม เจ้าของเหรียญเงินมวยสากลโอลิมปิก ปีค.ศ.2004 ที่กรีซ ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว น้อยเนื้อต่ำใจต่อการถูกละเลยจากต้นสังกัด กองทัพภาคที่ 2 และกองทัพบก ซึ่งปัจจุบันเจ้าตัวมียศสิบเอก โดยไม่ได้ขยับเหมือนนักกีฬาอื่นๆ
ทั้งๆ ที่ผ่านมาตั้ง 10 มี.ค.2543 จนถึงปีนี้พ.ศ.2564 รวมระยะเวลาร่วมๆ 20 ปี เป็นข้าราชการในสังกัดทภ.2 มาโดยตลอด ทำชื่อเสียงในฐานะนักกีฬาให้ต้นสังกัด ทั้งกีฬากองทัพบก ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย มวยทหารโลก แถมได้เหรียญทองซีเกมส์ 5 สมัย, เหรียญทองแดงเอเชียนเกมส์ และเหรียญเงินโอลิมปิก 2004
จากวันนั้นถึงวันนี้จะไม่ให้ผมน้อยใจต้นสังกัดได้อย่างไร 20 ปี ผมยังเป็นแค่ “สิบเอก” ผิดจากคนอื่นที่ไม่มีผลงานขนาดผม แต่กลับได้เลื่อนยศขึ้นไปถึงระดับนายร้อย
มิหนำซ้ำเพื่อนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกันอย่าง สุริยา ปราสาทหินพิมาย ที่ได้เหรียญทองแดง ยังเป็นแค่ “สิบเอก”
พอผมโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว วันรุ่งขึ้นถูกทางผู้ใหญ่ในกองทัพสั่งให้ลบข้อความทั้งหมดทิ้ง
นี่มันหมายความว่าอย่างไร นี่หรือสิ่งที่พวกผมได้รับจากสิ่งที่ผมสู้เพื่อศักดิ์ศรีชื่อเสียงของกองทัพบก ประเทศชาติ
ผมยังจำภาพวันที่ผมคือ “ฮีโร่” เมื่อครั้งคว้าเหรียญเงินโอลิมปิกได้ดี กองทัพเชิดชูและพูดย้ำว่า พวกคุณคือ “ฮีโร่” คือทรัพยากรกองทัพ เราจะดูแลให้ดีที่สุด
ต้องจับตามองกันต่อไปว่า ผลพวงของการออกมาพูดความจริงจะสะท้อนถึงอนาคตของเขาต่อไปอย่างไร
เรื่องนี้คงต้องฝากไปถึง “บิ๊กป้อม” พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย คนที่มีใจรักกีฬาของจริง ไม่งั้นคงไม่กำกับดูแลกีฬาแบบครบวงจร
แดง ตานี
