พระองค์หญิงพระราชทานรางวัล – สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จพระราชทานเหรียญรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดผ้าลายพระราชทานระดับประเทศ และทอดพระเนตรนิทรรศการผ้าชนะการประกวด นิทรรศการเหรียญพระราชทานและแฟชั่นโชว์ “ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” ในงาน OTOP MIDYEAR 2021 CELEBRATE THAI CULTURE

โดยกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับ สภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ สนองแนวพระดำริ ภายใต้แนวคิด “โครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก” เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ผ้าไทยสู่เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ ตามวิถีที่เป็นเอกลักษณ์ประจำถิ่นให้สามารถก้าวสู่ระดับสากล ณ ทรูไอคอนฮอลล์ ชั้น 7 ศูนย์การค้าไอคอนสยาม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 31 ตุลาคม 2564

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมุ่งมั่นที่จะสืบสานพระราชปณิธานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เรื่องการอนุรักษ์ภูมิปัญญาของไทย

ด้วยพระอัจฉริยภาพ พระองค์ทรงต่อยอดผสมผสานมุมมองด้านแฟชั่นที่ร่วมสมัย แต่ยังคงไว้ซึ่งการสืบสานอัตลักษณ์ นำไปสู่การประกวดลายผ้าพระราชทาน “ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” ซึ่งดำเนินการมาถึงรอบตัดสิน ตลอดระยะเพียง 8 เดือนที่เริ่มดำเนินโครงการมี ผู้ประกอบการ ช่างทอผ้าส่งผ้าเข้าประกวดใน 15 ประเภทรวม 3,214 ผืน และมีผ้าที่ผ่านเข้ารอบระดับประเทศ 11 ประเภท รวม 50 ผืนจากผู้เข้าประกวด 46 คน

ภายในงานยังจัดนิทรรศการผ้าชนะการประกวดผ้าลายขอเจ้าฟ้า สิริวัณณวรีฯ และนิทรรศการเหรียญพระราชทานสำหรับผู้ชนะการประกวดผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ แบ่งออกเป็น 5 โซน ได้แก่ 1.โซนแสดงพระฉายาลักษณ์และพระราชกรณียกิจของสมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงให้ความสำคัญและทุ่มเทพระวรกายในการอนุรักษ์และฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมของชาติ อย่างผ้าไทย

2.โซนแสดงผ้าลายพระราชทานที่เข้ารอบ จำนวน 150 ผืน และจัดแสดงผ้าที่ได้รับรางวัล

3.โซนแสดงเสื้อผ้าที่ตัดเย็บจากผ้าทอของผู้เข้าประกวด เป็นชุดที่มีดีไซน์ทันสมัยจากแบรนด์ไทยดีไซเนอร์ดัง

4.โซนนิทรรศการใยไหม จุดแสดงกระบวนการผลิตผ้าทอมือ

5.นิทรรศการเหรียญพระราชทานฯ ซึ่งโปรดเกล้าให้ นายศักดิ์วุฒิ วิเศษมณี ศิลปินและประติมากรออกแบบ

ทั้งนี้หลังจากกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย และสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ นำลายผ้าพระราชทาน“ผ้ามัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” และนำคำพระราชทานเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาต่อยอดที่ครอบคลุมในทุกมิติทั้งด้านคุณภาพของสี โทนสี คุณภาพเส้นใย และเทรนด์ที่จะสามารถโดดเด่นอยู่ในแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ในอนาคต รวมถึงวัสดุที่เลือกใช้ ลวดลาย และเทคนิคการทอผ้าแบบต่างๆ นำไปอธิบายสู่กลุ่มศิลปินทอผ้า พร้อมจัดอบรมเชิง ปฏิบัติการโดยผู้เชี่ยวชาญผ้าไทย กูรูด้านแฟชั่น และดีไซเนอร์ชื่อดัง กลุ่มศิลปินทอผ้านำความรู้ไปต่อยอดผลิตภัณฑ์ของตนเอง ก่อให้เกิดรายได้แก่กลุ่มทอผ้า โดยเฉพาะผ้าลายขอมากถึง 300 ล้านบาท

นายกุลวิทย์ เลาสุขศรี กรรมการที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก เผยว่าภายในงานยังจัดแฟชั่นโชว์ผลงานของ 12 แบรนด์ไทยดีไซเนอร์ชื่อดัง ได้แก่ SIRIVANNAVARI Couture, HOOK’S by PRAPAKAS, THEATRE, ISSUE, WISHARAWISH, IRADA, TIRAPAN, ASAVA, SANSHAI, VATIT ITTHI, ARCHIVE026, SSAP

โดยนำผ้าทอของผู้เข้าประกวดมาตัดเย็บเป็นชุดที่มีดีไซน์ทันสมัย ภายใต้แนวคิด “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” สะท้อนมุมมองของผ้าไทยในอีกมิติหนึ่ง ในการนี้พระราชทานรางวัลเหรียญทอง พร้อมของรางวัลแก่ นายมีชัย แต้สุจริยา บ้านคําปุนจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งได้รับรางวัล The Best of The Best จากผ้าเทคนิคสร้างสรรค์ พระราชทานรางวัลเหรียญทองให้แก่ นายธงชัย พันธุ์สง่า จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งได้รับรางวัลสีเทรนด์บุ๊ค จากประเภทผ้ายกเล็กและพระราชทานเหรียญรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดลายผ้าพระราชทาน ประเภทผ้ามัดหมี่ 2 ตะกอ

ผ้ามัดหมี่ 3 ตะกอขึ้นไป ผ้าขิด ผ้าจกทั้งผืน ผ้ายกเล็ก ผ้าแพรวา ผ้าเทคนิคสร้างสรรค์ ผ้าบาติก-ผ้ามัดย้อม และประเภทผ้าเทคนิคสร้างสรรค์

นายมีชัย แต้สุจริยา กล่าวว่านับเป็นพระกรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ผ้าทอผืนนี้รวมเทคนิคการทอผ้าขั้นสูงเอาไว้ถึง 5 แบบในผืนเดียว โดยนำ 4 เทคนิคของวิธีการทอผ้ากาบบัวซึ่งคิดค้นขึ้นเอง คือ “ผ้าปูม” หรือ ผ้ามัดหมี่, ขิด หรือ ยก, มับไม (ไหมเกลียวหางกระรอก) มารวมกันในผ้าผืนเดียว กลายเป็นผ้าทอชนิดใหม่ ตั้งชื่อว่า “ผ้ากาบบัว” สร้างเอกลักษณ์ให้ผ้าทออุบลราชธานี มาผสานกับเทคนิคการ จก และย้อมสีด้วยครั่ง เนื่องจากสีที่ได้จะคงทนที่สุดในบรรดาสีธรรมชาติ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน