วัดโพธิ์เปิดพิพิธภัณฑ์นวดไทยรูปหล่อฤๅษีดัดตน80ท่า82ตน – ตามนโยบายที่กำหนดให้ประเทศไทยเปิดรับนักท่องเที่ยว 46 ชาติทั่วโลก เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.2564
“วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม” หรือวัดโพธิ์ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญลำดับต้นของประเทศไทย เตรียมผลงานชิ้นสำคัญที่ทรงคุณค่า คือ การเปิดแสดง “พิพิธภัณฑ์นวดไทย มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม” ที่องค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ขึ้นทะเบียนรับรองนวดไทย ให้เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2562
พร้อมทั้งจัดแสดงรูปหล่อฤๅษีดัดตน 80 ท่า 82 ตนเป็นครั้งแรก
สมเด็จพระมหาธีราจารย์ (ปสฤทธ์ เขมังกโร) เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนฯ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ วัดพระเชตุพนฯ มีมรดกโลกชิ้นสำคัญอยู่แล้ว นั่นคือ จารึกวัดโพธิ์ โดย ล้นเกล้ารัชกาลที่ 3 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์วัดโพธิ์ครั้งใหญ่ เมื่อปี พ.ศ.2375 และโปรดให้เหล่าบรรดา นักปราชญ์ราชบัณฑิต ตรวจสอบชำระตำราสรรพวิชาความรู้ต่างๆ รวม 8 หมวดที่ได้นำมาจารึกลงบนแผ่นศิลาในครั้งนั้นด้วย
จนเมื่อวันที่ 27 ก.ค.2554 องค์การยูเนสโก ได้มีมติรับรองให้จารึกวัดพระเชตุพนฯ ขึ้นทะเบียนรับรองเป็นมรดกความทรงจำแห่งโลกในระดับนานาชาติ ซึ่งในบรรดาจารึกทั้งหมดที่ได้รับการขึ้นทะเบียน ก็มีโคลงฤๅษีดัดตน 80 บท และจารึกแผนนวดวัดโพธิ์รวมอยู่ด้วย เพราะฉะนั้นหลักฐานชิ้นสำคัญด้านการ “นวดไทย” ที่องค์การยูเนสโกถือว่าครบถ้วนและสมบูรณ์มากที่สุด คือ จารึกแผนนวดวัดโพธิ์ ที่ทำให้ “นวดไทย” ได้รับการขึ้นทะเบียนรับรองดังกล่าว
ดังนั้น คณะสงฆ์วัดพระเชตุพนฯ และภาคีเครือข่าย อาทิ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม โรงเรียนแพทย์แผนโบราณวัดพระเชตุพนฯ มูลนิธิ “ทุนพระพุทธยอดฟ้า” ในพระบรมราชูปถัมภ์ มูลนิธิ “สิริวัฒนภักดี” และภาคีเครือข่ายด้านการนวดไทย จึงจัดประชุมร่วมกันและมีความเห็นฟ้องต้องกันว่า วัดพระเชตุพนฯ ควรจะมีการรวบรวมและจัดสร้างพิพิธภัณฑ์นวดไทยไว้ เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลและแหล่งเรียนรู้แก่มวลมนุษยชาติ พร้อมทั้งการจัดสร้างรูปหล่อฤๅษีดัดตน 80 ท่า 82 ตนขึ้นใหม่ให้ครบถ้วนเพื่อทดแทนตนเก่าที่ชำรุดไปตามกาลเวลา
“วันที่ 12 พ.ย.2564 คณะสงฆ์และคณะทำงาน ทุกภาคส่วนได้รับพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ในการที่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จฯ เปิดงาน “ฉลองสมโภชรูปหล่อฤๅษีดัดตน และทรงเปิดพิพิธภัณฑ์นวดไทย มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ณ วัดพระเชตุพนฯ” สมเด็จพระมหาธีราจารย์กล่าว
ด้านพระเทพวัชราจารย์ (เทียบ สิริญาโณ) ผู้ช่วย เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 วัดพระเชตุพนฯ ต้องปิดวัดตามนโยบายภาครัฐเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด จึงมีประชุมร่วมกันกับผู้ที่เกี่ยวข้องและถือโอกาสเตรียมงานต่างๆ ในการจัดสร้างรูปหล่อฤๅษีดัดตนและพิพิธภัณฑ์นวดไทยมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม เป็นการต้อนรับการเปิดประเทศ เพื่อรับนักท่องเที่ยวหลังจากการแพร่ระบาดที่ลดน้อยลง ซึ่งครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งแรก ที่การจัดทำข้อมูลมีความสมบูรณ์มากที่สุด
“ในส่วนฤๅษีดัดตนทั้ง 80 ท่า 82 ตน ซึ่งประดิษฐานอยู่โดยรอบเขามอ ภายในบริเวณวัดทั้งหมด พร้อมจัดทำคำบรรยายทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษบอกถึงวิธีการดัดตน การแก้อาการปวดเมื่อยต่างๆ ผู้สนใจเพียงสแกนคิวอาร์โค้ดตรงป้ายชื่อฤๅษีดัดตนแต่ละท่า รายละเอียดหรือข้อมูลต่างๆ ก็จะปรากฏขึ้นมาอย่างครบถ้วน”
สำหรับส่วนการจัดแสดงภายในพิพิธ ภัณฑ์นวดไทย มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ถือว่า น่าสนใจมากอีกจุดหนึ่ง เพราะเป็นการรวบรวมศาสตร์ความรู้ด้านการนวดไทยทั้งหมดไว้ที่นี่ มีการจัดแสดงแบบผสมผสาน ทั้งการสาธิตจริง การจัดสร้างหุ่นจำลอง การใช้สื่อผสมมัลติมีเดียรวมถึงการจัดแสดงนิทรรศการต่างๆ โดยจะมีคำบรรยายทั้งภาคภาษาไทยและ ภาคภาษาอังกฤษ ซึ่งทางวัดได้รับความร่วมมือจากภาควิชาการแปลและการล่าม คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็น ผู้เรียบเรียงเนื้อหาในส่วนภาษาอังกฤษ
“หลังจากวันที่ 13 พ.ย.นี้เป็นต้นไป วัดพระเชตุพนฯ จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชม โดยจะแบ่งเป็นรอบ จำกัดจำนวนผู้เข้าชม เพื่อยังคงไว้ซึ่งมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 นอกจากได้ชมพิพิธภัณฑ์มรดกโลกแล้ว ทุกท่านก็ต้องมีความปลอดภัยด้วย เช่นกัน” พระเทพวัชราจารย์กล่าว
