พม่าทรุดหนัก-3ล้านชีวิตร่อแร่ – วันที่ 9 พ.ย. รอยเตอร์รายงานผลการประชุมลับของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี เกี่ยวกับสถานการณ์เมียนมาว่า นายมาร์ติน กริฟฟิธส์ หัวหน้าด้านการช่วยเหลือทางมนุษยธรรมและผู้ประสานงานด้านบรรเทาภัยฉุกเฉินแห่งยูเอ็น เตือนว่าสถานการณ์มนุษยธรรมในเมียนมากำลังเลวร้ายลง โดยประชาชนกว่า 3 ล้านคนต้องการความช่วยเหลือเพื่อรักษาชีวิต เนื่องจากความขัดแย้งที่เพิ่มขึ้นและเศรษฐกิจตกต่ำเลวร้ายลง

การประชุมลับดังกล่าวเมื่อ 8 พ.ย. เกิดขึ้นพร้อมกับในโอกาสครบรอบ 1 ปี วันเลือกตั้งของเมียนมา วันที่ 8 พ.ย.2563 ที่ลงเอยด้วยชัยชนะของพรรคเอ็นแอลดี ภายใต้การนำของ นางออง ซาน ซู จี แต่ถูกรัฐประหารวันที่ 1 ก.พ.2564

นายสเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกยูเอ็นระบุว่า การสังเกตการณ์ของนานาชาติและชาวเมียนมาเองเชื่อว่า การเลือกตั้งครั้งนั้นเป็นอิสระและยุติธรรม ยูเอ็นจึงขอย้ำต่อกองทัพเมียนมาให้เคารพเจตจำนงประชาชนและนำประเทศกลับสู่เส้นทางประชาธิปไตย

ด้านนายเจมส์ คาริวกี รองเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำยูเอ็นกล่าวว่า สหราชอาณาจักรต้องการให้ยูเอ็นเอสซีจัดประชุมครั้งนี้เพราะกังวลต่อความเคลื่อนไหวของกองทัพเมียนมาทางตะวันตกเฉียงเหนือ มีลักษณะคล้ายความโหดร้ายต่อชาวโรฮิงยาในรัฐยะไข่ เมื่อ 4 ปีก่อน จนชาวโรฮิงยาต้องอพยพหนีตายจากรัฐยะไข่ไปประเทศบังกลาเทศกว่า 730,000 คน และเป็นข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่กองทัพเมียนมากำลังเผชิญที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ

ขณะที่นายกริฟฟิธส์รายงานตรงกันว่า การต่อสู้รุนแรงขึ้นระหว่างกองทัพเมียนมาและกองกำลังปกป้องผืนแผ่นดินชิน ในรัฐชิน รวมถึงระหว่างกองทัพเมียนมาและกองกำลังป้องกันประชาชนในภูมิภาคมาเกวและสะกาย ซึ่งมีประชาชนกว่า 37,000 คน รวมถึงเด็กและผู้หญิงเพิ่งไร้ที่อยู่และบ้านเรือนกว่า 160 หลังคาเรือนถูกเผารวมถึงโบสถ์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน