กรมโยธาฯ ชี้แจง (3) – ประเด็นคำชี้ แจงชุดสุดท้ายของกรมโยธาธิการและผังเมืองต่อความ เห็นที่บทความในคอลัมน์นี้ได้ยกมาเป็นประเด็นข้อสงสัยอันน่าจะเกิดมีขึ้นจากการที่พระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกที่บัญญัติให้อำนาจในการควบคุมการใช้ประโยชน์ในที่ดิน (รวมทั้งการให้อำนาจในการขออนุญาตหรืออนุมัติการดำเนินโครงการต่างๆ ในเขตพัฒนาพิเศษ EEC ซึ่งรวมทั้งการขออนุญาตก่อสร้างอาคารด้วย)
ประเด็นนี้ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า สำนักงานนโยบายเขตพัฒนาพิเศษ (EEC) นั้น ไม่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการผังเมือง การควบคุมอาคาร การตรวจสอบและจัดการสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดปัญหาซึ่งไม่เห็นว่ารัฐบาลจะจัดการได้ (อย่างไร)
กรมโยธาธิการและผังเมืองตอบข้อสงสัยมา 2 ประเด็น คือ
1. มาตรา 30 และมาตรา 31 แห่ง พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.2561 ได้กำหนดให้ “สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำรายละเอียดแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดิน และแผนผังการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค โดยจะต้องคำนึงถึงความสัมพันธ์กับชุมชน สุขภาวะของประชาชน สภาพแวดล้อม และระบบนิเวศตามหลักการการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยให้สร้างความรับรู้ที่ถูกต้องแก่ประชาชนในพื้นที่และรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของ ผู้มีส่วนได้เสีย ประชาชน และชุมชนที่เกี่ยวข้อง และให้ดำเนินการตามหลักวิชาการผังเมือง
จากข้อกฎหมายดังกล่าวข้างต้น จะเห็นได้ว่ากรมโยธาฯ จะเป็นหน่วยงานหลักในการจัดทำแผนผังดังกล่าว และได้ผ่านการรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่แล้ว
2. “ในเรื่องของการควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตผังเมืองอีอีซีนั้น การอนุมัติ/อนุญาตก่อสร้างและดำเนินการกิจกรรมประเภทต่างๆ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานภาครัฐดำเนินการตามประกาศคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกฯ ยกเว้นบริเวณพื้นที่เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งมาตรา 43 แห่ง พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.2561 ได้กำหนดไว้ว่า การดำเนินการหรือการกระทำใดภายในเขต ส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย 8 ฉบับ ได้แก่ 1) กฎหมายว่าด้วยการขุดดินและถมดิน 2) กฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร 3) กฎหมายว่าด้วยการจดทะเบียนเครื่องจักร 4) กฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข 5) กฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง เฉพาะ เพื่อการอนุญาตให้คนต่างด้าวตามมาตรา 54 (1) หรือ (2) อยู่ต่อในราชอาณาจักร 6) กฎหมายว่าด้วยทะเบียนพาณิชย์ 7) กฎหมายว่าด้วยโรงงาน 8) กฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดิน
ให้ถือว่าเลขาธิการเป็นผู้มีอำนาจอนุมัติ อนุญาต ออกใบอนุญาต หรือให้ความเห็นชอบ หรือเป็นผู้มีอำนาจในการรับจดทะเบียนหรือรับแจ้งตามกฎหมายนั้น แต่ยังคงต้องปฏิบัติตาม หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ตามกฎหมายนั้น…” และการใช้ประโยชน์ที่ดินก็ยังคงต้องเป็นไปตามที่ผังเมืองอีอีซีได้กำหนดไว้”
ประเด็นนี้ยังคงเผยถึงความซับซ้อนและซ้ำซ้อนที่จะเป็นอุปสรรคและความยุ่งยากต่อการพัฒนาเมืองที่ต้องว่ากันในตอน ต่อไป
นายช่าง
