ปลุกต้าน-2ค่ายมือถือควบรวมกิจการ
ธนาธรห่วงขึ้นราคา-ล้วงข้อมูล

วันที่ 24 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ร่วมพูดคุยผ่านคลับเฮาส์โดยคณะก้าวหน้า กลางดึก 23 พ.ย. หัวข้อ “ทรูควบรวมดีแทค ดีกับทุนใหญ่ แล้วคนไทยได้อะไร?” กรณีควบรวมกิจการระหว่างผู้ให้บริการโทรคมนาคม 2 ราย คือ ทรูคอร์เปอเรชั่น และดีแทค

นายธนาธรกล่าวว่า ในทศวรรษ 2010s ถึง 2020s มีการควบรวมกิจการโทรคมนาคมจาก 4 เหลือ 3 รายในหลายประเทศทั่วโลก ผลการศึกษาของ The European Regulator for Electronic Communications ผู้คุมกฎด้านการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ของสหภาพยุโรป และองค์กรเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) พบหลังควบรวมมีการขึ้นค่าบริหาร กรณีของไทยจะควบรวม 3 เหลือ 2 ราย ตนไม่ไว้ใจกลุ่มทุนทั้งสองกลุ่มว่าจะแข่งขันกันโดยเอาประโยชน์ของลูกค้าเป็นตัวตั้ง และจะไม่เกิดการแข่งขันพัฒนานวัตกรรม ส่งผลต่อการพัฒนาประเทศ อีกประการหากเกิดการควบรวมคือกรณีข้อมูลส่วนบุคคล การที่ ผู้ประกอบการที่ถือครองข้อมูลส่วนบุคคลจำนวนมากเพียงแค่สองเจ้า และยังเป็นกลุ่มทุนที่ใกล้ชิดคณะรัฐประหาร จะไม่มีการปกป้องข้อมูลประชาชน

จนถึงวันนี้หน่วยงานของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็น กสทช. หรือคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ไม่ลุกขึ้นมา ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน บทบาท กสทช.ที่ ขาดหายไปคือเจตจำนงที่ต้องปกป้องผู้บริโภค ผู้เสียเปรียบ ผู้ไม่มีปากไม่มีเสียงในสังคม

“มันเป็นเรื่องปากท้อง เรื่องอนาคตของลูกหลาน ถ้าแรงทัดทานของสังคมไม่พอ ไม่มีแรงหนุนหลังให้คนดีๆ ที่อยู่ใน กสทช.ลุกขึ้นมากล้าต่อสู้ เรื่องนี้จะส่งผลกระทบใหญ่หลวงกับพวกเราทั้งหมด จำเป็นอย่างมากที่ต้องส่งเสียงร่วมกัน ชักชวนให้ทุกคนช่วยกันพูดให้เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นสาธารณะ ทำให้เกิดแรงกดดันทางสังคมจนหน่วยงานรัฐไม่กล้าปิดหูปิดตาตัวเอง เพื่อไม่ให้ทรัพยากรธรรมชาติในกรณีนี้คือคลื่นความถี่กลายเป็นทรัพยากรของคนรวย” นายธนาธรกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน