เศรษฐกิจ - ลุ้นส่งออก‘ข้าว-ยาง’เพิ่ม เร่งวางระบบหวังขึ้นรถไฟ‘จีน-ลาว’

ลุ้นส่งออก‘ข้าว-ยาง’เพิ่ม – กระทรวงเกษตรฯ ลุยวางระบบขนส่งสินค้าไทย ผ่านสะพาน มิตรภาพไทย-ลาวขึ้นรถไฟไทย-จีน หวังเพิ่มยอดขายให้สินค้า เกษตร หลังเปิดหวูดขบวนปฐมฤกษ์ 2 ธ.ค.นี้ ดันส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปจีนฉลุย รอสัญญาณไทยใช้เส้นทางได้

นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรฯติดตามความคืบหน้า ของความพร้อมในเส้นทางขนส่งของรถไฟลาว-จีน ซึ่งจะเปิดตัว เดินขบวนรถไฟเที่ยวปฐมฤกษ์ วันที่ 2 ธ.ค.2564 อย่างใกล้ชิด

หากเปิดให้ใช้เส้นทางรถไฟลาว-จีน การขนส่งสินค้าระยะแรก จะให้บริการเฉพาะการขนส่งสินค้าเท่านั้น เน้นเฉพาะรูปแบบสินค้าเทกองของบริษัทจากจีนที่เข้าไปลงทุนในลาว เช่น ยางพารา มันสำปะหลังแห้ง เกลืออุตสาหกรรม และสินแร่ เป็นต้น

ทั้งยังมีกลุ่มสินค้าเกษตรที่ยังไม่สามารถนำเข้าไปยังจีนผ่านด่าน รถไฟโม่ฮาน 8 ประเภท ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำแช่เย็น ธัญพืช ผลไม้ สัตว์น้ำเพื่อการบริโภค ต้นกล้า ไม้ซุง และสินค้าสัตว์และพืชที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากสินค้าดังกล่าวจะต้องผ่านการตรวจสอบก่อน หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของลาว-จีน ประกาศให้มีการขนส่งสินค้าอย่างเป็นทางการแล้ว เชื่อว่า ผู้ประกอบการไทยสนใจจะส่งออกสินค้าเกษตรด้วยรถไฟมากขึ้น

โดยจีนและลาวตั้งเป้าปี 2568 จะขนส่งสินค้าทุกประเภทผ่านเส้นทางรถไฟดังกล่าว 8 ล้านตันต่อปี และเพิ่มเป็น 15 ล้านตันต่อปี ในปี 2573 และจะขยายเพิ่มขึ้นเป็น 23 ล้านตันต่อปี ภายในปี 2583 หรือเพิ่ม 12.5% ต่อปี

สำหรับการใช้บริการขนส่งสินค้าเกษตรที่จะใช้เส้นทางรถไฟลาว-จีน ของผู้ประกอบการไทย จะใช้เส้นทางจากด่านหนองคายข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 ไปจนถึงสถานีขนส่งสินค้า เวียงจันทน์ใต้ เพื่อโหลดสินค้าขึ้นรถไฟสายลาว-จีนไปยังปลายทาง

การขนส่งด้วยรถไฟสามารถร่นระยะเวลาการขนส่งได้จาก 2 วันเหลือ 10-15 ชั่วโมง คาดสินค้าเกษตรที่จะขนส่งด้วยเส้นทาง รถไฟลาว-จีน ได้แก่ ผลไม้ ์มันสำปะหลัง ยางพารา และข้าว

กระทรวงเกษตรฯ ทำแผนปฏิบัติการระยะกลาง และระยะยาว เพื่อรองรับการเปิดให้บริการเส้นทางรถไฟสายไทย-ลาว-จีน ในอนาคต ประกอบด้วยหลายแนวทาง คือ การเตรียมความพร้อม ของด่าน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการส่งออก- นำเข้าสินค้าเกษตร เป็นต้น