องคมนตรีอัญเชิญพัดยศ ถวาย‘พระธรรมวชิรมุนี’ – พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี อัญเชิญสัญญาบัตร พัดยศ และผ้าไตร ถวายแด่ พระธรรมวชิรมุนี วิ. (บุญชิต ญาณสังวโร) วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร พระอารามหลวง กรุงเทพฯ

ด้วย พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ ให้พระเทพวิสุทธิมุนี เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ในราชทินนามที่ พระธรรมวชิรมุนี ศรีวิปัสสนาคณาจารย์ ไพศาลศาสนกิจดิลก ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี พระราชาคณะชั้นธรรม ฝ่ายวิปัสสนาธุระ มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ 6 รูป

พระธรรมวชิรมุนี วิ. มีชื่อเสียงทางด้านวิปัสสนาและทำสมาธิเพื่อฝึกจิตให้มั่นคง

ปัจจุบัน สิริอายุ 60 ปี พรรษา 38 ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ, เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร และ ผอ.สถาบันวิปัสสนาธุระ มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

มีนามเดิม บุญชิต สุดโปร่ง เกิดเมื่อวันอังคารที่ 6 ก.ย.2503 ที่บ้านเลขที่ 84 หมู่ 1 ต.บึงเนียม อ.เมือง จ.ขอนแก่น บิดา-มารดาชื่อ นายอินทร์ และนางที สุดโปร่ง

พ.ศ.2513 จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านบึงเนียม จ.ขอนแก่น








Advertisement

จากนั้นเข้าพิธีบรรพชา ไปบวชเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 30 พ.ค.2514 ที่วัดศิริธรรมิกาวาส ต.โคกศรี อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยมีพระครูสิริสารธรรม (เหลา ปัญญาธโร) เป็นพระอุปัฌชาย์

ภายหลังบรรพชา มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกนักธรรม พ.ศ.2517 สามารถสอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก ที่วัดวุฒาราม สำนักเรียนคณะจังหวัดขอนแก่น

มีความสนใจในด้านการฝึกปฏิบัติวิปัสสนาธุระอย่างจริงจัง แต่ด้วยเห็นว่าวัดในต่างจังหวัดยังมีความไม่พร้อมในด้านการศึกษาหลายด้าน จึงตัดสินใจมุ่งหน้าเข้าเมืองหลวง ไปเรียนที่สำนักเรียนวัดมหาธาตุ ยุวราชรังสฤษฎิ์ ที่มีชื่อเสียงในด้านวิปัสสนากัมมัฏฐาน

เข้าพิธีบรรพชา (ครั้งที่ 2 ตามธรรมเนียมวัด) เมื่อวันที่ 28 ก.ค.2520 ที่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ โดยมีพระธรรมปัญญาบดี (สวัสดิ์ กิตติสาโร) เป็นพระอุปัชฌาย์

กระทั่งอายุ 23 ปี เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อ วันที่ 18 มี.ค.2526 ที่วัดมหาธาตุยุวราช รังสฤษฏิ์ มีสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสโภ) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์เป็นพระพิมลธรรม วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระธรรมวิสุทธาจาย์ (เหล่ว สุมโน) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์เป็นพระราชสารเวที วัดธาตุ พระอารามหลวง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระธรรมธีราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทธิ) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์เป็นพระเทพสิทธิมุนี วัดมหาธาตุยุวราช รังสฤษฎิ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

พ.ศ.2528 สอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค สำนักเรียนวัดมหาธาตุฯ

ศึกษาแนวทางปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานตามแนวมหาสติปัฏฐานจากประเทศพม่า หลักสูตรพระมหาสีสยาดอ โดยมีพระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทธิ) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่พระเทพสิทธิมุนี และพระภัททันตะ อาสภเถระ ธัมมาจริยะ เป็นผู้บอกพระกัมมัฏฐาน ภายใต้การอุปถัมภ์ของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสโภ) อธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์

ได้รับความไว้วางใจจากเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุฯ รับมอบหมายภารกิจสนองงานเจ้าอาวาส ทั้งในด้านการปกครอง การศึกษา และอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ เป็นพระวิปัสสนาจารย์ ประจำวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์, เป็นพระวิปัสสนาจารย์ประจำคณะพุทธศาสตร์, เป็นพระวิปัสสนาจารย์ บัณฑิตวิทยาลัย ระดับปริญญาโท-ปริญญาเอก มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2534 เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ ยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร พ.ศ.2543 เป็นเจ้าคณะเขตพญาไท พ.ศ.2546 เป็นพระอุปัชฌาย์วิสามัญ พ.ศ.2564 เป็นเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2541 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็น พระราชาคณะชั้นสามัญ ฝ่ายวิปัสสนาธุระที่ พระศรีวรญาณ วิ.

พ.ศ.2548 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ ชั้นราช ฝ่ายวิปัสสนาธุระที่ พระราชสิทธิมุนี วิ.

พ.ศ.2562 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ฝ่ายวิปัสสนาธุระที่ พระเทพวิสุทธิมุนี วิ.

พ.ศ.2564 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ฝ่ายวิปัสสนาธุระที่ พระธรรมวชิรมุนี วิ.

จนถึงทุกวันนี้ ยังคงมุ่งมั่นปฏิบัติศาสนกิจอย่างเต็มกำลังความสามารถ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน