บาร์ซ่าเยือนเสือใต้ชี้ชะตายูซีแอล – เดินทางมาถึงนัดสุดท้าย หรือนัดที่ 6 แล้วสำหรับฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาล 2021-22 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มอีถึงกลุ่มเอช โดยคู่ไฮไลต์ นั่นก็คือ บาร์เซโลนา ที่จะดวลกับ บาเยิร์น มิวนิก ชี้ชะตา “เจ้าบุญทุ่ม” ว่าจะได้ไปต่อในรายการนี้หรือไม่?
วันพุธที่ 8 ธันวาคม 2564
ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก
รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 6
กลุ่มอี
เบนฟิกา-ดินาโม เคียฟ เบนฟิกา ที่มี 5 คะแนน อยู่อันดับ 3 ของตาราง พบกับดินาโม เคียฟ ที่มี 1 คะแนน อยู่อันดับบ๊วยตาราง เกมนี้เจ้าถิ่นต้องชนะสถานเดียว หากต้องการผ่านเข้ารอบ และต้องลุ้นผลการแข่งขันอีกคู่ด้วย ซึ่งถ้าดูจากแรงจูงใจ เบนฟิกาน่าเป็นฝ่ายกำชัยได้
บาเยิร์น มิวนิก-บาร์เซโลนา บาเยิร์น มิวนิก จากเยอรมนี เปิดสนามอัลลิอันซ์ อารีนา รับการมาเยือนของบาร์เซโลนา จากสเปน โดยคู่นี้จะแข่งขันแบบไม่มีแฟนบอลเนื่องจากสถานการณ์ระบาดของโควิด-19
ผ่าน 5 นัดเท่ากัน บาเยิร์น มิวนิก ชนะ 5 นัดรวด มี 15 คะแนนเต็ม นำจ่าฝูงเข้ารอบไปแล้ว ส่วนบาร์เซโลนา ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2 นัดมี 7 คะแนนอยู่ในตำแหน่งรองจ่าฝูง
ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีมทุกรายการ เริ่มจาก บาเยิร์น มิวนิก ชนะไฟร์บวร์ก 2-1 (เหย้า, บุนเดสลีกา), แพ้ เอาส์บวร์ก 1-2 (เยือน, บุนเดสลีกา), ชนะดินาโม เคียฟ 2-1 (เยือน, ยูซีแอล), ชนะอาร์มีเนีย บีเลเฟลด์ 1-0 (เหย้า, บุนเดสลีกา) และชนะโบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ 3-2 (เยือน, บุนเดสลีกา)
ขณะที่บาร์เซโลนา เสมอเซลตา บีโก 3-3 (เยือน, ลา ลีกา), ชนะเอสปันญอล 1-0 (เหย้า, ลา ลีกา), เสมอเบนฟิกา 0-0 (เหย้า, ยูซีแอล), ชนะบียาร์เรอัล 3-1 (เยือน, ลา ลีกา) และแพ้ เรอัล เบติส 0-1 (เหย้า, ลา ลีกา)
ความพร้อมล่าสุดของทั้ง 2 ทีม บาเยิร์น มิวนิกจะยังไม่มี เอริก ชูโป-โมติง กับโยชัว คิมมิช ที่ติดโควิด-19 รวมถึง มาร์เซล ซาบิตเซอร์ และ ลูกาส์ แอร์กน็องเดซ ที่ฟิตไม่ทัน ด้านบาร์เซโลนาต้องลุ้นว่า อันซู ฟาติ แนวรุกดาวรุ่งจะหายจากอาการบาดเจ็บหรือไม่ แต่จะขาด เซร์จี โรเบร์โต, เปดรี, เซร์คิโอ อเกวโร และ มาร์ติน เบรธเวต ที่เดี้ยงทั้งหมด
11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าลงสนามของบาเยิร์น (4-2-3-1) : มานูเอล นอยเออร์-เบนฌาแมง ปาวาร์, ดาโยต์ อูปาเมกาโน, นิคลาส ซือเล, อัลฟองโซ เดวิส-เลออน โกเรตซ์กา, โกรองแตง โตลิสโซ-คิงส์ลีย์ โกมอง, โธมัส มุลเลอร์, เลอรอย ซาเน-โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี
บาร์เซโลนา (4-3-3) : มาร์ก-อังเดร แทร์ สเตเกน-แซร์จินโญ เดสต์, โรนัลด์ อเราโฮ, เคราร์ด ปิเก, จอร์ดี อัลบา-กาบี, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, แฟรงกี เดอ ยอง-อุสมาน เดมเบเล, เมมฟิส เดอปาย, ฟิลิปเป คูตินโญ
บาร์เซโลนา ต้องชนะไว้ก่อนเพื่อการการันตีตั๋วรอบ 16 ทีมสุดท้าย ถึงกระนั้นด้วยคุณภาพผู้เล่น รวมถึงฟอร์มล่าสุดที่ทั้งคู่พบกันซึ่ง “เสือใต้” ถล่มไป 3-0 ทำให้เชื่อว่าเจ้าบ้านคงซิวชัยไม่ยาก
กลุ่มเอฟ
อตาลันตา-บียาร์เรอัล เกมนี้เป็นการพบกันของ 2 ทีมที่ยังมีลุ้น เข้ารอบอย่างอตาลันตา ที่มี 6 คะแนนอยู่อันดับ 3 กลุ่ม และบียาร์เรอัล ที่มี 7 คะแนนอยู่อันดับ 2 ของตาราง นัดนี้ทีมเยือนต้องการเพียงผล เสมอเท่านั้น ขณะที่เจ้าถิ่นไม่มีทางเลือกต้องเก็บชัยให้ได้ ทว่าหากเทียบฟอร์มช่วงหลังเจ้าถิ่นดูดีกว่า และเชื่อว่าจะเบียดคว้า 3 คะแนนไปครอง
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด-ยัง บอยส์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มี 10 คะแนน นำจ่าฝูง และผ่านเข้าสู่รอบต่อไปเรียบร้อย ส่วน ยัง บอยส์ มี 4 คะแนน อยู่อันดับสุดท้ายตาราง และไม่มีสิทธิ์คว้าตั๋วเข้ารอบแล้ว
แม้จะไม่มีลุ้นอะไรแล้ว แต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังดูเหนือกว่า แถมได้เล่นในบ้าน เชื่อว่าพวกเขายังเน้น และน่าจะถอนแค้นไปได้ หลังเคยแพ้ไปในนัดแรกของรอบแบ่งกลุ่ม
กลุ่มจี
ซัลซ์บวร์ก-เซบีญา เป็นเกมสำคัญของทั้ง 2 ทีม เพราะเป็นการดวลกันของซัลซ์บวร์กที่มี 8 คะแนน อยู่อันดับ 2 ตารางกับเซบีญา ที่มี 6 คะแนนอยู่อันดับ 3 ตาราง ใครชนะก็จะผ่านเข้ารอบ
เจ้าถิ่นผลงานไม่ดีนักในช่วงหลัง สวนทางกับทีมเยือน เซบีญา ดูดีกว่าเล็กน้อย และมีลุ้นถึงการบุกมาคว้าชัย
โวล์ฟสบวร์ก-ลีลล์ โวล์ฟสบวร์ก ที่มี 5 คะแนน จะดวลกับลีลล์ ที่มี 8 คะแนนรั้งจ่าฝูง โดยแมตช์นี้ โวล์ฟสบวร์กต้องเก็บชัยให้ได้ และลุ้นผลอีกคู่หากหวังตั๋วเข้ารอบ ส่วนลีลล์ต้องการเพียง ผลเสมอเท่านั้นก็จะฉลุยน็อกเอาต์ โดยดูจากฟอร์มที่ผ่านมาทีมเยือนยังดูเหนือกว่า และน่าเก็บ 3 คะแนนไปครอง
กลุ่มเอช
ยูเวนตุส-มัลโม ยูเวนตุส ที่มี 12 คะแนนอยู่อันดับ 2 ตาราง พบกับมัลโมที่มี 1 คะแนนอยู่อันดับบ๊วยตาราง โดย “ม้าลาย” ผ่านเข้ารอบเป็นที่เรียบร้อย ส่วนมัลโมก็ไม่มีลุ้นอะไรแล้ว และด้วยคุณภาพทีม กับผลงานที่ผ่านมา เจ้าถิ่นน่าชนะได้ไม่ยาก
เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก-เชลซี เซนิต หมดลุ้นในการ เข้ารอบต่อไปแล้ว หลังมีเพียง 4 คะแนนอยู่อันดับ 3 ตาราง
ส่วนเชลซีมี 12 คะแนน นำจ่าฝูง โดยดูจากฟอร์มที่ผ่านมา ทีมเยือนยังดูดีกว่า และคงคว้าชัยไม่ยาก
