ไทยติดอันดับ 1 ใน10ขยะทะเลมาก – ตรัง – นายสุวิทย์ สารสิทธิ์ รองประธานกลุ่มพิทักษ์ดุหยง เผยว่า ร่วมกันเก็บขยะพลาสติกและขยะอุปกรณ์ประมง เพื่อทำความสะอาดแนวชายหาด แนวหญ้าทะเล รณรงค์สร้างความตระหนักให้กับสมาชิกในชุมชนเกาะ ลิบง ผ่านกิจกรรม “เกาะลิบงร่วมใจแก้ไขปัญหาขยะทะเล” สร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของสมาชิกในชุมชนเกาะลิบง ด้านการจัดการขยะ

เนื่องจากขยะส่งผลกับการเจริญเติบโต และขยายพันธุ์ของหญ้าทะเล เช่น ขวดและถุงพลาสติก ส่วนขยะทะเลจากเครื่องมือประมงก็ส่งผลกระทบต่อสัตว์ทะเลหายากทั้งพะยูน เต่าทะเล โลมา ตามปกติกลุ่มพิทักษ์ดุหยงก็มีจิตอาสาในการร่วมกันดูแลทรัพยากรทางทะเลกันอยู่แล้ว เช่น ในกรณีพบสัตว์ทะเลหายากเกยตื้น หรือพบซากก็จะประสานเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าเกาะลิบง สัตวแพทย์จากศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่างมาร่วมเก็บข้อมูลด้วยกัน

สำหรับขยะบนเกาะลิบงเก็บได้เยอะโดยเฉพาะบนฝั่ง ทางกลุ่ม ยังลงพื้นที่ให้ความรู้กับชาวบ้านในการคัดแยกขยะใน ครัวเรือน ขยะแบบไหนคัดแยกเป็นตัวเงินได้ ทุกภาคส่วนต้องเข้ามามีบทบาท

ด้านนายกิตติพันธุ์ ทรัพย์คูณ ผู้ประสานงานโครงการ IUCN ประเทศไทย เผยว่า องค์การระหว่างประเทศ เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ (IUCN) ดำเนินโครงการส่งเสริมรูปแบบเศรษฐกิจหมุนเวียนในระดับ ท้องถิ่น ส่งเสริมการมีส่วนร่วมปรับปรุงนโยบายด้านการจัดการขยะในระดับท้องถิ่นในพื้นที่เป้าหมาย

โดยการพัฒนาแผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะในระดับชุมชน ส่งเสริมความร่วมมือของภาคธุรกิจเอกชนและหน่วยงานภาครัฐอื่นๆ เพื่อลดผลกระทบจากขยะพลาสติกและขยะประเภทต่างๆ และขับเคลื่อนจังหวัดตรังสู่การพัฒนา ที่ยั่งยืนในการแก้ไขปัญหาขยะทะเลและอนุรักษ์พะยูน ร่วมกับชุมชน หมู่ 4 บ้านบาตูปูเต๊ะ และหมู่ 7 บ้านหาดทรายแก้ว ร่วมกันจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นสร้างความตระหนักรู้ถึงผลกระทบด้านต่างๆ สร้างความสามัคคีและการมีส่วนรับผิดชอบต่อสังคมด้านสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน

นับตั้งแต่ปี 2563 จากสถานการณ์ขยะทะเลไทยในกลุ่มอาเซียน พบว่าไทยติดอันดับ 10 ที่มีขยะทะเลมากที่สุดในโลก ส่วนใหญ่มาจากกิจกรรมต่างๆ บนบกถึงร้อยละ 80 โดยเฉพาะการท่องเที่ยวริมชายหาด รองลงมาเป็นขยะจากเรือประมง เรือขนส่งสินค้า และขยะข้ามแดนจากประเทศเพื่อนบ้าน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน