เขมรผนึก3จว.อีสานล่างไทย – กัมพูชาพึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหลัก แม้เปิดประเทศแล้วเมื่อ 15 พ.ย.2564 แต่แทบยังไม่มีนักท่องเที่ยว เดินทางเข้าประเทศ จากเดิมที่ก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 นักท่องเที่ยว ต่างชาติเยือนกัมพูชา 7 ล้านคนต่อปี สูญเสียรายได้มหาศาล

ดร.ซก กรัดทะยา ที่ปรึกษาส่วนตัวนายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว เดินทางมาเยือนไทยเมื่อเร็วๆ นี้ และให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวถึงแผนงานและวิสัยทัศน์ด้านการท่องเที่ยวหลังกัมพูชาเปิดประเทศ

สิ่งแรกคือ ต้องการเปลี่ยนการท่องเที่ยวของกัมพูชาจากเมื่อ 20 ปีที่แล้ว โมเดลท่องเที่ยวระหว่างไทยและกัมพูชาเปลี่ยนจากบ่อนกาสิโนเป็นเน้นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เนื่องจากรายได้กระจุกอยู่เพียงคนไม่กี่กลุ่ม และเน้นเพิ่มกิจกรรมท่องเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอยู่เดิม อาทิ นครวัด นครธม ในจ.เสียมราบ ซึ่งมีอายุกว่า 1,000 ปี

สำหรับคนไทย อยากให้ชาวไทยเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเก่าแก่ ศาสนา ความเชื่อ อาทิ ทริปกราบไหว้บรรพบุรุษเก่าแก่ 9 แห่ง การไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นครวัด การไปดูธรรมชาติที่สวยงาม เป็นต้น

ส่วนสินค้าท่องเที่ยว ทางกัมพูชาจะขุดเรื่องราว เรื่องเล่าเก่าๆ นำมาทำเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวในอาเซียน โดยเฉพาะจากไทย อาทิ แพ็กเกจทัวร์ ตามรอยซีรีส์ อีกทั้งขณะนี้เริ่มพูดคุยกับ ภาคเอกชนที่ทำธุรกิจบันเทิง เพื่อทำหนังหรือซีรีส์ร่วมกัน หรือสินค้า ท่องเที่ยวด้านความเชื่อ ความเชื่อเรื่องหมอดู มีโครงการผุดหมู่บ้านหมอดู นักท่องเที่ยวมีผ้าแดง ผ้ายันต์จากกัมพูชา และนำกลับ มาบ้านเพื่อความเป็นสิริมงคล จะรู้สึกว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยช่วยเหลือ เพื่อความสบายใจ

ก่อนโควิด-19 ยอดรวมนักท่องเที่ยวมากัมพูชาราว 7 ล้านคนต่อปี ได้แก่ จีน ยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลี ไทย เวียดนามและอื่นๆ

หวังว่าโมเดลจะเปลี่ยนโฉมการท่องเที่ยวของกัมพูชา ตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวไทยเดินทางมากัมพูชาในปี 2565 จำนวน 1.5 ล้านคน ใน ปี 2567 จำนวน 3 ล้านคน โดยคุยกับภาคเอกชนและการท่องเที่ยวไทยให้ช่วยผลักดันให้ได้

ดร.ซกเน้นว่า ความร่วมมือที่สำคัญที่สุดคือ ทางกัมพูชาอยากร่วมมือกับภาคอีสานของไทย ได้แก่ จังหวัดศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ตนอยากทำให้รู้สึกว่านักท่องเที่ยว ที่เที่ยวในไทยเดินทางไปเที่ยวกัมพูชา ต่อได้เลย เช่น เที่ยวสุรินทร์ บุรีรัมย์ 3 วัน 2 คืน แล้วต่อด้วยเสียมเรียบ

ดร.ซกเผยว่า รมว.การท่องเที่ยว และกีฬา และผู้ว่าการการท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย สนับสนุนโครงการ Two Kingdoms One Destination ระหว่างไทยและกัมพูชา และตนเองยินดีผลักดัน โดยอยากให้การเดินทางระหว่างกันสะดวก หวังให้เหมือนวีซ่าเชงเก้นของยุโรป นักท่องเที่ยวใช้แค่บัตรประชาชน ก็เดินทางท่องเที่ยวข้ามประเทศได้ หรือนักท่องเที่ยวต่างชาติขอแค่วีซ่าไทย แต่ใช้เดินทางไปกัมพูชาได้ด้วย ซึ่งอาจหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นหารือในการประชุมระดับรัฐมนตรีท่องเที่ยวของอาเซียนระหว่างวันที่ 16-22 ม.ค.2565

“กัมพูชาตอนนี้ไม่เหมือนกับกัมพูชา เมื่อ 20 ปีก่อน” ดร.ซกกล่าวเพื่อรับประกันความสะดวก ความสบาย ความปลอดภัย

สุจริตรา ธนะเศวตร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน