เชลซีเปิดบ้าน หวังคว้าชัยจากไบรตัน – ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกมีให้ติดตามต่อในค่ำคืนที่ใกล้ถึงวันปีใหม่นี้ เชลซี จะเปิดบ้านปะทะไบรตัน ขณะที่ เบรนต์ฟอร์ดรอดวลแข้งแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งผลการแข่งขันจะเป็นเช่นไรบ้าง ต้องมารอลุ้นกัน

วันพุธที่ 29 ธันวาคม 2564

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

เชลซี-ไบรตัน “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี เปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของ “นกนางนวล” ไบรตัน

โดยล่าสุด เชลซีลงเตะไป 19 นัด เก็บไป 41 คะแนน อยู่อันดับ 3 ส่วนไบรตันแข่ง 17 นัด มีอยู่ 23 คะแนน รั้งอันดับ 9

เช็กฟอร์มในลีก 5 เกมหลังสุด เชลซีแพ้เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-3(เยือน), ชนะลีดส์ ยูไนเต็ด 3-2(เหย้า), เสมอเอฟเวอร์ตัน 1-1(เหย้า), เสมอวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 0-0(เยือน), ชนะ แอสตัน วิลลา 3-1(เยือน)

ขณะที่ไบรตันเสมอลีดส์ ยูไนเต็ด 0-0(เหย้า), เสมอเวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-1(เยือน), เสมอเซาธ์แฮมป์ตัน 1-1(เยือน), แพ้วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 0-1(เหย้า), ชนะเบรนต์ฟอร์ด 2-0(เหย้า)

สถิติการเจอกันเอง 5 เกมหลังสุด เชลซีชนะ 3 นัด เสมอกัน 2 นัด แมตช์ที่พบกันในลีกฤดูกาลก่อน ไบรตันแพ้คาบ้าน 1-3 และเจ๊ากันบ้านเชลซี 0-0

ความพร้อมนัดนี้ เชลซีไม่มี เบน ชิลเวลล์, ไค ฮาเวิร์ตซ์, เอ็นโกโล ก็องเต, รูเบน ลอฟตัส-ชีก, ติอาโก ซิลวา, ติโม แวร์เนอร์ ที่บาดเจ็บและติดโควิด-19 รวมกัน ด้านไบรตันขาด ลูอิส ดังก์, เฆเรมี ซาร์มิเอนโต, โยเอล เฟลต์มัน มีอาการเจ็บ

คาดว่าเจ้าบ้านจะวางหมาก 3-4-3 เอดูอาร์ เมนดี : เซซาร์ อัซปิลิกูเอตา, แอนเดรียส คริสเตนเซน, อันโตนิโอ รูดิเกอร์ : รีซ เจมส์, มาเตโอ โควาชิช, จอร์จินโญ, มาร์กอส อลอนโซ : ฮาคิม ซิเยช, โรเมลู ลูกากู, เมสัน เมาต์

ด้านทีมเยือนคงใช้แผน 3-4-1-2 โรเบิร์ต ซานเชซ : อดัม เว็บสเตอร์, เชน ดัฟฟี, แดน เบิร์น : ทาริก แลมป์ตีย์, ยาคุบ โมเดอร์, อดัม ลัลลานา, มาร์ก กูกูเรยา : อีน็อก เอ็มเวปู : นีล โมเปย์, เลอันโดร ตรอสซาร์ด

เชลซีสภาพทีมถือว่าย่ำแย่ แถมไบรตันเองก็คงมาเน้นตั้งรับเต็มพิกัด แต่วัดกันแล้วยังเชื่อว่าเจ้าบ้านน่าเบียดชนะได้

เบรนต์ฟอร์ด-แมนเชสเตอร์ ซิตี้ “ผึ้งเพชฌฆาต” เบรนต์ฟอร์ด เปิดสนามเบรนต์ฟอร์ด คอมมูนิตี้ สเตเดียม รับการมาเยือนของ “เรือใบสีฟ้า”แมนเชสเตอร์ ซิตี้

โดยล่าสุด เบรนต์ฟอร์ดลงเตะไป 17 นัด เก็บไป 20 คะแนน อยู่อันดับ 13 ส่วนแมนฯ ซิตี้แข่ง 19 นัด มีอยู่ 47 คะแนน นำจ่าฝูง

เช็กฟอร์มในลีก 5 เกมหลังสุด เบรนต์ฟอร์ดชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0(เหย้า), แพ้ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 0-2(เยือน), เสมอลีดส์ ยูไนเต็ด 2-2(เยือน), ชนะวัตฟอร์ด 2-1(เหย้า), แพ้ไบรตัน 0-2(เยือน)

ส่วนแมนฯ ซิตี้ชนะวัตฟอร์ด 3-1(เยือน), ชนะวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 1-0(เหย้า), ชนะลีดส์ ยูไนเต็ด 7-0(เหย้า), ชนะนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 4-0(เยือน), ชนะเลสเตอร์ ซิตี้ 6-3(เหย้า)

สำหรับคู่นี้ห่างหายจากการเจอกันไปนานมาก หนล่าสุดต้องย้อนไปสมัยดิวิชั่น 1 เมื่อฤดูกาล 1937-38 เลยทีเดียว ซึ่งคราวนั้นแมนฯ ซิตี้แพ้คาบ้าน 0-2 และเบรนต์ฟอร์ดเปิดบ้านชนะ 2-1

ความพร้อมนัดนี้ เบรนต์ฟอร์ดขาด คริสตอฟเฟอร์ อาเยอร์, ทาริก โฟซู-เฮนรี, ชาร์ลี กูด, วิตาลี ยาเนลต์, จอช ดา ซิลวา, ดาบิด รายา ทั้งบาดเจ็บและติดโควิด-19 รวมกัน ด้านแมนฯ ซิตี้ไม่มี เฟร์รัน ตอร์เรส, ไคล์ วอล์กเกอร์ มีอาการเจ็บ แบ็งฌาแม็ง เมนดี โดนสโมสรลงโทษแบนอยู่

เจ้าบ้านคงใช้แผน 3-5-2 อัลบาโร เฟร์นานเดซ : อีธาน พินน็อก, ปอนตุส ยานส์สัน, แมดส์ เบก โซเรนเซน : เซร์กี กานอส, แชนดอน แบปติสต์, คริสเตียน นอร์การ์ด, มาธิอัส เยนเซน, โดมินิก ธอมป์สัน : ไบรอัน เอ็มโบโม, ไอแวน โทนีย์

ด้านทีมเยือนน่าจะวางหมาก 4-3-3 เอแดร์สัน โมไรส์ : เชา คันเซโล, รูเบน ดิอาส, อายเมอริก ลาปอร์กต์, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก : เควิน เดอ บรอยน์, แฟร์นานดินโญ, แบร์นาร์โด ซิลวา : ริยาด มาห์เรซ, กาเบรียล เชซุส, ราฮีม สเตอร์ลิง

เบรนต์ฟอร์ดถือว่าเป็นน้องใหม่ที่เล่นได้ไม่เลว แถมแมนฯ ซิตี้เองก็น่าจะกรอบเพราะลงเตะต่อเนื่อง แมตช์นี้อาจเจ๊ากันได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน