‘อนุทิน’ชูผลงานพิสูจน์ภูมิใจไทย – นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กับมุมมองการเมืองในปี 2565 การวางยุทธศาสตร์ของพรรคภูมิใจไทยที่จะใช้ในการสู้ศึกเลือกตั้ง ครั้งหน้า ตลอดจนคุณสมบัติของบุคคลที่จะเป็น นายกฯคนใหม่

มองสถานการณ์การเมืองปี 65

ปี 65 จะเป็นปีคนที่มีความเกี่ยวข้องทางการเมืองทุกคนน่าจะเข้าใจสถานภาพ เพราะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่หลายประเด็นถือเป็นสาระสำคัญ เมื่อทุกฝ่ายเดินทางมาถึงจุดนี้แล้ว เช่น การแก้ไขโดยเปลี่ยนเป็นบัตร เลือกตั้ง 2 ใบ ก็เป็นความต้องการของฝ่ายค้านด้วย พรรคใหญ่ก็มีความสุขกับบัตร 2 ใบ ดังนั้น ทุกฝ่ายต้องเดินตามกติกานี้

ในส่วนการออกร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ก็ดำเนินการตามขั้นตอนที่ต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง

ช่วงปลายปี 65 ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปก ถ้าเราให้ความมั่นใจได้ว่า ผู้นำจากประเทศทั้งหลายสามารถเดินทางมาประเทศไทยได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องโควิด-19 ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่มาก จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับคนทั้งโลกต่อประเทศไทย

สิ่งที่ตามมาคือการขับเคลื่อนในทุกมิติที่จะทำให้เศรษฐกิจ ของประเทศดีขึ้น หลังจากนั้นจะถือว่ารัฐบาลอยู่ครบเทอมแล้ว เพราะเหลืออีกเพียง 15 เดือน ถ้าเราอยู่เป็นเจ้าภาพการประชุม เอเปกได้โดยไม่ใช่รัฐบาลรักษาการ และไม่ได้เป็นรัฐบาลที่ไม่มีเสถียรภาพ ประโยชน์ทั้งหลายจะตกอยู่กับประเทศไทย และประชาชนไทย

ถ้าไม่มีเสถียรภาพ รัฐบาลเกิดมีอุบัติเหตุทางการเมืองก่อนการเลือกตั้ง กฎหมายลูกยังไม่เสร็จ เราจะไม่มีเหลืออะไรไปเจรจาต่อรอง

ถ้าเรานึกถึงอนาคตประเทศเป็นสำคัญ ก็ต้องเคารพกติกา อะไรที่รัฐบาลทำผิดพลาด ทำไม่ดีในสายตาฝ่ายค้าน รัฐธรรมนูญก็เปิดโอกาสให้ ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ มีกระบวนการทางรัฐสภาเป็นตัวกำหนดโดย ไม่ต้องมาเดินตามท้องถนน ไม่ต้องมาชุมนุมที่อาจทำให้มีเรื่องอื่นๆ ตามมา ซึ่งไม่เป็นผลดีกับใคร

มั่นใจหรือไม่ว่ารัฐบาลจะอยู่ครบเทอม

ในฐานะที่พรรคภูมิใจไทยเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลเห็นว่าตั้งแต่นายกฯ ไปจนถึงผู้บริหารประเทศทุกคนในคณะรัฐมนตรี ทำงานอย่างเต็มที่ แม้ว่ามีสถานการณ์โควิด-19 รัฐบาลก็ทำทุกวิถีทางที่จะประคับประคองบ้านเมือง ให้เกิดความเดือดร้อนน้อยที่สุด ซึ่งสามารถทำได้ระดับหนึ่ง

ปี 65 ในเมื่อเรามีวัคซีนที่เรียกได้ว่าเป็นประเทศอันดับต้นๆ ของโลก ที่สามารถฉีดวัคซีนให้ประชากรในประเทศอย่างครบถ้วน ก็จะมีแต่ศักยภาพดีๆ ที่จะเกิดขึ้น และเป็นคุณกับประเทศในอนาคต จะเป็นปีที่เริ่มสร้างหลังจากซ่อมมาแล้ว เพื่อให้เกิดความมั่นคงแข็งแกร่งในทุกๆ ด้าน

ถ้ามีอะไรเป็นอุปสรรคทำให้ชาวต่างชาติเกิดความกังวล ทั้งด้านเศรษฐกิจ และเสถียรภาพทางการเมืองต่างๆ จะเป็นการทำร้ายตัวเอง ซึ่งไม่มีประโยชน์อะไร ต่อให้รัฐบาลนี้มีอันเป็นไปในสภาพที่ประเทศอยู่ในอาการย่ำแย่ เต็มทน เพราะมีการใช้กลยุทธ์ทั้งหลายเพื่อทำลายรัฐบาลนี้ไป คนที่บอบช้ำไม่ใช่เฉพาะคนที่อยู่ในรัฐบาล แต่คนที่จะเสียหายอย่างรุนแรง คือ ประชาชนและประเทศ

วันนี้มาถึงตรงนี้เกินครึ่งไปแล้ว ใกล้ครบวาระแล้ว ก็ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะไว้วางใจพรรคไหน กลุ่มไหน เข้ามาทำหน้าที่เป็นตัวแทนพวกเขา

มองว่าช่วงนี้เป็นขาลงของรัฐบาลหรือไม่

ขาลงดีแล้วอย่าขาลอยชี้ฟ้า มนุษย์เราขาลงคือเดินได้ จึงไม่ได้มองเรื่องนี้ เราทำงานกันอย่างหนักขนาดนี้ ข้อเท็จจริงกับข้อกล่าวหา วาทกรรมกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ในยุคสมัยที่ข้อมูลข่าวสารรวดเร็วแบบนี้ ควรนำสิ่งที่เป็นประโยชน์ไปใช้เผยแพร่ให้กับประชาชนมากที่สุด

เชื่อว่ารัฐบาลทุกชุดเมื่อได้เข้ามาย่อมทำงานเต็มที่ ไม่เช่นนั้นไม่มีรัฐบาลไหนอยู่ได้ ถ้ารัฐบาลชุดนี้ไม่ได้ทำงานอย่างเต็มความสามารถหรือมีประสิทธิภาพ เราอยู่ไม่ถึงวันนี้แน่นอน เพราะประชาชนจะไม่ให้โอกาส แต่ประชาชนยังเห็นว่ารัฐบาลชุดนี้ทำงานอย่างหนัก ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง แต่เพื่อประโยชน์บ้านเมืองทั้งนั้น เราไม่มีเวลาไปคิดเรื่องที่ ไม่เข้าท่าแน่นอน

ประเด็นวาระนายกฯ 8 ปี จะทำให้เกิดอุบัติเหตุกับรัฐบาลได้หรือไม่

ข้อเท็จจริงมีอยู่แล้ว แน่นอนว่าต้องมีองค์กรใดองค์กรหนึ่งมาชี้ขาดว่า สิ่งที่ควรต้องเป็นคืออะไร ไม่ใช่หน้าที่ของผม ผมจึงไม่มีปัญหาอะไร กับใคร ถ้าผู้ที่ตีความสุดท้ายคือผู้ที่มีอำนาจตามรัฐธรรมนูญก็ต้องเป็นไป ตามนั้น ไม่ได้ถือว่าเป็นอุบัติเหตุอะไร เราก็เป็นผู้ร่วมงาน ผู้สังเกตการณ์ เพราะไม่ได้กระทบกับตัวเราโดยตรง

ถ้าเราถามคนที่เป็นฝ่ายเรา ก็จะบอกว่าอยู่ได้ มีข้อยกเว้นอยู่ ถ้าเราไปคุยกับฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล เขาจะบอกว่าอยู่ไม่ได้เพราะบัญญัติไว้ชัดเจน ในเมื่อมีความเห็นแตกต่างกันแบบนี้ ประเทศมีศาลรัฐธรรมนูญและกระบวนการยุติธรรมอื่นๆ ที่รัฐธรรมนูญให้อำนาจตัดสินอยู่แล้ว ถ้าบอกว่าอยู่ได้ท่านก็อยู่ต่อ ถ้าบอกว่าอยู่ต่อไม่ได้ ประเทศไทยก็ไม่มีวันที่จะขาดคนเป็นนายกฯ

ยุทธศาสตร์พรรคภูมิใจไทยที่จะใช้สู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า

พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคปฏิบัติ มีนโยบายที่ให้สัญญาไว้กับประชาชน พยายามทำให้นโยบายต่างๆ บรรลุผลสำเร็จ เรื่องของคมนาคม ขนส่ง การอนุมัติให้มีโครงการต่างๆ และการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ ก็พยายามทำอย่างเต็มที่

ด้านสาธารณสุข ที่ให้สัญญาประชาชนเรื่องกัญชาเพื่อนำมาใช้ทางการแพทย์ เป็นพืชเศรษฐกิจทางเลือก เราก็พยายามแก้กฎหมาย เพื่อให้ประชาชนทั่วไป เข้าถึงการปลูก การนำผลผลิตจากพืชกัญชามาสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจ เราทำ ตรงนี้ได้ 80% เหลือ 20% คือการทำกฎหมายให้ชัดเจน ในส่วนนั้นยังต้อง ใช้เวลา เพราะมีขั้นตอนทางกฎหมายอีกมาก เนื่องจากอาจจะขัดแย้งกับการกำหนดขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่ยังถือว่ากัญชาเป็นยาเสพติด

เรื่องระบบประกันสุขภาพ เรามีการต่อยอดให้ ไม่มีใครล้มล้าง 30 บาทรักษาทุกโรคได้ ไม่มีใครที่จะไปเคลมความสำเร็จของ ระบบดังกล่าวจากอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ได้อย่างแน่นอน เราต่อยอดสิ่งที่ท่านทำมาในอดีต จาก 30 บาทรักษาทุกโรคเป็นรักษาทุกที่ รักษาทุกโรคจริงๆ ไม่มีข้อยกเว้น สถานการณ์โควิด-19 ก็พิสูจน์ให้เห็นชัดเจนว่าระบบสาธารณสุขของเราเข้มแข็งถึงระดับครัวเรือน นี่คืองานที่พรรคภูมิใจไทยกำกับดูแล และพยายามทำมาโดยตลอด

พรรคภูมิใจไทยเน้นเรื่องปากท้องประชาชน ลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน ให้ประชาชนกินดีอยู่ดีมากที่สุด นี่คือนโยบายที่อธิบายได้ตรงไปตรงมา เมื่อเข้ามาก็ต้องทำ ไม่จำเป็นต้องกำหนดอะไรตายตัว

คาดหวังจำนวนส.ส. ในการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างไร

ใช้ผลงานของเราในการพิสูจน์ให้ชาวบ้านเห็น ว่าการที่เลือกพรรคภูมิใจไทยเข้ามา เราได้ทำงานอย่างเต็มที่ ทำตามสัญญาที่ได้ให้ไว้มากที่สุด ส.ส.ของพรรค และผู้สมัครของพรรคแต่ละคนสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ คือ ความเป็นหนึ่งเดียว พรรคว่าอย่างไรก็ว่าตามนั้น เราเปิดโอกาสให้มีการหารือ ถกเถียงกัน แต่เมื่อมติของพรรคเป็นอย่างไร เราก็พร้อมทำตาม มีความ เป็นเอกภาพ และเป็นปึกแผ่น

ยิ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็สามารถเร่งรัดโครงการต่างๆ ที่ผู้สมัครของพรรคให้สัญญาไว้กับชาวบ้าน เราก็ร่วมกันผลักดัน ดูแลความเจริญให้กระจายไปทั่วประเทศ ไม่ใช่ว่าจังหวัดไหนไม่เลือกพรรคภูมิใจไทยแล้วเราจะไม่ดูแลการบริหารราชการแผ่นดิน เราต้องทำให้ทุกที่ทั่วประเทศ ได้รับการใส่ใจจากพวกเราอย่างเต็มที่ สิ่งเหล่านี้ช่วยเสริมความมั่นใจว่าเราเป็นพรรคที่ไม่ขี้ริ้วขี้เหร่เกินไป ไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆ ในการปฏิบัติหน้าที่ เราทำทุกอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้เชื่อว่าพรรคภูมิใจไทยจะเป็นคำตอบแรกแน่นอน

คุณสมบัตินายกฯคนใหม่ คิดว่าตัวเองมีความพร้อมหรือไม่

พรรคภูมิใจไทยอยู่กับความจริงมากที่สุดพรรคหนึ่ง เข้าใจบริบทของการเมืองเป็นอย่างดี ไม่ฝืนธรรมชาติ โดยเอางานเป็นตัวพิสูจน์ให้ประชาชนเห็นว่าพรรคมีเอกภาพ มีวินัยที่ดี และมีความตั้งใจทำงานสูงมาก ท่ามกลางสถานการณ์ความอ่อนไหวทางการเมือง รัฐมนตรีของพรรคทุกคนทำงานหามรุ่งหามค่ำ ผู้แทนของพรรคก็เป็นผู้ที่มีความนิยมจากตัวเขาเอง ไม่ได้เล่นกระแส แต่มีความสามารถในการดูแลประชาชน ดูแล้วเป็นปัจจัยบวก แทบทุกเรื่อง

ในส่วนกระทรวงสาธารณสุข ถ้าเราไม่ทำงานก็คงบริหารสถานการณ์ โควิด-19 ไม่ได้ระดับนี้ กระทรวงคมนาคมอะไรเคยเป็นปัญหาในอดีต ทุกอย่างเริ่มคลี่คลาย โครงการต่างๆ สาธารณูปโภคต่างๆ หลายโครงการเกิดขึ้นในยุคพรรคภูมิใจไทยกำกับดูแล กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แม้ช่วงโควิด-19 การท่องเที่ยวจะมีปัญหา แต่เรื่องการเตรียมพร้อมในกรณีสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย เรามีความพร้อมด้านการท่องเที่ยว

เรากล้าคิด กล้าตัดสินใจ กล้าทำ นี่คือสไตล์ของพรรคภูมิใจไทย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน